สุดยอดการแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าแห่งประเทศไทยครั้งที่ 2 กำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ณ ออลซีซั่น เพลส ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 3 มีนาคม 2549 โดยผู้ชนะเลิศจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าระดับโลก ณ เมืองเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันที่ 19 ถึง 21 พฤษภาคม 2549
วัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขันชิงแชมป์โลก และการแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าแห่งประเทศไทยนั้นก็เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพ และสร้างสีสันให้กับวงการกาแฟ อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างมิตรภาพและแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านกาแฟกันจากทั่วทุกมุมโลกระหว่างบาริสต้า ผู้คั่วกาแฟ ผู้ขายกาแฟปลีก อาทิเช่น โรงแรม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ บาร์ เป็นต้น รวมไปถึงนักดี่มกาแฟอีกด้วย โดยการจัดเวทีให้แสดงออกถึงความสามารถพิเศษ ความเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านกาแฟ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถที่จะบ่งบอกได้ว่าเป็นเขาเหล่านั้นเป็นบาริสต้าที่มีประสบการณ์ในการอบรมและมีความพร้อมอย่างผู้เชี่ยวชาญ
การแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าระดับโลกครั้งล่าสุดจัดขึ้นที่ รัฐซีแอทเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการแข่งขันนี้เป็นการทดสอบการทำกาแฟให้ได้รสชาติเหมือนต้นตำรับซึ่งถือได้ว่าเป็นการทดสอบความเป็นบาริสต้ามืออาชีพ ซึ่งบททดสอบในการแข่งขันครั้งนี้คือการนำปัจจัยทุกปัจจัยที่จำเป็นในการทำกาแฟมาทำให้ได้กาแฟรสชาติเยี่ยม รวมไปถึงเทคนิค ความสามารถส่วนบุคคลในการนำเสนอ คุณภาพและรสชาติของกาแฟ โดยแชมป์บาริสต้าประจำประเทศไทย ปี 2548 คือ คุณสุพจน์ ลี้สุวัฒนกุล ซึ่งเป็นตัวแทนจากบริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เป็นคนไทยคนแรกที่ได้เข้าร่วมในการแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าระดับโลก โดยได้เข้าร่วมชิงชัยกับแชมป์บาริสต้าประจำประเทศต่างๆ ถึง 30 ประเทศ
ผู้สนับสนุนหลักของงานการแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าแห่งประเทศไทย 2006 ในครั้งนี้ เป็นบริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านการผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟ โดยถือเป็นการจัดงานการแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าแห่งประเทศไทยเป็นครั้งที่ 2 คุณมาลีรัตน์ ธนาประชุม กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ทางบอนกาแฟฯ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสเป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดงานการแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าแห่งประเทศไทยอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากการแข่งขันนี้ส่งผลให้กาแฟไทยก้าวเข้าสู่ตลาดโลก โดยบอนกาแฟถือเป็นผู้นำในการพัฒนาและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับลูกค้าและผู้บริโภคในเรื่องคุณภาพของกาแฟไทย”
นอกจากนี้ยังกล่าวเสริมด้วยว่า “นอกจากที่กล่าวมาในข้างต้นแล้วนั้น ยังเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลับคืนสู่ชุมชนและคนทำกาแฟอีกด้วย และดิฉันก็มั่นใจว่าแชมป์บาริสต้าในการแข่งขันครั้งนี้จะก้าวเข้าสู่เวทีการแข่งขันระดับโลกได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือได้ว่าเป็นบาริสต้าที่เก่งที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย”
ผู้ร่วมสนับสนุนการแข่งขันครั้งนี้คือ ออล ซีซั่นส์ เพลส, โทรานี่ สหรัฐ,อเมริกา (เป็นบริษัทผู้นำทางด้านการผลิตน้ำเชื่อมกลิ่นต่างๆ สำหรับใส่กาแฟ), ลา มาร์ซอคโก้ (ผู้ผลิตเครื่องทำกาแฟระดับเฟอร์รารี่ ประเทศอิตาลี), สมาคมอาหารและเครื่องดื่มแห่งประเทศไทย, นิตยสาร เอสเอ็มอี ไทยแลนด์, นิตยสาร มาร์เกทเทียร, นิตยสาร ตั้งตัว, และนิตยสาร ไทยแลนด์ เรสเตอร์รอง นิวส์
คุณสันโจก มอดกิล ประธานสมาคมอาหารและเครื่องดื่มแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การจัดงานแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าแห่งประเทศไทยครั้งที่ 2 นี้ เป็นโอกาสอันดีอีกครั้งหนึ่งสำหรับนักทำกาแฟไทยที่จะได้แสดงความรู้ ความสามารถให้นานาชาติได้เห็นว่า คนไทยมีฝีมือในการทำกาแฟได้ทัดเทียมในระดับโลก นอกจากนี้ ทางสมาคมฯ ยังได้สนับสนุนให้สมาชิกของทางสมาคมฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันชิงแชมป์ในครั้งนี้ด้วย”
คุณคาเมรอน สเตอร์ลิง กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิลาน ครอส ครีเอทีฟ จำกัด กล่าวว่า ”ทางบริษัท มิลาน ครอส ครีเอทีฟ จำกัด มีความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจจากทาง WBC (World Barista Championship) ในการเป็นผู้ควบคุมและดูแลการจัดงานแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าแห่งประเทศไทยขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากการแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าระดับโลกนั้นมีมาตรฐานในการตัดสินและกฎระเบียบที่เคร่งครัด ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ได้ยึดหลักการตัดสินและกฎระเบียบต่างๆ เช่นเดียวกันกับที่ทาง WBC (World Barista Championship) ใช้ในการตัดสินระดับโลก โดยการจัดงานแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าแห่งประเทศไทยครั้งที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ ได้เชิญคณะกรรมการสากลจากประเทศสหรัฐอเมริกา และแชมป์โลกบาริสต้า, ชาวเดนมาร์ก นอกจากนี้ก่อนการแข่งขัน ทางบริษัทฯ ได้มีการจัดอบรมหลักการและกฎระเบียบต่างๆ ที่ใช้ในการตัดสินเพื่อชิงแชมป์บาริสต้าประจำประเทศไทยโดยคณะกรรมการสากล WBC (World Barista Championship) โดยในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากคณะกรรมการสากลจากประเทศนิวซีแลนด์“
ผู้เข้าแข่งขันจำเป็นต้องทำกาแฟเอสเปรสโซ่ 4 ที่ กาแฟคาปูชิโน่ 4 ที่ และ กาแฟเมนูพิเศษส่วนตัวอีก 4 ที่ ภายในเวลา 45 นาทีที่กำหนด คณะกรรมการสำหรับตัดสินการแข่งขันครั้งนี้เป็นคณะกรรมการสากล WBC จากประเทศนิวซีแลนด์เข้าร่วมด้วย ซึ่งจะมาประเทศไทยเพื่อการตัดสินการแข่งขันครั้งนี้โดยเฉพาะ โดยคณะกรรมการชุดนี้จะเป็นผู้ตัดสินว่าใครจะได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยไปแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าระดับโลกที่เมืองเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในเดือนพฤษภาคมที่จะถึงนี้
ข้อมูลเพิ่มเติม
ประวัติของ เวิลล์ บาริสต้า แชมป์เปี้ยนชิบ
1.ในปี 2000 ที่เมือง Monte Carlo เกิดการรวมกลุ่มของผู้ที่มีรสนิยมเดียวกัน ได้เสนอให้มีการจัดการแข่งขันประจำปี ชิงแชมป์บาริสต้าโลกขึ้นเป็นครั้งแรก พวกเขาเหล่านั้นมีวิสัยทัศน์ที่จะจัดการแข่งขันขึ้นเพื่อหาบาริสต้าที่มีคุณภาพดีที่สุดในโลก ผู้เข้าแข่งขันในครั้งนั้นมีทั้งหมด 12 ท่าน ซึ่งมาจากหลายประเทศ และการแข่งขันในครั้งนั้นผู้ชนะเลิศก็คือ Robert Thoresen จากประเทศนอร์เวย์
ในปี 2001 ได้ย้ายการแข่งขันย้ายไปที่ชายหาด ที่ร้อนอบด้าวของ ไมอามี่ รัฐฟลอริด้า ประเทศสหรัฐอเมริกา และในครั้งนี้ครั้งนี้มีบาริสต้าปะมาณ 17 ท่านเข้ามาทำการแข่งขัน และผู้ชนะเลิศในครั้งนี้เป็นชายชาวเดนมาร์คชื่อ Martin Hildebrandt
สำหรับการแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าโลกครั้งที่ 3 นั้นได้ย้ายกลับไปจัดที่ทางทวีปยุโรปอีกครั้งที่ Oslo ประเทศนอร์เวย์ และทาง SCAE (Special Coffee Association of Europe) เป็นผู้จัดการแข่งขันครั้งนี้ขึ้นในปี 2002 ผู้เข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้มีทั้งหมด 24 ท่าน และอีกครั้งที่ผู้ชนะเป็นชาวเดนมาร์ค สัญชาติสแกนดิเนเวียน ชื่อ Fritz Storm
ที่บอสตันในปี 2003 การแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าโลก (WBC) ได้ถูกถ่ายทอดรายการทีวีช่วงเช้าสู่สายตาชาวอเมริกากว่า 20 ล้านคน (ยังไม่รวมถึงผู้ชมอื่นจากทั่วทุกมุมโลก) และเป็นครั้งแรกที่ผู้ชนะเลิศในการแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่ชาวสแกนดิเนเวีย เขาคือ Paul Bassett จากประเทศออสเตรเลีย ซึ่งได้รับชัยชนะไปอย่างท่วมท้น ครั้งนี้ผู้ชนะต้องฝ่าฟันการแข่งขันที่ยากขึ้น เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมการแข่งขันถึง 28 ท่าน
การแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าโลกครั้งที่ 5 ได้ถูกจัดขึ้นที่ Trieste ประเทศอิตาลี ซึ่งถือว่าเป็นประเทศต้นกำเนิดกาแฟ อิตาเลียนเอสเปรสโซ่ ซึ่งถือว่าเป็นกาแฟเอสเปรสโซ่รสชาติเยี่ยม และในการแข่งขันครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมถึง 34 ท่าน ซึ่งทำให้การแข่งขันมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น และผู้ชนะในครั้งนี้คือ ชาวยุโรป ชื่อ Tim Wendelboe จากประเทศนอร์เวย์
ส่วนการแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าโลกครั้งล่าสุด มีขึ้นที่เมืองซีแอทเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นเมืองที่เรียกได้ว่าเป็นต้นกำเนิดของร้านกาแฟที่มีชื่อเสียงในอเมริกา (สตาร์บัค, กลอเรีย จีนส์, และอื่นๆ) ในครั้งนั้น แชมป์บาริสต้าระดับโลก ประจำปี 2548 ซึ่ง ชาวเดนมาร์ก, นายโทรล์ โอเวอร์ดอล พรูเซ็นเป็นผู้ครอบครองความเป็นสุดยอดบาริสต้าระดับโลกไปได้สำเร็จ นอกจากนี้ มีบาริสต้าจากทั่วโลกเข้าร่วมแข่งขันถึง 36 คน รวมทั้งประเทศไทย คือ คุณสุพจน์ ลี้สุวัฒนกุล แชมป์บาริสต้าประจำประเทศไทย ปี 2548 ที่น่ายินดีอย่างยิ่งคือ แชมป์บาริสต้าชาวญี่ปุ่นได้เข้ารอบชิงแชมป์ บาริสต้าระดับโลก
2. บริษัทบอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ถูกเปิดตัวขึ้นเมื่อปี 2535 และธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงทุกวันนี้ ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตกาแฟคั่วบดชั้นนำของเมืองไทย บอนกาแฟได้รับซื้อเมล็ดกาแฟพันธ์อาราบิก้าจากแหล่งเพาะปลูกทางภาคเหนือ และเมล็ดกาแฟพันธ์โรบัสต้าจากทางภาคใต้ของไทย เพื่อจะนำมาสู่ขั้นตอนการคั่วบดและบรรจุที่โรงงานในจังหวัดชลบุรี ทุกวันนี้บอนกาแฟมีสาขาทั้งหมด 16 สาขา ซึ่งตั้งอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ ในประเทศไทย รวมไปถึงสาขาทางแถบ อินโดจีน และ บริษัทร่วมทุนที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการในอุต-สาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
3. บริษัท มิลาน ครอส ครีเอทีฟ จำกัด เป็นผู้จัดงานที่ได้รับการสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากการแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าโลก บริษัท มิลาน ครอส ครีเอทีฟ จำกัด เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางด้านการสื่อสารการตลาด และการประชาสัมพันธ์ ซึ่งเป็นที่ยอมรับทั้งในและต่างประเทศ โดยให้บริการวางแผนการตลาด การประชาสัมพันธ์ สื่อ กิจกรรม และงานออกแบบ ต่างๆ