กรมสรรพสามิตเร่งจับกุมบุหรี่และสุราเถื่อนทั่วประเทศ โดยในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน จับกุมผู้กระทำผิดได้ 4,833 คดี จำนวนเงินค่าปรับ 36.32 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นคดีเกี่ยวกับสุราเกือบ 4,000 คดี ล่าสุดได้เพิกถอนใบอนุญาตผู้ประกอบการในจังหวัดปทุมธานี 2 ราย พร้อมขู่หากพบการกระทำผิดของร้านค้า จะเพิกถอนใบอนุญาตทันที
นายอุทิศ ธรรมวาทิน อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดเฉพาะกิจของกรมสรรพสามิตได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกกวาดล้างและจับกุมบุหรี่และสุราเถื่อนทั่วประเทศ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่และสุราไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ชุดเฉพาะกิจสามารถจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ. 2509 ได้ 2 ราย ที่จังหวัดปทุมธานี ได้ผู้ต้องหา 2 ราย และของกลางเป็นบุหรี่ไทยจำนวน 4,000 ซอง ซึ่งไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิตให้ถูกต้อง และได้เปรียบเทียบปรับเป็นเงินกว่า 1.31 ล้านบาท พร้อมเพิกถอนใบอนุญาตกับผู้ประกอบการทั้ง 2 รายแล้ว
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7-14 ธันวาคมที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดในคดียาสูบทั่วประเทศจำนวน 81 ราย แยกเป็นบุหรี่ในประเทศจำนวน 4,361 ซอง บุหรี่ต่างประเทศจำนวน 6,044 ซอง คิดเป็นค่าปรับจำนวน 3.37 ล้านบาท
ส่วนผลการปราบปรามผู้กระทำผิดในคดียาสูบและสุรา ตั้งแต่เดือนตุลาคม- พฤศจิกายน 2548 นายอุทิศ กล่าวว่า สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 4,833 คดี คิดเป็นค่าเปรียบเทียบปรับจำนวน 36.32 ล้านบาท แยกเป็นคดียาสูบจำนวน 889 คดี ค่าเปรียบเทียบปรับจำนวน 22.60 ล้านบาท ส่วนคดีสุราสามารถจับกุมได้ทั้งสิ้น 3,944 คดี ค่าเปรียบเทียบปรับจำนวน 13.71 ล้านบาท มีของกลางคือ สุรากลั่นจำนวน 22,740.45 ลิตร สุราแช่ 82,677.30 ลิตร เชื้อสุรา 566.96 กิโลกรัม สุราต่างประเทศ 2,464.94 ลิตร และเครื่องต้มกลั่นสุรา จำนวน 65 ชุด
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวอีกว่า หากกรมสรรพสามิตตรวจพบร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่และสุราที่ทำผิดกฎหมาย จะเพิกถอนใบอนุญาตทันที หากเป็นเอเย่นต์จะให้สรรพสามิตพื้นที่เพิกถอนใบอนุญาตทันทีเช่นกัน และแจ้งให้โรงงานยาสูบทราบต่อไป โดยกรมสรรพสามิตได้ทำหนังสือห้ามโรงงานยาสูบ จำหน่ายยาสูบแก่ผู้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตอีกต่อไป และหากประชาชนพบหรือทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตทั่วประเทศ หรือที่ศูนย์ฮอทไลน์ กรมสรรพสามิต ที่เบอร์ 1713 หรือที่ www.excise.go.th หรือตู้ ปณ. 10 เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 ได้ทันที
นายอุทิศ ธรรมวาทิน อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ชุดเฉพาะกิจของกรมสรรพสามิตได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกกวาดล้างและจับกุมบุหรี่และสุราเถื่อนทั่วประเทศ หลังจากที่ได้ปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตบุหรี่และสุราไปก่อนหน้านี้ ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมที่ผ่านมา ชุดเฉพาะกิจสามารถจับกุมผู้กระทำผิด พ.ร.บ.ยาสูบ พ.ศ. 2509 ได้ 2 ราย ที่จังหวัดปทุมธานี ได้ผู้ต้องหา 2 ราย และของกลางเป็นบุหรี่ไทยจำนวน 4,000 ซอง ซึ่งไม่ได้เสียภาษีสรรพสามิตให้ถูกต้อง และได้เปรียบเทียบปรับเป็นเงินกว่า 1.31 ล้านบาท พร้อมเพิกถอนใบอนุญาตกับผู้ประกอบการทั้ง 2 รายแล้ว
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 7-14 ธันวาคมที่ผ่านมา กรมสรรพสามิตสามารถจับกุมผู้กระทำผิดในคดียาสูบทั่วประเทศจำนวน 81 ราย แยกเป็นบุหรี่ในประเทศจำนวน 4,361 ซอง บุหรี่ต่างประเทศจำนวน 6,044 ซอง คิดเป็นค่าปรับจำนวน 3.37 ล้านบาท
ส่วนผลการปราบปรามผู้กระทำผิดในคดียาสูบและสุรา ตั้งแต่เดือนตุลาคม- พฤศจิกายน 2548 นายอุทิศ กล่าวว่า สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้จำนวน 4,833 คดี คิดเป็นค่าเปรียบเทียบปรับจำนวน 36.32 ล้านบาท แยกเป็นคดียาสูบจำนวน 889 คดี ค่าเปรียบเทียบปรับจำนวน 22.60 ล้านบาท ส่วนคดีสุราสามารถจับกุมได้ทั้งสิ้น 3,944 คดี ค่าเปรียบเทียบปรับจำนวน 13.71 ล้านบาท มีของกลางคือ สุรากลั่นจำนวน 22,740.45 ลิตร สุราแช่ 82,677.30 ลิตร เชื้อสุรา 566.96 กิโลกรัม สุราต่างประเทศ 2,464.94 ลิตร และเครื่องต้มกลั่นสุรา จำนวน 65 ชุด
อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวอีกว่า หากกรมสรรพสามิตตรวจพบร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่และสุราที่ทำผิดกฎหมาย จะเพิกถอนใบอนุญาตทันที หากเป็นเอเย่นต์จะให้สรรพสามิตพื้นที่เพิกถอนใบอนุญาตทันทีเช่นกัน และแจ้งให้โรงงานยาสูบทราบต่อไป โดยกรมสรรพสามิตได้ทำหนังสือห้ามโรงงานยาสูบ จำหน่ายยาสูบแก่ผู้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตอีกต่อไป และหากประชาชนพบหรือทราบเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิต สามารถแจ้งโดยตรงได้ที่กรมสรรพสามิต หรือสำนักงานสรรพสามิตทั่วประเทศ หรือที่ศูนย์ฮอทไลน์ กรมสรรพสามิต ที่เบอร์ 1713 หรือที่ www.excise.go.th หรือตู้ ปณ. 10 เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 ได้ทันที