ทุนธุรกิจก่อสร้างแตกไลน์ทุ่ม 300 ล้าน เปิดตัวโรงแรม "วรบุระ รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน " หลังพบตลาดท่องเที่ยวเติบโตต่อเนื่อง ชูคอนเซปต์ ศิลปวัฒนธรรมไทย สมัยรัชการที่ 5 เป็นจุดขาย ท้าชนโรงแรม 5 ดาวที่เป็นเชนต่างชาติ ตั้งเป้าปีแรกโกยยอดขาย 40 ล้านบาท พร้อมเตรียมแผนลุยต่อเฟส 2 และเปิดเพิ่มที่เชียงราย
นายฤกษ์ชัย วรนิทัศน์ ประธานกรรมการ บริษัท วรบุระ ผู้ประกอบการโรงแรมวรบุระ รีสอร์ท แอนด์ สปา เปิดเผยว่า การขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่หัวหิน จังหวัดประจวบฯเติบโตสูงขึ้น ทำให้เห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงได้ตั้งบริษัท วรบุระ จำกัด ขึ้นมา เพื่อเข้ามาทำธุรกิจโรงแรม จากก่อนหน้านี้ธุรกิจหลักของบริษัท คือรับเหมาก่อสร้างงานโครงสร้างในโครงการต่างๆ มีบริษัทรับเหมาก่อสร้างในเครือทั้งสิ้น 3 บริษัท ประกอบด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัด วรนิทัศน์ ,ห้างหุ้นส่วนจำกัด W.I.C และห้างหุ้นส่วนจำกัด สินทวี สุรินทร์
โดยในส่วนของธุรกิจโรงแรมบริษัทได้ใช้งบประมาณ จำนวน 300 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างวรบุระ รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน จ.ประจวบฯ บนเนื้อที่ 11 ไร่ สร้างเป็นโรงแรมขนาด 77 ห้อง พร้อมห้องประชุมขนาดใหญ่ ที่รองรับผู้ประชุมได้ 20 คน โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินที่อยู่ในความดูแลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมประมูลโครงการ พร้อมเสนอคอนเซปต์ของชิ้นงานก่อสร้างเมื่อปี 2546 โดยมีสัญญาเช่าพื้นที่ 15 ปี แบ่งจ่ายค่าเช่ารวม 16 งวด รวมเป็นวงเงิน 40 ล้านบาท และสามารถต่อสัญญาการเช่าต่อได้อีก 30 ปี
**ชูคอนเซปต์วัฒนธรรมเอาใจต่างชาติ
ทั้งนี้ วรบุระ รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นรีสอร์ทระดับ 5 ดาว ภายใต้แนวคิด "คันฉ่องบริการแบบไทย ยุคสมัย รศ.126" ด้วยการนำประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 ผสมกับกับโลกตะวันตก โดยนักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตคนไทยผ่านสถาปัตกรรม และจิตรกรรม ซึ่งใน 77 ห้อง แต่ละห้องจะตกแต่งเป็๋นศิลปวัฒนธรรม 1 จังหวัด ให้ครบ 76 จังหวัดของประเทศไทย เช่น เชียงใหม่ ก็ตกแต่งสไตล์ลานนา เป็นต้น ตรงนี้ถือเป็นจุดขายที่สำคัญ ที่จะทำให้ วรบุรี เป็นโรงแรม 5 ดาว ที่แตกต่างจากโรงแรมในย่านเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่บริหารโดยเชนต่างชาติ เช่น ไฮแอท แมริออท และ ฮิลตัน หรือแม้กระทั่ง อนันตรา เป็นต้น
"วรบุระ ถือเป็นโรงแรมที่นำเสนอศิลปวัฒนธรรมของไทยในยุคสมัยรัชการที่ 5 เพียงแห่งเดียว ซึ่งจะสอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย เพื่อพักผ่อนพร้อมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมไทยด้วย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจากประเทศแถบยุโรป อีกทั้งยังเป็นโรงแรมที่เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในช่วงเสด็จประพาสยุโรป เมื่อปี 2440 "
อย่างไรก็ตามบริษัทได้เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่ออกทำตลาดในต่างประเทศมาแล้ว 1 ปี โดยรวมออกโรดโชว์ในต่างประเทศ ทั้งไปกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และจับกลุ่มไปกับเอกชน ซึ่งขณะนี้เชื่องว่า วรบุระเป็นที่รู้จักของเอเยนซี่ทัวร์ในต่างประเทศแล้ว ปัจจุบันมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 50-60% ลูกค้าหลักคือ ยุโรป และสแกนดิเนเวีย ขณะที่ช่วงวัดหยุดสุดสัปดาห์ก็มีลูกค้าคนไทยเข้าพักด้วย
สำหรับแผนดำเนินธุรกิจของบริษัท มีแนวคิดที่จะขยายเฟส 2 ของโครงการนี้เช่นกัน แต่จะรอดูผลประกอบการ 1ปีแรกก่อน หากเป็นไปตามเป้าหมายก็จะเริ่มเฟส 2 ในปี 2550 ซึ่งพื้นที่ที่จะพัฒนา จะเป็นด้านหน้าของโรงแรม ซึ่งขณะนี้เป็นที่ของเอกชน มีจำนวน 7 ไร่ อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองเรื่องราคา ซึ่งเจ้าของพื้นที่ประกาศขายไร่ละ 25 ล้านบาท ขณะที่พื้นที่ดังกล่าวน่าจะมีราคาเฉลี่ยที่ไร่ละ 12 ล้านบาท สำหรับรายได้ปีแรกตั้งเป้าไว้ที่ 40 ล้าน จากนั้นจะเพิ่มขึ้นอีก 10% ทุกปี คาดว่า 8 ปี คืนทุน
นอกจากนี้ในอนาคตมีแผนขยายการลงทุนในจ.เชียงราย ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของพื้นที่จำนวนกว่า 200 ไร่ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะลงทุนก่อสร้างในส่วนใด หากเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ท จะใช้แบรนด์วรบุระด้วย
**กลุ่มทุนแห่งเปิดโรงแรมที่หัวหิน**
นางอารดา จรูญเอก ผู้จัดการทั่วไป กล่าวว่า บริษัททำการตลาดโดย ขายห้องพักผ่านตัวแทนจำหน่ายบริษัททัวร์ท่องเที่ยว เพราะจากการออกโรดโชว์ ทำให้ บริษัททัวร์รู้จัก วรบุระมากขึ้น และพอเห็นคอนเซปต์โรงแรม ก็พร้อมที่จะส่งลูกค้าเข้ามา นอกจากนั้นยังขายผ่านเว็บไซต์ทางอินเตอร์เน็ต ปัจจุบันสัดส่วนชาวต่างชาติเข้าพักที่ 65% และคนไทย 35%
"เรามั่นใจว่าวรบุระจะสามารถสู้กับโรงแรม 5 ดาวที่เป็นเชนต่างชาติได้ เพราะด้วยขนาดห้องพักที่ไม่มากเพียง 77 ห้อง รับผู้เข้าพักได้ราว 170 คน ขณะที่มีพนักงานถึง 130 คน ทำให้การบริการเป็นไปอย่างอบอุ่นและทั่วถึง ส่วนอัตราค่าห้องพักก็ถูกกว่าโรงแรมขนาดใหญ่ราว 5% ตลาดเป้าหมายคือ เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส เกาหลี และกลุ่มสแกนดิเนเวีย"
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ท่องเที่ยวของหัวหิน เติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเป็นตลาดที่รองรับลูกค้าระดับกลาง-บน ทั้งคนไทยและต่างชาติ จึงทำให้นักธุรกิจเข้ามาลงทุนเปิดโรงแรมเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จากปัจจุบันโรงแรม 5 ดาว ที่หัวหินมีจำนวนห้องพักประมาณ 1,000 ห้อง คาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าจำนวนห้องพักจะเพิ่มขึ้นอีก 500 ห้อง ปัจจุบันมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีราว 70-80% ซึ่งเป้นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 2 ปีก่อน ที่มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 50-60%
นายฤกษ์ชัย วรนิทัศน์ ประธานกรรมการ บริษัท วรบุระ ผู้ประกอบการโรงแรมวรบุระ รีสอร์ท แอนด์ สปา เปิดเผยว่า การขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยวทำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่หัวหิน จังหวัดประจวบฯเติบโตสูงขึ้น ทำให้เห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงได้ตั้งบริษัท วรบุระ จำกัด ขึ้นมา เพื่อเข้ามาทำธุรกิจโรงแรม จากก่อนหน้านี้ธุรกิจหลักของบริษัท คือรับเหมาก่อสร้างงานโครงสร้างในโครงการต่างๆ มีบริษัทรับเหมาก่อสร้างในเครือทั้งสิ้น 3 บริษัท ประกอบด้วย ห้างหุ้นส่วนจำกัด วรนิทัศน์ ,ห้างหุ้นส่วนจำกัด W.I.C และห้างหุ้นส่วนจำกัด สินทวี สุรินทร์
โดยในส่วนของธุรกิจโรงแรมบริษัทได้ใช้งบประมาณ จำนวน 300 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างวรบุระ รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน จ.ประจวบฯ บนเนื้อที่ 11 ไร่ สร้างเป็นโรงแรมขนาด 77 ห้อง พร้อมห้องประชุมขนาดใหญ่ ที่รองรับผู้ประชุมได้ 20 คน โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดินที่อยู่ในความดูแลของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งบริษัทได้เข้าร่วมประมูลโครงการ พร้อมเสนอคอนเซปต์ของชิ้นงานก่อสร้างเมื่อปี 2546 โดยมีสัญญาเช่าพื้นที่ 15 ปี แบ่งจ่ายค่าเช่ารวม 16 งวด รวมเป็นวงเงิน 40 ล้านบาท และสามารถต่อสัญญาการเช่าต่อได้อีก 30 ปี
**ชูคอนเซปต์วัฒนธรรมเอาใจต่างชาติ
ทั้งนี้ วรบุระ รีสอร์ท แอนด์ สปา เป็นรีสอร์ทระดับ 5 ดาว ภายใต้แนวคิด "คันฉ่องบริการแบบไทย ยุคสมัย รศ.126" ด้วยการนำประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยในยุคสมัยรัชกาลที่ 5 ผสมกับกับโลกตะวันตก โดยนักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตคนไทยผ่านสถาปัตกรรม และจิตรกรรม ซึ่งใน 77 ห้อง แต่ละห้องจะตกแต่งเป็๋นศิลปวัฒนธรรม 1 จังหวัด ให้ครบ 76 จังหวัดของประเทศไทย เช่น เชียงใหม่ ก็ตกแต่งสไตล์ลานนา เป็นต้น ตรงนี้ถือเป็นจุดขายที่สำคัญ ที่จะทำให้ วรบุรี เป็นโรงแรม 5 ดาว ที่แตกต่างจากโรงแรมในย่านเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่บริหารโดยเชนต่างชาติ เช่น ไฮแอท แมริออท และ ฮิลตัน หรือแม้กระทั่ง อนันตรา เป็นต้น
"วรบุระ ถือเป็นโรงแรมที่นำเสนอศิลปวัฒนธรรมของไทยในยุคสมัยรัชการที่ 5 เพียงแห่งเดียว ซึ่งจะสอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาประเทศไทย เพื่อพักผ่อนพร้อมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมไทยด้วย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าจากประเทศแถบยุโรป อีกทั้งยังเป็นโรงแรมที่เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในช่วงเสด็จประพาสยุโรป เมื่อปี 2440 "
อย่างไรก็ตามบริษัทได้เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากที่ออกทำตลาดในต่างประเทศมาแล้ว 1 ปี โดยรวมออกโรดโชว์ในต่างประเทศ ทั้งไปกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และจับกลุ่มไปกับเอกชน ซึ่งขณะนี้เชื่องว่า วรบุระเป็นที่รู้จักของเอเยนซี่ทัวร์ในต่างประเทศแล้ว ปัจจุบันมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 50-60% ลูกค้าหลักคือ ยุโรป และสแกนดิเนเวีย ขณะที่ช่วงวัดหยุดสุดสัปดาห์ก็มีลูกค้าคนไทยเข้าพักด้วย
สำหรับแผนดำเนินธุรกิจของบริษัท มีแนวคิดที่จะขยายเฟส 2 ของโครงการนี้เช่นกัน แต่จะรอดูผลประกอบการ 1ปีแรกก่อน หากเป็นไปตามเป้าหมายก็จะเริ่มเฟส 2 ในปี 2550 ซึ่งพื้นที่ที่จะพัฒนา จะเป็นด้านหน้าของโรงแรม ซึ่งขณะนี้เป็นที่ของเอกชน มีจำนวน 7 ไร่ อยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองเรื่องราคา ซึ่งเจ้าของพื้นที่ประกาศขายไร่ละ 25 ล้านบาท ขณะที่พื้นที่ดังกล่าวน่าจะมีราคาเฉลี่ยที่ไร่ละ 12 ล้านบาท สำหรับรายได้ปีแรกตั้งเป้าไว้ที่ 40 ล้าน จากนั้นจะเพิ่มขึ้นอีก 10% ทุกปี คาดว่า 8 ปี คืนทุน
นอกจากนี้ในอนาคตมีแผนขยายการลงทุนในจ.เชียงราย ซึ่งบริษัทเป็นเจ้าของพื้นที่จำนวนกว่า 200 ไร่ โดยอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะลงทุนก่อสร้างในส่วนใด หากเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ท จะใช้แบรนด์วรบุระด้วย
**กลุ่มทุนแห่งเปิดโรงแรมที่หัวหิน**
นางอารดา จรูญเอก ผู้จัดการทั่วไป กล่าวว่า บริษัททำการตลาดโดย ขายห้องพักผ่านตัวแทนจำหน่ายบริษัททัวร์ท่องเที่ยว เพราะจากการออกโรดโชว์ ทำให้ บริษัททัวร์รู้จัก วรบุระมากขึ้น และพอเห็นคอนเซปต์โรงแรม ก็พร้อมที่จะส่งลูกค้าเข้ามา นอกจากนั้นยังขายผ่านเว็บไซต์ทางอินเตอร์เน็ต ปัจจุบันสัดส่วนชาวต่างชาติเข้าพักที่ 65% และคนไทย 35%
"เรามั่นใจว่าวรบุระจะสามารถสู้กับโรงแรม 5 ดาวที่เป็นเชนต่างชาติได้ เพราะด้วยขนาดห้องพักที่ไม่มากเพียง 77 ห้อง รับผู้เข้าพักได้ราว 170 คน ขณะที่มีพนักงานถึง 130 คน ทำให้การบริการเป็นไปอย่างอบอุ่นและทั่วถึง ส่วนอัตราค่าห้องพักก็ถูกกว่าโรงแรมขนาดใหญ่ราว 5% ตลาดเป้าหมายคือ เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส เกาหลี และกลุ่มสแกนดิเนเวีย"
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ท่องเที่ยวของหัวหิน เติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเป็นตลาดที่รองรับลูกค้าระดับกลาง-บน ทั้งคนไทยและต่างชาติ จึงทำให้นักธุรกิจเข้ามาลงทุนเปิดโรงแรมเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จากปัจจุบันโรงแรม 5 ดาว ที่หัวหินมีจำนวนห้องพักประมาณ 1,000 ห้อง คาดว่าในอีก 3 ปีข้างหน้าจำนวนห้องพักจะเพิ่มขึ้นอีก 500 ห้อง ปัจจุบันมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีราว 70-80% ซึ่งเป้นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นจากเมื่อ 2 ปีก่อน ที่มีอัตราเข้าพักเฉลี่ยที่ 50-60%