นีโอสุกี้เดินเกมรุกตลาดต่างประเทศเน้นขายแฟรนไชส์ ล่าสุดเตรียมเปิดสาขาที่เขมร ช่วงกลางเดือนม.ค. นี้ เผยเวียดนาม ดูไบ มาเลเซียสนใจขอซื้อแฟรนไชส์ไปเปิด ส่วนตลาดไทยเน้นทำตลาด “น้ำจิ้มนีโอสุกี้” ผ่านจุดขายในโมเดิร์นเทรด หวังล่อใจลูกค้าให้ซื้อสินค้าทันที พร้อมเตรียมเปิดตัว “ซอสต้มยำ” กลางปีนี้เน้นตลาดส่งออก โดยเฉพาะในเอเชียและยุโรป คาดยอดรายได้ปีนี้โตกว่า 50%
นายสกนธ์ กัปปิยจรรยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นีโอสุกี้ ไทย เรสเทอรองสต์ จำกัด ผู้บริหารร้านนีโอสุกี้ เปิดเผยว่า แผนดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯจะเน้นไปที่การขายแฟรนไชส์ร้านนีโอสุกี้ให้กับต่างประเทศมากขึ้น โดยในช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ บริษัทฯเตรียมเปิดขายแฟรนไชส์ให้นักลงทุนของกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จากนั้นในปีหน้าเตรียมเปิดแฟรนไชส์ในประเทศอื่น เช่น เวียดนาม ,ดูไบ และมาเลเซียก็มีติดต่อเข้ามาขอซื้อแฟรนไชส์นีโอสุกี้ ซึ่งบริษัทฯกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ปัจจุบันบริษัทฯมีแฟรนไชส์ในต่างประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย 4 สาขา และญี่ปุ่นเปิด 1 สาขา ที่เมืองนาโกย่า โดยเงื่อนไขของแฟรนไชส์ในต่างประเทศจะต้องเสียค่ามาสเตอร์แฟรนไชส์ 50,000 เหรียญดอลล่าร์ มีสัญญานาน 5 ปีต่อ 5 ปีและจะต้องซื้อน้ำจิ้มและผงซุปไก่
ส่วนการขยายสาขาในตลาดไทยบริษัทฯไม่เน้นการเปิดสาขาร้านนีโอสุกี้เพิ่ม เนื่องจากพื้นที่ว่างตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ มีน้อย โดยปัจจุบันบริษัทฯมีสาขา 1 แห่งอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนแผนดำเนินงานปีนี้ในตลาดในประเทศ บริษัทฯจะเน้นทำตลาดซอสสุกี้ภายใต้ยี่ห้อ “นีโอสุกี้”ผ่านทางการจัดกิจกรรมบริเวณจุดขายตามห้างโมเดิร์นเทรดอย่างบิ๊กซี คาร์ฟูร์ และโลตัส เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทันทีหลังจากที่ได้ทดลองชิมรสชาติจิ้ม
อีกทั้งบริษัทฯต้องการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตามบ้านมากขึ้น ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดได้มากกว่าการรับประทานสุกี้ตามร้านทั่วไป ปัจจุบันนีโอสุกี้มีมีน้ำจิ้ม 2 สูตร ได้แก่ รสต้มยำ และรสกวางตุ้ง โดยรสต้มยำมีสัดส่วนยอดขาย 30% และกวางตุ้ง 70%
นอกจากนี้บริษัทฯเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ “ซอสต้มยำ” ในช่วงกลางปีนี้ โดยสินค้าใหม่นี้สามารถใช้ผสมน้ำและทำเป็นน้ำต้มยำได้แบบรวดเร็ว โดยการทำตลาดสินค้าใหม่จะเน้นทำตลาดส่งออกในต่างประเทศเป็นหลัก เช่น เอเชียและยุโรป เพื่อให้ชาวต่างประเทศรู้จักอาหารไทย อีกทั้งปัจจุบันซอสต้มยำเป็นสินค้าที่ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำตลาดอย่างจริงจัง ส่วนยอดรายได้รวมปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าจะมีรายได้เติบโตกว่า 50%
นายสกนธ์ กัปปิยจรรยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นีโอสุกี้ ไทย เรสเทอรองสต์ จำกัด ผู้บริหารร้านนีโอสุกี้ เปิดเผยว่า แผนดำเนินงานในปีนี้บริษัทฯจะเน้นไปที่การขายแฟรนไชส์ร้านนีโอสุกี้ให้กับต่างประเทศมากขึ้น โดยในช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ บริษัทฯเตรียมเปิดขายแฟรนไชส์ให้นักลงทุนของกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จากนั้นในปีหน้าเตรียมเปิดแฟรนไชส์ในประเทศอื่น เช่น เวียดนาม ,ดูไบ และมาเลเซียก็มีติดต่อเข้ามาขอซื้อแฟรนไชส์นีโอสุกี้ ซึ่งบริษัทฯกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา
ปัจจุบันบริษัทฯมีแฟรนไชส์ในต่างประเทศ อาทิ อินโดนีเซีย 4 สาขา และญี่ปุ่นเปิด 1 สาขา ที่เมืองนาโกย่า โดยเงื่อนไขของแฟรนไชส์ในต่างประเทศจะต้องเสียค่ามาสเตอร์แฟรนไชส์ 50,000 เหรียญดอลล่าร์ มีสัญญานาน 5 ปีต่อ 5 ปีและจะต้องซื้อน้ำจิ้มและผงซุปไก่
ส่วนการขยายสาขาในตลาดไทยบริษัทฯไม่เน้นการเปิดสาขาร้านนีโอสุกี้เพิ่ม เนื่องจากพื้นที่ว่างตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ มีน้อย โดยปัจจุบันบริษัทฯมีสาขา 1 แห่งอยู่ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ส่วนแผนดำเนินงานปีนี้ในตลาดในประเทศ บริษัทฯจะเน้นทำตลาดซอสสุกี้ภายใต้ยี่ห้อ “นีโอสุกี้”ผ่านทางการจัดกิจกรรมบริเวณจุดขายตามห้างโมเดิร์นเทรดอย่างบิ๊กซี คาร์ฟูร์ และโลตัส เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคให้ตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ทันทีหลังจากที่ได้ทดลองชิมรสชาติจิ้ม
อีกทั้งบริษัทฯต้องการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายตามบ้านมากขึ้น ซึ่งตรงนี้จะช่วยให้ผู้บริโภคประหยัดได้มากกว่าการรับประทานสุกี้ตามร้านทั่วไป ปัจจุบันนีโอสุกี้มีมีน้ำจิ้ม 2 สูตร ได้แก่ รสต้มยำ และรสกวางตุ้ง โดยรสต้มยำมีสัดส่วนยอดขาย 30% และกวางตุ้ง 70%
นอกจากนี้บริษัทฯเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ “ซอสต้มยำ” ในช่วงกลางปีนี้ โดยสินค้าใหม่นี้สามารถใช้ผสมน้ำและทำเป็นน้ำต้มยำได้แบบรวดเร็ว โดยการทำตลาดสินค้าใหม่จะเน้นทำตลาดส่งออกในต่างประเทศเป็นหลัก เช่น เอเชียและยุโรป เพื่อให้ชาวต่างประเทศรู้จักอาหารไทย อีกทั้งปัจจุบันซอสต้มยำเป็นสินค้าที่ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำตลาดอย่างจริงจัง ส่วนยอดรายได้รวมปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าจะมีรายได้เติบโตกว่า 50%