เป็นคนหนึ่งที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการบันเทิงมานานกว่า 10 ปี "กิติกร เพ็ญโรจน์" กรรมการผู้จัดการบริษัท ยูบีซี แฟนเทเชีย จำกัดหรือบริษัทดนตรีที่ทำหน้าผลิตฝันให้กับศิลปินที่มีความมุ่งมั่นอยากขายเสียง ซึ่งศิลปินกลุ่มแรกที่บริษัทฯได้เปิดตัวไป คือ 12 นักล่าฝันจากรายการยูบีซี อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ภายใต้ชื่อ "ปฏิบัติการ เร่ขายฝัน"
กว่าจะมายืนถึงจุดนี้ในวงการบันเทิง "กิติกร เพ็ญโรจน์" เริ่มต้นประสบการณ์การทำงานจากบริษัทคีตาเป็นเวลา 2-3 ปีในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด มีหน้าที่หลักคอยดูแลการตลาดและการทำโปรโมชั่นต่างๆ ซึ่งศิลปินที่เคยดูแลในยุคที่คีตาเฟื่องฟูนั้น อาทิ ฝันดี-ฝันเด่น,ออโต้บาน , บิลลี่ และแอนเดรีย เป็นต้น ต่อจากนั้นย้ายงานมาอยู่ที่บริษัทกันตนาในตำแหน่งบิสิเนส เดเวลลอปเมนต์จะดูแลเรื่องการหารายการใหม่เข้ามา เช่น รายการฮิวโก้
จากนั้นย้ายมาอยู่ที่ไอทีวีดูแลในส่วนการตลาดและโปรโมชั่น ทีวี และเปลี่ยนงานอีกครั้งโดยมาทำงานที่ไอบีซี ซึ่งภายหลังเปลี่ยนเป็นยูบีซีอยู่ถึง 7 ปี ก่อนที่จะมาอยู่ที่บริษัทบีอีซี เทโร ดูแลการตลาดและผลิตรายการทีวีหรือคอนเสิร์ตต่างๆ ล่าสุดหันมาร่วมลงทุนเปิดบริษัท ยูบีซี แฟนเทเชีย จำกัดขึ้น เพื่อสานฝันทางด้านดนตรีให้กับตนเองหรือคนที่รักเสียงเพลงและอยากออกอัลบั้มเป็นของตัวเอง
"หลักในการทำงาน คือ ต้องมีการวางแผน วางเป้า และมีการวัดผลที่ชัดเจน ซึ่งการทำงานในบริษัทแฟนเทเชีย ผมฝันอยากเป็นบริษัทที่เป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่หลากหลาย นอกหนือจากค่ายเทป ยังมีอีเวนต์อื่นๆ หรือฝันอยากทำทีวีในอนาคต"
การทำงานของบริษัทฯในปี 2549 จะเน้นการทำงาน 2 ส่วน คือ ธุรกิจเพลงและอีเวนต์ ซึ่งช่วงแรกนี้จะเน้นเกาะกระแสของกลุ่มนักล่าฝันจากอะคาเดมี่ แฟนเทเชีย 2 ไปก่อน จากนั้นมีแผนแยกกลุ่มนักล่าฝัน เพื่อให้มีคาแรกเตอร์ชัดเจนมากขึ้น เช่น กลุ่มเกิร์ล แบนด์จะมีศิลปินอย่าง "ลูกตาล พัด และเปรี้ยว" โดยแนวเพลงจะเป็นลักษณะป็อป แดนซ์ ส่วนบอย แบนด์จะมี "โจ ว่าน และมาย" และหลังจากนั้นถึงจะออกเป็นอัลบั้มเดี่ยว นอกจากนั้นในช่วงต้นปีหน้าบริษัทฯเตรียมจัดคอนเสิร์ตใหญ่ ด้วยการนำเอาเอเอฟ1 และเอเอฟ 2 มาแสดงคอนเสิร์ตร่วมกันอีกด้วย
ข้อได้เปรียบของการอยู่ในวงการดนตรีและเอ็นเตอร์เทนเมนต์มานาน คือ คนที่อยู่ในวงการจะรู้จักกันหมดทั้งนักแต่งเพลงก็ยังอยู่ในวงการ เราสามารถต่อกันได้หมด ดังนั้นการทำงานและการโปรโมทจึงง่าย เพราะเรามีคอนเน็คชั่นที่ดีกับหลายฝ่ายทั้งมีเดีย ซับพลายเออร์ และวงการอื่นๆ ส่วนปัญหาโดยรวมของวงการนี้ในด้านทีวีมองว่ารายการทีวีหรือช่องทางการออกอากาศมีจำกัด การเติบโตจึงเป็นไปได้ยาก ส่วนธุรกิจค่ายเพลงปัญหาอยู่ที่คนไม่นิยมซื้อซีดี แต่จะชอบของก็อปปี้ เป็นต้น
"ความท้าทายของการทำงานของผมอยู่ที่การทำธุรกิจต้องรู้จักโปรดักส์ให้ดีและต้องมีความรัก ความเข้าใจโปรดักส์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งบางโปรดักส์มีความละเอียดอ่อนมาก เพราะเกี่ยวกับคน ดารา นักแต่งเพลง ซึ่งจะมีความเป็นศิลปินในตัวสูง ดังนั้นเราต้องหาจุดกึ่งกลางระหว่างธุรกิจและตัวศิลปินให้ได้" เป็นคำกล่าวทิ้งท้ายของกิติกร
