รมช.คมนาคมสั่งเดินหน้าโครงการก่อสร้างท่าเรือเชียงแสน 2 ที่จังหวัดเชียงราย หลังพบว่ามีความเป็นไปได้ในการใช้ประโยชน์ท่าเรือในการส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการคมนาคมขนส่ง
นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวหลังการตรวจพื้นที่ตามลุ่มน้ำโขง ทั้งในประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า ขณะนี้ได้ตัดสินใจในเบื้องต้นแล้วว่า จะเดินหน้าโครงการก่อสร้างท่าเรือเชียงแสน 2 ในจังหวัดเชียงรายต่อไป จากที่ปัจจุบันโครงการนี้หยุดชะงักลง แม้ว่าจะได้รับงบประมาณเพื่อการเวนคืนที่ดินจำนวน 50 ล้านบาทแล้วก็ตาม เนื่องจากมีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับความคุ้มค่าของการลงทุนก่อสร้างท่าเรือดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้จากการหารือกับผู้บริหารด้านการคมนาคมของจีน และการตรวจสภาพพื้นที่ตามลุ่มน้ำโขง ทำให้ทราบว่า จีนกำลังให้ความสำคัญกับคมนาคมขนส่งสินค้าทางน้ำมากขึ้น โดยจะมีการทุ่มงบประมาณจำนวนมากในการพัฒนาท่าเรือทั้ง 4 แห่งตามลำน้ำโขง เพื่องรองรับการคมนาคมขนส่งสินค้าทางน้ำ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของจีนในระยะต่อไป ดังนั้นการก่อสร้างท่าเรือเชียงแสน 2 จึงจะสามารถรองรับการคมนาคมขนส่งในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันการก่อสร้างท่าเรือเชียงแสน 2 ก็จะช่วยรองรับการเปิดตลาดด้านการท่องเที่ยวของไทย-จีน ผ่านลุ่มน้ำโขงได้ด้วย เนื่องจากจีนมีนโยบายจะให้มีนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวในมณฑลยูนนานซึ่งติดกับไทย 3 ล้านคนต่อปี
“หากไทยสามารถวางยุทธศาสตร์ของท่าเรือเชียงแสน 2 ได้อย่างครบถ้วนและเหมาะสม ทั้งในด้านการค้า การคมนาคมขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยว ซึ่งหากสามารถดึงนักท่องเที่ยวเพียงร้อยละ 10 ของนักท่องเที่ยวจีนในยูนนานแต่ละปี ก็จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากถึง 3 แสนคนที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ก็จะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เหมือนที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม คงจะต้องมีการหารือกับทั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อวางกรอบยุทธศาตร์ร่วมกันอีกครั้ง” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวหลังการตรวจพื้นที่ตามลุ่มน้ำโขง ทั้งในประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า ขณะนี้ได้ตัดสินใจในเบื้องต้นแล้วว่า จะเดินหน้าโครงการก่อสร้างท่าเรือเชียงแสน 2 ในจังหวัดเชียงรายต่อไป จากที่ปัจจุบันโครงการนี้หยุดชะงักลง แม้ว่าจะได้รับงบประมาณเพื่อการเวนคืนที่ดินจำนวน 50 ล้านบาทแล้วก็ตาม เนื่องจากมีเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับความคุ้มค่าของการลงทุนก่อสร้างท่าเรือดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้จากการหารือกับผู้บริหารด้านการคมนาคมของจีน และการตรวจสภาพพื้นที่ตามลุ่มน้ำโขง ทำให้ทราบว่า จีนกำลังให้ความสำคัญกับคมนาคมขนส่งสินค้าทางน้ำมากขึ้น โดยจะมีการทุ่มงบประมาณจำนวนมากในการพัฒนาท่าเรือทั้ง 4 แห่งตามลำน้ำโขง เพื่องรองรับการคมนาคมขนส่งสินค้าทางน้ำ ซึ่งเป็นนโยบายหลักของจีนในระยะต่อไป ดังนั้นการก่อสร้างท่าเรือเชียงแสน 2 จึงจะสามารถรองรับการคมนาคมขนส่งในส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันการก่อสร้างท่าเรือเชียงแสน 2 ก็จะช่วยรองรับการเปิดตลาดด้านการท่องเที่ยวของไทย-จีน ผ่านลุ่มน้ำโขงได้ด้วย เนื่องจากจีนมีนโยบายจะให้มีนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวในมณฑลยูนนานซึ่งติดกับไทย 3 ล้านคนต่อปี
“หากไทยสามารถวางยุทธศาสตร์ของท่าเรือเชียงแสน 2 ได้อย่างครบถ้วนและเหมาะสม ทั้งในด้านการค้า การคมนาคมขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยว ซึ่งหากสามารถดึงนักท่องเที่ยวเพียงร้อยละ 10 ของนักท่องเที่ยวจีนในยูนนานแต่ละปี ก็จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวมากถึง 3 แสนคนที่จะเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ก็จะไม่มีปัญหาเกี่ยวกับความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ เหมือนที่มีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยอยู่ในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม คงจะต้องมีการหารือกับทั้งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนายประชา มาลีนนท์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อวางกรอบยุทธศาตร์ร่วมกันอีกครั้ง” นายภูมิธรรม กล่าว