xs
xsm
sm
md
lg

“ทนง” ยันออกตั๋วเงินแค่รักษาระดับเงินคงคลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รมว.คลัง ยืนยันการออกตั๋วเงินคลังอีก 100,000 ล้านบาท ของกรมบัญชีกลาง เป็นการรักษาระดับเงินคงคลังให้อยู่ในระดับ 170,000 ล้านบาท หรือประมาณ 45 วัน ของรายจ่ายงบประมาณแต่ละเดือน เพื่อให้เพียงพอสำหรับการเบิกจ่ายที่เพิ่มขึ้น ด้าน“วราเทพ”แจงการออกตั๋วคงคลังเป็นเรื่องปกติ  พร้อมโวรัฐแก้วิกฤติได้ดีอย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ระบุไม่กระทบเรื่องการจ่ายเงินเกษียณอายุราชการ และค่างวดของผู้รับเหมาแน่ เพราะตอนนี้มีเงินคงคลังเหลือกว่า 5 หมื่นล้านบาท

นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่กรมบัญชีกลางออกตั๋วเงินคลังจำนวน 100,000 ล้านบาท ว่า เป็นเพราะกรมบัญชีกลางต้องการรักษาระดับเงินคงคลังของรัฐบาลให้อยู่ในระดับ 170,000 ล้านบาท หรือประมาณ 45 วันของรายจ่ายงบประมาณแต่ละเดือน เท่ากับช่วงเริ่มต้นปีงบประมาณ 2548 และวงเงินดังกล่าวเปรียบเหมือนกับวงเงินเบิกเกินบัญชีของธุรกิจเท่านั้น เพราะ ณ สิ้นปีงบประมาณ 2548 มีตัวเลขเงินคงคลังลดลงมาอยู่ในระดับประมาณ 80,000 ล้านบาท ขณะที่กรมบัญชีกลาง และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ต้องการให้เงินคงคลังอยู่ในระดับ 170,000 ล้านบาท

นายทนง กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2540 มีการออกตั๋วเงินคลังเพื่อระดมเงินเข้ามาโดยตลอด เนื่องจากเศรษฐกิจเติบโตขึ้น และงบประมาณเติบโตขึ้นมาก ขณะที่รัฐบาลมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ ทำให้มีความจำเป็นต้องใช้เงินมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่จะมีการออกตั๋วเงินคลัง ไม่ใช่กรมบัญชีกลางจะมาออกตั๋วเงินคลังเพิ่มเติมเฉพาะในปีงบประมาณ 2549 เท่านั้น ซึ่งการที่กรมบัญชีกลาง และ สบน. อยากจะรักษาระดับให้อยู่ที่ 170,000 ล้านบาท เพื่อเป็นระดับของงบประมาณแบบสมดุล และเป็นเรื่องปกติของการจัดงบประมาณรายได้และรายจ่าย

นายบุญศักดิ์ เจียมปรีชา อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางเตรียมการออกตั๋วเงินคลังมานานนับเดือน เพราะตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นปีงบประมาณ 2548 ได้มีการประมาณการเงินสดของรัฐบาลเอาไว้แล้ว โดยทำแผนร่วมกับ สบน. แต่เหตุการณ์มาถึงเดือนตุลาคม 2548 ที่มีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณเข้ามามาก ทำให้กรมบัญชีกลางต้องปรับแผนในที่สุด

ขณะเดียวกันเมื่อเวลา 13.30น. การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณากระทู้ถามสดของนายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ยื่นกระทู้ถามสดถามนายกรัฐมนตรีเรื่อง การบริหารเงินคงคลังว่าสิ้นเดือนตุลาคมจะมีเงินคงคลังเหลืออยู่เท่าไหร่ เพราะปกติย้อนหลังไป10 ปี เงินคงคลังในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. จะสูงสุดอยู่ที่ 3 แสนกว่าล้านบาท และต่ำสุดอยู่ที่ 1 แสนกว่าล้านบาท แต่ปีนี้ได้มีการแถลงว่าเงินคงคลังอยู่ที่ 51,000 กว่าล้านบาท และในเดือนต่อไปจะทำอย่างไรเพราะจเป้นช่วงที่รายรับเข้ามาน้อยแต่รายจ่ายจะมีมาก โดยที่ผ่านมาสมัยที่ตนเป็น รมช.คลัง เคยรับเรื่องร้องทุกข์ว่าข้าราชการเกษียณ และเบิกเงินบำนาญไม่ได้ ผู้รับเหมาไม่ได้รับเงินค่างวดซึ่งปัญหาจากที่เราสำรองเงินคงคลังไว้ต่ำไป จึงขอถามว่าถ้า ครม.ไม่อนุมัติแผนบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2549 ให้กระทรวงการคลังออกตั๋วเงินคงคลัง เพื่อกู้เพิ่มเติมอีก80,000ล้านบาท ในเดือนหน้า จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายบำนาญ

ทั้งนี้จากการคำแถลงของ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) พบว่าเราขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นถึง 8.6พันล้นเหรียญสหรัฐ หรือ 3.4 แสนล้านบาทแบละขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากกว่า 1.2 แสนล้านบาท นอนจากนี้ดัชนีความเชื่อมั่นต่างๆ ลดต่ำลงกว่าร้อยละ 50 โดยที่ผ่านมา ไอเอ็มเอฟ เคยบังคับให้ สิ้นเดือน ต.ค.ปี 2540 จะต้องขาดดุลเงินสดไม่เกิน3หมื่นล้านบาท แต่ขณะนี้ ธปท. แถลงว่าสิ้นเดือน ต.ค.เราขาดดุลเงินสุดถึง 5.3 หมื่นล้านบาทซึ่งแสดงว่าของประเทศกำลังเข้าสู่หายนะ แล้วประเทศไทยจะอยู่รอดได้อย่างไร

ด้าน นายวราเทพ รัตนากร รมช.คลัง กล่าวแทนนายกรัฐมนตรีว่า ในปัญหาเงินคงคลัง เราไม่ได้เปลี่ยนหลักเกณฑ์ของระเบียบเงินคงคลังและใช้กติกาเดิม ไม่เคยสั่งให้ส่วนราชการกระทำผิดในการใช้จ่ายเงินคงคลังเลย ส่วนสาเหตุที่ต้องออกตั๋วคงคลังเพราะสถานการณ์ขณะนี้ เหมือนกับการประกอบธุรกิจแล้ว ธุรกิจขยายตัวขึ้นก็จะต้องมีเงินงบประมาณมากขึ้น และที่ผ่านมางบประมาณของประเทศที่รัฐบาลเคยตั้งไว้ 9แสนล้านบาท ก็เพิ่มขึ้นเป็น 1.36 ล้านล้านบาท ซึ่งรายรับจากากรจัดเก็บภาษีจะเขามาเป็นฤดูกาล จึงมีโอกาสที่เงินสดจะขาดมือรัฐบาลจึงจำเป็ฯต้องหางินมาจ่ายด้วยการออกตั๋วคงคลัง เป็นเรื่องที่ทำตามกฎหมาย ไม่ใช่สิ่งผิดปกติ

ซึ่งขณะนี้เงินคงคลังที่เหลืออยู่ 3 หมื่นกว่าล้านบาท เป็นการสำรองเงินในช่วง 2 สัปดาห์ โดยเงินดังกล่าวได้มีการจ่ายเงินเดือนข้าราชการไปแล้วและ เงินที่สำรองดังกล่าว เป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครมาเบิกทีเดียวหมด ส่วนปัญหาเรื่องเป็นเกษียณอายุราชการ ผู้รับเหมาไม่ได้รับเงินค่างวด ไม่เคยเกิดปัญหานี้ เงินคงคลัง 5.18หมื่นล้านบาท ณ สิ้นเดือนตุลาคม ยังเพียงพอในการใช้จ่าย ไม่มีผลกระทบต่อความเป็นห่วงดังกล่าว ส่วนการขาดดุลการค้ารัฐบาล ก็ให้ความสำคัญ ซึ่งปัญหาหลักมาจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ ที่ผ่านมาเราได้ประสบวิกฤติหลายเรื่องทั้งสึนามิและปัญหาวิกฤติน้ำมัน การที่จะทำให้เศรษฐกิจดีอย่างนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย และรัฐบาลได้พิสูจน์แล้วว่าตั้งงบสมดุลแล้วทำได้จริง

 
 
กำลังโหลดความคิดเห็น