รพ.กรุงเทพจันทบุรี ทุ่ม 150 ล้านบาทปรับสถานที่- เพิ่มบริการด้านการแพทย์ พร้อมติดตั้งระบบ WIFI ที่ศูนย์อุบัติเหตุฯ ครั้งแรกในประเทศไทย สามารถเช็คประวัติคนไข้ได้ทันที พร้อมตั้งศูนย์แพทย์เฉพาะทาง โรคหัวใจ มะเร็ง สมอง และผู้สูงอายุ หวังรับอานิสงส์ ไทยเมดิคัล ฮับ ออฟ เอเชีย
นายแพทย์ประยุทธ สมประกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี เปิดเผยว่า โรงพยาบาลได้ใช้เงินลงทุน 150 ล้านบาท ในการปรับปรุงเพิ่มเติม อาคารสถานที่และเครื่องมือที่ทันสมัย โดยเฉพาะเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์ มาใช้เพื่อความสะดวกด้านบริการแก่ลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น พร้อมกับรองรับการเติบโตที่จะมีขึ้นในอนาคต ล่าสุดโรงพยาบาลได้ติดตั้งระบบข้อมูลสารสนเทศ ให้เป็นระบบเดียวกันทั้งเครือข่าย ในกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพทั่วประเทศ คือระบบ Med Trak พร้อมกับตั้งระบบเครือข่ายไร้สาย WIFI ที่ศูนย์อุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน ร่วมกับ Mobile Work Station ซึ่งจะทำให้แพทย์สามารถตรวจสอบประวัติและสั่งการรักษาได้ทันที ระบบนี้ถูกนำมาใช้กับธุรกิจโรงพยาบาลเป็นครั้งแรกของประเทศไทย
ทั้งนี้จากการลงทุนดังกล่าวข้างต้น ปีนี้โรงพยาบาลจึงตั้งเป้ามีรายได้เติบโต 30% จากปีก่อน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้โรงพยาบาลมั่นใจและกล้าที่จะลงทุน เพราะตรงนี้จะทำให้โรงพยาบาลมีความพร้อมที่จะรองรับนโยบายภาครัฐที่ต้องการผลักดันในประเทศไทยเป็น "เมดิคัลฮับ ออฟ เอเชีย" ประกอบกับการที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้แบ่งพื้นที่เพื่อพัฒนาด้านการท่องเที่ยวออกเป็น 19 คลัสเตอร์ โดยในส่วนของภาคตะวันออก ซึ่งประกอบด้วย จังหวัด ระยอง จันทบุรี และตราด ได้ถูกจัดเป็น "Jewel coast" โดย จันทบุรี ถูกกำหนดให้เป็น Gems City หรือ นครแห่งอัญมณี ตรงนี้จะทำให้เกิดการลงทุนตลอดจนการติดต่อซื้อขายในภาคธุรกิจอัญมณีจำนวนมาก ซึ่งจะมีทั้งกลุ่มคนไทยและต่างชาติ ส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีการเติบโตเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจกลุ่มนี้ด้วย
ซึ่งในรายละเอียดของการดำเนินงาน โรงพยาบาลได้พัฒนา ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง เช่น ศูนย์โรคหัวใจ ที่มีทีมแพทย์ตั้งแต่ อายุรแพทย์หัวใจ แพทย์ผ่าตัดหัวใจ หลอดเลือดและทรวงอก ทีมแพทย์สาขาเวชบำบัด ดูแลผู้ป่วยวิกฤต ซึ่งตรงนี้จะมีแพทย์ประจำ 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังได้ตั้งศูนย์สวนหลอดเลือดหัวใจ เพื่อรองรับผู้ป่วยโรคหัวใจที่อยู่ในจังหวัดใกล้เคียง เช่น ตราด สระแก้ว และอ.แกลง จ.ระยอง ส่วนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ก็สามารถเดินทางเข้ามารักษาพยาบาลได้
"การลงทุนครั้งนี้ของโรงพยาบาล จะทำให้จันทบุรีเป็นศูนย์กลางของการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจแบบครบวงจร ดูแลกินอาณาเขตได้ทั้งจังหวัดใกล้เคียงและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมาตรฐานการรักษาพยาบาล จะเหมือนกับโรงพยาบาลกรุงเทพที่ซอยศูนย์วิจัย"
นอกจากนั้นยังได้ขยายงานในส่วนของการดูแลผู้ป่วยสูงอายุ เช่น ศูนย์ฟื้นฟูข้อเสื่อม พัฒนาศูนย์สมอง และศูนย์ดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง จัดเตรียมห้องแยกเฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องใช้เคมีบำบัด อีกทั้งยังเตรียมจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้บริการตรวจสุขภาพครบวงจร
นายแพทย์ประยุทธ สมประกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกรุงเทพจันทบุรี เปิดเผยว่า โรงพยาบาลได้ใช้เงินลงทุน 150 ล้านบาท ในการปรับปรุงเพิ่มเติม อาคารสถานที่และเครื่องมือที่ทันสมัย โดยเฉพาะเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์ มาใช้เพื่อความสะดวกด้านบริการแก่ลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น พร้อมกับรองรับการเติบโตที่จะมีขึ้นในอนาคต ล่าสุดโรงพยาบาลได้ติดตั้งระบบข้อมูลสารสนเทศ ให้เป็นระบบเดียวกันทั้งเครือข่าย ในกลุ่มโรงพยาบาลกรุงเทพทั่วประเทศ คือระบบ Med Trak พร้อมกับตั้งระบบเครือข่ายไร้สาย WIFI ที่ศูนย์อุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน ร่วมกับ Mobile Work Station ซึ่งจะทำให้แพทย์สามารถตรวจสอบประวัติและสั่งการรักษาได้ทันที ระบบนี้ถูกนำมาใช้กับธุรกิจโรงพยาบาลเป็นครั้งแรกของประเทศไทย
ทั้งนี้จากการลงทุนดังกล่าวข้างต้น ปีนี้โรงพยาบาลจึงตั้งเป้ามีรายได้เติบโต 30% จากปีก่อน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้โรงพยาบาลมั่นใจและกล้าที่จะลงทุน เพราะตรงนี้จะทำให้โรงพยาบาลมีความพร้อมที่จะรองรับนโยบายภาครัฐที่ต้องการผลักดันในประเทศไทยเป็น "เมดิคัลฮับ ออฟ เอเชีย" ประกอบกับการที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้แบ่งพื้นที่เพื่อพัฒนาด้านการท่องเที่ยวออกเป็น 19 คลัสเตอร์ โดยในส่วนของภาคตะวันออก ซึ่งประกอบด้วย จังหวัด ระยอง จันทบุรี และตราด ได้ถูกจัดเป็น "Jewel coast" โดย จันทบุรี ถูกกำหนดให้เป็น Gems City หรือ นครแห่งอัญมณี ตรงนี้จะทำให้เกิดการลงทุนตลอดจนการติดต่อซื้อขายในภาคธุรกิจอัญมณีจำนวนมาก ซึ่งจะมีทั้งกลุ่มคนไทยและต่างชาติ ส่งผลให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีการเติบโตเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจกลุ่มนี้ด้วย
ซึ่งในรายละเอียดของการดำเนินงาน โรงพยาบาลได้พัฒนา ศูนย์การแพทย์เฉพาะทาง เช่น ศูนย์โรคหัวใจ ที่มีทีมแพทย์ตั้งแต่ อายุรแพทย์หัวใจ แพทย์ผ่าตัดหัวใจ หลอดเลือดและทรวงอก ทีมแพทย์สาขาเวชบำบัด ดูแลผู้ป่วยวิกฤต ซึ่งตรงนี้จะมีแพทย์ประจำ 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังได้ตั้งศูนย์สวนหลอดเลือดหัวใจ เพื่อรองรับผู้ป่วยโรคหัวใจที่อยู่ในจังหวัดใกล้เคียง เช่น ตราด สระแก้ว และอ.แกลง จ.ระยอง ส่วนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา ก็สามารถเดินทางเข้ามารักษาพยาบาลได้
"การลงทุนครั้งนี้ของโรงพยาบาล จะทำให้จันทบุรีเป็นศูนย์กลางของการดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจแบบครบวงจร ดูแลกินอาณาเขตได้ทั้งจังหวัดใกล้เคียงและประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมาตรฐานการรักษาพยาบาล จะเหมือนกับโรงพยาบาลกรุงเทพที่ซอยศูนย์วิจัย"
นอกจากนั้นยังได้ขยายงานในส่วนของการดูแลผู้ป่วยสูงอายุ เช่น ศูนย์ฟื้นฟูข้อเสื่อม พัฒนาศูนย์สมอง และศูนย์ดูแลรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็ง จัดเตรียมห้องแยกเฉพาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องใช้เคมีบำบัด อีกทั้งยังเตรียมจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้บริการตรวจสุขภาพครบวงจร