xs
xsm
sm
md
lg

'มิสลิลลี่'รื้อโปรเจกต์สร้างวิลล่าสไตล์ศรีวิชัย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เจ้าของแบรนด์"ดอกไม้มิสลิลลี่" ปรับคอนเซ็ปต์โครงการเนียวาน่า ภุตรี จ.ภูเก็ต หลังประเมินตลาดอสังหาฯเริ่มฟื้นตัว ชูวิลล่าสร้างแล้วเสร็จ ในสไตล์ศรีวิชัยประยุกต์ เล็งเจรจาขอเงินกู้จากแบงก์กรุงไทยเพิ่ม

นายเรวัต จินดาพล
ผู้ดำเนินธุรกิจส่งดอกไม้ทั่วไทยในแบรนด์ " มิสลิลลี่"และสนามกอล์ฟ "บลูแคนยอน"จังหวัดภูเก็ต ในฐานะผู้ก่อตั้ง บริษัท เนียวาน่า ภุตรี จำกัด ซึ่งพัฒนาโครงการ"เนียวาน่า ภุตรี"โดยเป็นโครงการที่ร่วมทุนกับกลุ่มผู้ถือหุ้นอีก 3 กลุ่ม คือกลุ่มทุนสิงคโปร์และกลุ่มคนไทย ในสัดส่วนที่เท่ากันคือ 25% เปิดเผยว่าในช่วงที่เกิดเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ ปรากฏว่าโรงแรมและรีสอร์ทตั้งแต่ 3-6 ดาว ที่เข้าไปเปิดตัวก่อนหน้านี้ ได้รับความเสียหายไปกว่า 5,000 ห้อง โดยเฉพาะบริเวณเขาหลักจ.พังงา นั้นถือว่าเสียหายมากที่สุดประมาณ4,000 ห้อง แบ่งเป็นโรงแรม-รีสอร์ทระดับ 5-6 ดาว ประมาณ 1,000 กว่าห้อง ทำให้ห้องพักราคาแพงหายไปจากตลาดเกือบหมด

อย่างไรก็ตาม หลังจากเหตุการณ์ได้ผ่านพ้นไปได้ 1 ปี พบว่าราคาที่พักที่เคยตกลงมาระยะหนึ่งนั้น ขณะนี้ได้กลับมาสู่ราคาปกติแล้ว แต่โรงแรม-รีสอร์ท ระดับ 4-6 ดาวที่นักท่องเที่ยวต้องการก็ยังขาดตลาดอยู่ ซึ่งราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 500-800 เหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ขณะนี้เชนจากต่างประเทศต่างมุ่งหน้าหันมาตลาดภูเก็ตกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากที่ภูเก็ตจะมีการฟื้นตัวเร็วมากที่สุด โดยกลุ่มเชนบริหารชื่อดังที่เข้ามาเช่น สตาร์วูด,ไฮแอทฯ,แอคคอร์,โฟร์ซีซันส์และริชคาร์ตัน เป็นต้น

"การที่เชนต่างประเทศหันมาสนใจทำเลภูเก็ตมากขึ้นอีกครั้งหนึ่งนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาโรงแรมในการบริหาร เพราะปัจจุบันผู้ประกอบการเริ่มหาพื้นที่ติดชายหาดเพื่อพัฒนาโครงการได้ยากขึ้น เพราะติดปัญหาเรื่องความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 80 เมตร หรือหากได้ที่ดินไม่ติดทะเล ก็ต้องหามาทำเลบนเชิงเขาที่สามารถมองเห็นวิวทะเล แต่ต้องไม่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 80 เมตร "นายเรวัต กล่าว

นายเรวัต กล่าวต่อว่า เมื่อการท่องเที่ยวในจ.ภูเก็ตเริ่มกลับมาบูมอีกครั้งหนึ่ง ธุรกิจที่จะต้องบูมตามมาติดๆก็คืออสังหาริมทรัพย์ เรียกว่าดีกว่าช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์สึนามิเสียด้วยซ้ำ และเชื่อว่าในกลางปี49 ธุรกิจอสังหาฯจะมีความคึกคักมากยิ่งขึ้น

ดังนั้นตนจึงมีการปรับเปลี่ยนแผนและรูปแบบการพัฒนาโครงการ " เนียวาน่า ภุตรี "ซึ่งตั้งอยู่ที่ ถนนเจ้าฟ้านอก ใกล้วัดฉลอง จ.ภูเก็ต บนพื้นที่ 96 ไร่ ที่เดิมพัฒนาในรูปแบบของวิลล่าสั่งสร้างในรูปแบบลองสเตย์ จำนวน 28 ยูนิต ได้ปรับเป็น วิลล่าสร้างแล้วเสร็จ ในสไตล์ศรีวิชัยประยุกต์ ซึ่งเป็นการจำลองรูปแบบนครวัดมาไว้ในบ้านแต่ละแบบในลักษณะของ"ภูวิลล่า" ซึ่งได้ปรับลดลงมาจากเดิมที่มี 4 แบบเหลือเพียง 3 แบบ มีขนาดตั้งแต่ 2-4 ห้องนอน บ้านทุกหลังจะมีสระว่ายน้ำ

โดยในระยะแรกจะดำเนินการในลักษณะของการให้เช่าก่อนราคาคืนละประมาณ 1-3 หมื่นบาทต่อหลัง ครั้นพอถึงปีที่ 2-3 ของการบริหารงานก็อาจจะปรับรูปแบบด้วยการนำวิลล่าดังกล่าวมาขาย โดยเป็นการขายสิทธิการเช่าระยะยาว 90 ปี และสามารถต่ออายุได้อีก 30 ปีเป็นจำนวน 2 ครั้ง ซึ่งราคาขายจะอยู่ที่ประมาณ 20-40 ล้านบาท โดยลูกค้าที่ซื้อวิลล่าแล้วไม่ค่อยได้มาพัก ทางบริษัทก็จะให้เชนเข้ามาบริหารโดยหาผู้เช่าให้ และแบ่งผลกำไรให้ตามอัตราที่กำหนด

นอกจากนี้ ยังมีการสร้างโรงแรมขนาด70 ห้องอีก 1 อาคาร อัตราค่าบริการอยู่ที่ประมาณ 6,000 บาทขึ้นไปต่อห้องต่อคืน สำหรับเชนจากต่างประเทศที่จะเข้ามาบริหารนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณา ซึ่งมี 2 กลุ่มให้เลือกคือกลุ่มแอคคอร์และสตาร์วูด ที่เป็นเชนบริหารโรงแรมระดับ 5 ดาว คาดว่าจะสามารถสรุปผลได้ในเร็วๆนี้ สำหรับกลุ่มเป้าหมายนั้นจะเน้นชาวต่างชาติเป็นหลัก

สำหรับแหล่งเงินลงทุนนั้น เดิมเป็นการกู้จากธนาคารกรุงไทยประมาณ 400 ล้านบาท แต่หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงการ จะต้องมีการเพิ่มวงเงินเป็น 700 ล้านบาท ซึ่งคงต้องมีการเจรจากับธนาคารกรุงไทยอีกครั้งหนึ่ง ส่วนที่เหลือเป็นเงินทุนของตนและผู้ร่วมทุน คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น