“วัฒนา” หวังสร้างไทยเป็นฮับผลิตของเล่น พร้อมส่งเสริมตลาดด้วยการเตรียมจัดทำห้องสมุดของเล่นทั่วประเทศไทย ด้านนายกสมาคมอุตฯของเล่นไทยเผยงาน “กู๊ด ทอย อวอร์ด2005” ช่วยยกระดับมาตรฐานของเล่นไทยทัดเทียมตลาดโลก “ดรีมทอย” เตรียมรุกตลาดของเล่นเด็กผู้หญิงมากขึ้น หลังพบว่าตลาดมีช่องว่างและมีโอกาสโต ส่วน “คิวบิซ” มีแผนเจาะตลาดของเล่นในประเทศมากขึ้น
นายวัฒนา เมืองสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวในงานแถลงข่าวการประกาศผลการประกวด “กู๊ด ทอย อวอร์ด2005” ซึ่งจัดโดยสมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทยว่า ของเล่นเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาการในด้านต่างๆของเด็ก ทั้งในด้านพัฒนาการทางสมอง สติปัญญา จินตนาการ อารมณ์ และสังคม ดังนั้นผู้ปกครองจึงควรศึกษาและความเข้าใจก่อนเลือกซื้อของเล่นให้ลูก ในส่วนของกระทรวงฯได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องของเล่นจึงได้จัดทำโครงการ “ห้องสมุดของเล่น” ซึ่งจะเริ่มทำในปีนี้ โดยมีแผนจะเริ่มทำให้ครบทั่วทุกภาคของไทย
สำหรับงาน“กู๊ด ทอย อวอร์ด2005” ครั้งนี้ นับเป็นการให้ความรู้และแนวทางที่ดีแก่ประชาชน อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญในการผลิตของเล่นให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยังเป็นสิ่งที่สอดรับกับสิ่งที่รัฐบาลกำลังทำ โดยรัฐบาลพยายามกระตุ้นให้เด็กไทยได้มีโอกาสเล่นของเล่นได้อย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้นภาครัฐจึงต้องสร้างฐานเศรษฐกิจให้ใหญ่ขึ้น เพื่อที่ต้นทุนการผลิตของเล่นจะได้ถูกลง ซึ่งตรงนี้มั่นใจว่าไทยมีศักยภาพในการเป็นฮับของการผลิตของเล่นในเอเชียได้
นางสาวดวงใจ คูห์ศรีวินิจ นายกสมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย กล่าวว่า โครงการกู๊ด ทอย อวอร์ด2005 ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2ที่จัดขึ้น โดยวัตถุประสงค์ของการจัดงานเพื่อต้องการพัฒนาและยกระดับตลาดของเล่นไทยให้มีมาตรฐานทัดเทียมตลาดต่างประเทศ รวมถึงต้องการให้ประชาชนหรือผู้ปกครองรับรู้การเลือกซื้อของเล่นที่เหมาะสมต่อการพัฒนาการของเด็กในแต่ละวัย
สำหรับปีนี้มีผู้ประกอบการของเล่นส่งผลงานเข้าประกวดกว่า 30 บริษัท โดยตัวชิ้นงานที่ส่งเข้าร่วมมีกว่า 100 แบบ ซึ่งรางวัลที่ได้จะแบ่งออกเป็น 11 ประเภท ได้แก่ ของเล่นสำหรับเด็กอ่อน , ของเล่นสำหรับเด็กอ่อนก่อนวัยเรียน,ของเล่นบทบาทสมมุติ และของเล่นที่มีการออกแบบสร้างสรรค์ เป็นต้น
ดรีมทอยรุกตลาดของเล่นหญิง
นายวีระรัตน์ กิจเลิศไพโรจน์ ผู้จัดการสายการตลาดและการขาย บริษัท ดรีมทอย จำกัด ผู้แทนจำหน่ายของเล่นภายใต้แบรนด์ "บันได" เปิดเผยว่า งานกู๊ด ทอย อวอร์ด 2005 ดรีมทอยได้ 1 รางวัลในกลุ่มฮอบบี้ ทอยหรือของเล่นเพื่อการสะสมหรืองานอดิเรก ซึ่งตรงนี้ถือเป็นใบเบิกทางที่ดีในการทำตลาดให้กับของเล่นแบรนด์ “บันได”
ส่วนแผนการตลาดปีนี้บริษัทฯเตรียมรุกตลาดของเล่นสำหรับผู้หญิงมากขึ้น เนื่องจากตลาดยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และตลาดนี้ยังขาดกระตุ้นที่ดี รวมถึงการที่ตลาดมีผู้เล่นน้อย ซึ่งสัดส่วนของเล่นในตลาดส่วนใหญ่กว่า 70% จะเป็นของเด็กผู้ชาย และอีก 30% เป็นของเด็กผู้หญิง ดังนั้นในปีนี้บริษัทฯ จึงเตรียมเปิดของเล่นใหม่ที่มีเทคโนโลยีไฮเทคเหมาะสำหรับเด็กผู้หญิงอีกไม่ต่ำกว่า 4 หมวด ในระดับราคาสินค้าไม่เกิน 1,000 บาท โดยคาดว่าจะเปิดตัวสินค้าใหม่ชุดแรกได้ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ขณะที่ของเด็กชายจะยังเน้นรูปแบบการต่อสู่ผจญภัยเป็นจุดขาย
ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายสินค้าของบริษัทฯแบ่งเป็น ของเล่นสำหรับผู้ชาย 80% และผู้หญิง คิดเป็น 20% ปีนี้คาดว่าสัดส่วนจะเปลี่ยนไปเป็น 35% หลังจากการรุกตลาดของเล่นสำหรับผู้หญิงมากขึ้น
สำหรับตลาดรวมของเล่นในปีนี้คาดว่าตลาดจะคงที่เหมือนช่วง 3 ปีที่ผ่านมา หรือมีมูลค่าตลาดประมาณ 4,000 ล้านบาท เนื่องจากอัตราการเกิดของเด็กลดลง ดังนั้นการที่จะทำให้ตลาดโตต้องอาศัยความร่วมมือของรัฐบาลในการช่วยส่งเสริมและการจัดกิจกรรมของสมาคมอุตสาหกรรมของเล่นไทย
นายวีระรัตน์ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่กังวลเกี่ยวกับตลาดของเล่นไทย คือ งานอดิเรกของเด็กไทยเปลี่ยนแปลงไป เด็กผู้ชายหันไปเล่นเกมมากขึ้น ส่วนเด็กผู้หญิงสนใจเรื่องเกี่ยวกับเสื้อผ้าและแฟชั่น ทั้งนี้สังเกตได้จากการรายการต่างๆในทีวีเริ่มปรับให้เด็กลง เพื่อสอดรับกับเด็กไทยที่โตเร็วขึ้น ซึ่งสินค้าของเล่นจึงต้องทำให้เป็นในรูปแบบแฟชั่นและสอดคล้องกับงานอดิเรกของเด็กที่สามารถทำร่วมกันได้ ตรงนี้สอดคล้องกับแนวคิดของบันไดที่ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้วที่เน้นของเล่นทามาก็อต ที่มีการเชื่อมต่อเน็ตเวิร์คระหว่างกัน
ส่วนของเล่นราคาถูกจากประเทศจีนที่เข้ามาตีตลาดนั้น จะแข่งขันกันด้านยี่ห้อ และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงไม่ส่งผลกระทบกับยอดขาย เนื่องจากบันไดเป็นของเล่นในระดับบน รวมทั้งจับกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อเป็นหลัก
คิวบิซรุกตลาดของเล่นในประเทศ
นางปิยะนุช วงศ์ประสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คิวบิซ อินเตอร์เนชั่นแนล ผู้ผลิตของเด็กเล่นประเภทเซรามิค ยี่ห้อ Small World และ World Wonder เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯมีแผนจะรุกตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น โดยจะเน้นขายสินค้าผ่านห้างสรรพสินค้าชั้นนำ และไดเรคเมล์ผ่านธนาคารกรุงศรีอยุธยา นครหลวงไทย ฯลฯ รวมถึงการขายผ่านโรงเรียนและการออกงานต่างๆ เช่น งานมหกรรมหนังสือเด็ก
ทั้งนี้บริษัทฯผลิตของเด็กเล่นเซรามิคมานานกว่า 4 ปีแล้ว เบื้องต้นเริ่มผลิตของที่ระลึกที่เลียนแบบสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของโลก โดยผลิตในขนาดย่อส่วน อาทิ ทัชมาฮาล นครวัด และหอไอเฟล ฯลน ซึ่งที่ผ่านมาตลาดให้การตอบรับดีจากลูกค้า โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศซึ่งบริษัทฯมียอดขาย คิดเป็นสัดส่วน 70% ที่เหลืออีก 30% เป็นตลาดในประเทศ