xs
xsm
sm
md
lg

“ทนง” สั่ง ธอส.เตรียมเงินปล่อยสินเชื่อโครงการบ้าน 9 แสนยูนิต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


"ทนง"สั่ง "ธอส."เตรียมความพร้อมเพื่อปล่อยเงินกู้ในโครงการบ้าน 900,000 ยูนิต 1 ในโครงการเมกะโปรเจกต์ พร้อมให้รักษาระดับอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์ เพื่อเป็นผู้นำธนาคารเฉพาะกิจด้านที่อยู่อาศัยในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น

นายทนง พิทยะ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวหลังตรวจเยี่ยมธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ว่า ได้ให้นโยบายกับ ธอส.ในการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยตามโครงการเมกะโปรเจกต์ จำนวน 900,000 ยูนิต ในอีก 4 ปีข้างหน้า ที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะดำเนินการในโครงการบ้านมั่นคง บ้านเอื้ออาทร และบ้านสำเร็จรูป โดยให้ ธอส.ร่างหลักเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อแล้วส่งให้ พม.เพื่อให้ผู้กู้ได้เตรียมความพร้อมก่อนล่วงหน้า เพราะไม่ต้องการให้เกิดปัญหาการขอกู้แล้วไม่ผ่านการพิจารณาของธนาคาร ซึ่ง ธอส.ถือว่า มีบทบาทสำคัญมากในการเป็นผู้นำในการปล่อยกู้ด้านอสังหาริมทรัพย์และสามารถจะพัฒนาเป็นธนาคารที่ใหญ่ที่สุดของไทยได้

นอกจากนี้ยังได้ให้ ธอส.คิดค้นผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ เพื่อรองรับความต้องการของภาครัฐและข้าราชการ และชื่นชมว่า ผลประกอบการของ ธอส.ออกมาดี สามารถลดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ได้มาก โดยคาดว่า สิ้นปี 2548 เอ็นพีแอลของ ธอส.จะต่ำกว่าร้อยละ 7

“เมื่อ พ.ร.บ.ธอส. ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร จะทำให้ ธอส.สามารถขยายสินเชื่อตอบสนองความต้องการของผู้ต้องการที่อยู่อาศัย โดยสามารถปล่อยสินเชื่อเพื่อปรับปรุงที่อยู่อาศัย ตกแต่งบ้านได้อย่างครบวงจร การที่ ธอส.สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ถึงเดือนละ 10,000 ล้านบาท ถือเป็นการเติบโตที่เร็วมาก หากเติบโตต่อเนื่องอีก 5 ปี จะเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุด” นายทนง กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวด้วยว่า ได้สั่งการให้ ธอส. เป็นผู้นำด้านอัตราดอกเบี้ย โดยต้องรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์อื่น ๆ และให้ ธอส.ปรับตัวเพื่อหาแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำและบริหารต้นทุนการเงินให้มีประสิทธิภาพ เพื่อแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์อื่นในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยเป็นช่วงขาขึ้น

ด้านนายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการ ธอส.กล่าวว่า หลังจากที่ธอส.ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์พิเศษเป็นร้อยละ 3 ทำให้มีสภาพคล่องเข้ามามากกว่า 20,000 ล้านบาท ทั้งนี้ในปัจจุบันผู้ฝากเงินนิยมฝากเงินในระยะสั้นมากกว่า เนื่องจากไม่มั่นใจแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในระยะยาว โดย ธอส.ยังคงไม่มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ระยะ 5 ปี และ 10 ปี แต่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ระยะ 3 ปี หาก ธปท.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วัน เพื่อให้ส่วนต่างของดอกเบี้ยลดลง
กำลังโหลดความคิดเห็น