รมว.คลังยืนยันหลักการแก้ปัญหาหนี้ของดอนเมืองโทลล์เวย์ ให้มีผลตอบแทนการลงทุนร้อยละ 9 มั่นใจประสานเจ้าหนี้เจรจาสำเร็จแน่นอน หลังกระทรวงคมนาคมยืดอายุสัมปทานให้ดอนเมืองโทลล์เวย์ อีก 25 ปี ระบุทุกฝ่ายกำลังจัดทำรายละเอียดอย่างรอบคอบ
นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้ของบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังจัดทำรายละเอียดอย่างรอบคอบเพื่อให้การเจรจามีข้อยุติ โดยมีหลักการว่าจะทำอย่างไรให้ดอนเมืองโทลล์เวย์มีผลตอบแทนการลงทุนได้ในระดับร้อยละ 9 หลังจากที่กระทรวงคมนาคมได้มีมติชัดเจนที่จะยืดอายุสัมปทานให้อีก 25 ปี ซึ่งเชื่อว่ากระทรวงการคลังจะสามารถประสานงานให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ในเรื่องนี้ได้สำเร็จแน่นอน
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ดอนเมืองโทลล์เวย์ได้หารือร่วมกับเจ้าหนี้สถาบันการเงิน เช่น ธนาคารออมสิน ทหารไทย นครหลวงไทย กรุงไทย และไทยธนาคารร่วมกับกรมทางหลวง ซึ่งมีข้อสรุปว่า ตัวแทนสถาบันการเงินที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมดไม่เห็นด้วยที่จะปรับลดหนี้ของดอนเมืองโทลล์เวย์ลงตามที่นายสมบัติ พานิชชีวะ กรรมการผู้อำนวยการดอนเมืองโทลล์เวย์ขอมา เพราะเห็นว่าวงเงินเดิมที่ลดให้นั้นเหมาะสมดีอยู่แล้ว ซึ่งจะนำกลับไปหารือกันอีกครั้ง เพื่อให้คำตอบที่ชัดเจนภายในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมานายสมบัติได้เดินทางเข้าพบนายทนง เพื่อขอให้กระทรวงการคลังเป็นตัวกลางในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ โดยให้เจ้าหนี้ยกเว้นดอกเบี้ยค้างชำระจำนวนกว่า 1,500 ล้านบาทซึ่งเกิดจากวิกฤติเศรษฐกิจให้ จากเดิมที่เจ้าหนี้ยอมลดให้เพียง 500 ล้านบาท พร้อมทั้งลดอัตราดอกเบี้ยที่ต้องชำระใหม่ใน 4 ปีแรก จากเดิมที่คิดในอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี หรือเอ็มแอลอาร์ -2 ให้เพิ่มเป็นเอ็มแอลอาร์ -3 จากนั้นในปีที่ 5 ให้คิดดอกเบี้ยที่เอ็มแอลอาร์ -2 จากเดิมที่คิดเอ็มแอลอาร์ -0.5
นายทนง พิทยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการเจรจาแก้ไขปัญหาหนี้ของบริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) หรือดอนเมืองโทลล์เวย์ ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกำลังจัดทำรายละเอียดอย่างรอบคอบเพื่อให้การเจรจามีข้อยุติ โดยมีหลักการว่าจะทำอย่างไรให้ดอนเมืองโทลล์เวย์มีผลตอบแทนการลงทุนได้ในระดับร้อยละ 9 หลังจากที่กระทรวงคมนาคมได้มีมติชัดเจนที่จะยืดอายุสัมปทานให้อีก 25 ปี ซึ่งเชื่อว่ากระทรวงการคลังจะสามารถประสานงานให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ในเรื่องนี้ได้สำเร็จแน่นอน
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ดอนเมืองโทลล์เวย์ได้หารือร่วมกับเจ้าหนี้สถาบันการเงิน เช่น ธนาคารออมสิน ทหารไทย นครหลวงไทย กรุงไทย และไทยธนาคารร่วมกับกรมทางหลวง ซึ่งมีข้อสรุปว่า ตัวแทนสถาบันการเงินที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมดไม่เห็นด้วยที่จะปรับลดหนี้ของดอนเมืองโทลล์เวย์ลงตามที่นายสมบัติ พานิชชีวะ กรรมการผู้อำนวยการดอนเมืองโทลล์เวย์ขอมา เพราะเห็นว่าวงเงินเดิมที่ลดให้นั้นเหมาะสมดีอยู่แล้ว ซึ่งจะนำกลับไปหารือกันอีกครั้ง เพื่อให้คำตอบที่ชัดเจนภายในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ ที่ผ่านมานายสมบัติได้เดินทางเข้าพบนายทนง เพื่อขอให้กระทรวงการคลังเป็นตัวกลางในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ โดยให้เจ้าหนี้ยกเว้นดอกเบี้ยค้างชำระจำนวนกว่า 1,500 ล้านบาทซึ่งเกิดจากวิกฤติเศรษฐกิจให้ จากเดิมที่เจ้าหนี้ยอมลดให้เพียง 500 ล้านบาท พร้อมทั้งลดอัตราดอกเบี้ยที่ต้องชำระใหม่ใน 4 ปีแรก จากเดิมที่คิดในอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี หรือเอ็มแอลอาร์ -2 ให้เพิ่มเป็นเอ็มแอลอาร์ -3 จากนั้นในปีที่ 5 ให้คิดดอกเบี้ยที่เอ็มแอลอาร์ -2 จากเดิมที่คิดเอ็มแอลอาร์ -0.5