นายกรัฐมนตรีกำชับกรมศุลกากรเร่งสะสางปัญหารับเงินใต้โต๊ะ เน้นการทำงานที่โปร่งใสมากขึ้น โดยจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 49 พร้อมสั่งชะลอการประมูลโครงการของรัฐด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ของหน่วยงานรัฐหลังพบการฮั้วราคาเกิดขึ้น รวมทั้งเร่งป้องกันการทุจริตปลอมปนข้าวที่รับจำนำด้วย
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กล่าวก่อนเข้าสู่วาระการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าหลังจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้สำรวจนักธุรกิจ ผู้นำเข้า และส่งออก ปรากฏว่ากรมศุลกากรมีปัญหาจ่ายเงินใต้โต๊ะกว่าร้อยละ 70 ถึงแม้จะเริ่มใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์แล้วก็ตาม ดังนั้น จึงสั่งให้กรมศุลกากรเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว ทั้งการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์อีดีไอ การให้บริการแบบวัน สต็อป เซอร์วิส และการแก้ปัญหาชิปปิ้ง ซึ่งเป็นนายหน้าให้แก่ผู้ส่งออก-นำเข้า เน้นการทำงานที่มีความโปร่งใส โดยดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 2549
นอกจากนี้ ยังให้หน่วยราชการต่างๆ ชะลอการเปิดประมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ e-auction โครงการที่มีมูลค่าเกิน 1,000 ล้านบาท เพื่อรอให้กฎระเบียบใหม่ที่มีความชัดเจนออกมาควบคุมดูแล เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาถึงแม้จะประมูลด้วย e-auction แต่ผู้รับเหมาก็พยายามพลิกแพลงและฮั้วราคากันได้
ขณะเดียวกันคณะรัฐมนตรียังได้แต่งตั้งให้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผู้กำกับดูแลโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเพื่อป้องกันการทุจริต โดยเฉพาะการปลอมปนข้าว ซึ่งจะตั้งทีมเฉพาะกิจเข้าไปควบคุมดูแล มีผู้ว่าราชการจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดร่วมกันตรวจสอบ