xs
xsm
sm
md
lg

ไทยยามาซากิจัดทัพ5แบรนด์รุก ปั้นร้าน“แซงเอตัวล์”สู่พรีเมี่ยม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไทยยามาซากิเตรียมลงทุนปีหน้า 75 ล้านบาท เดินหน้าทำตลาดเบเกอรี่ในเครือทั้ง 5 แบรนด์และขยายสาขาไปยังต่างจังหวัด และช่องทางสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน 3 แห่ง แย้มมีแผนทำบัตรสมาชิกเอาใจคอขนมปัง ล่าสุดเตรียมเปิดร้านเบเกอรี่พรีเมี่ยม “แซง เอ ตัวล์” ที่สยามพารากอน หลังเปิดสาขาแรกดิ เอ็มโพเรี่ยมแล้วเวิร์ค คาดยอดได้ปีนี้ปิดที่ 550 ล้านบาท ส่วนปีหน้ายอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 720 ล้านบาท

นายไซโต้ อิชิโร่ กรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาซากิ จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2549 บริษัทฯเตรียมใช้งบลงทุนประมาณ 65-75 ล้านบาท ในการทำตลาดและขยายสาขาร้านเบเกอรี่ในเครือทั้งหมด อาทิ ยามาซากิ, ยามาซากิ เอ็กซ์เพรส, ซัน รอยัล บาย ยามาซากิ, ซัน มัวลินและแซง เอ ตัวล์ เป็นจำนวนรวม 6 สาขา

โดยการเปิดสาขาใหม่จะมีทั้งที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน 3 แห่ง ได้แก่ พหลโยธิน ,ลาดพร้าว และจตุจักร รวมถึงขยายไปยังช่องทางไปต่างจังหวัดมากขึ้น เช่น ที่อยุธยาและโฮมโปร หัวหิน อีกทั้งมีแผนเปิดธุรกิจร่วมกับพันธมิตรอื่น เช่น ไฮเปอร์มาร์เก็ต ,ซูเปอร์มาร์เก็ต และกลุ่มพัฒนาธุรกิจ เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทฯยังเตรียมปรับเปลี่ยนระบบคอมพิวเตอร์ในองค์กรและเล็งทำเมมเบอร์ การ์ด ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นศึกษาข้อมูลอยู่

สำหรับจำนวนร้านเบเกอรี่ของบริษัทฯปัจจุบันมีทั้งหมด 50 ร้านค้า แบ่งเป็น ยามาซากิ 32 แห่ง , ยามาซากิ เอ็กซ์เพรส 10 แห่ง, ซัน รอยัล บาย ยามาซากิ ซึ่งเน้นเจาะกลุ่มครอบครัวเป็นหลักขณะนี้มี 5 แห่ง, ซัน มัวลิน เน้นความเป็นพรีเมี่ยมที่มีสินค้าหลากหลายมี 1 แห่งที่อิเซตัน และแซง เอ ตัวล์ ร้านเบเกอรี่พรีเมี่ยมที่เน้นสไตล์ฝรั่งเศส มี 2 แห่ง คือ ที่ดิ เอ็มโพเรี่ยม ภายใต้งบลงทุน 7 ล้านบาท และสาขาที่ 2 เตรียมเปิดที่สยาม พารากอน ขนาดพื้นที่กว่า 80 ตารางเมตร ซึ่งระดับของแซง เอ ตัวล์ จะแพงกว่ายามาซากิฯอยู่ 30% ขณะที่คู่แข่งของแบรนด์นี้มี 3-4 แบรนด์ เช่น เลอโนส ฯลฯ

กลุ่มเป้าหมายหลักของบริษัทฯจะเป็นกลุ่มระดับกลางถึงสูง โดยกลยุทธ์หลักของบริษัทฯจะเน้นคอนเซ็ปต์ “สินค้าต้องสดและใหม่” รวมถึงการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและสินค้าต้องมีรสชาติดี โดยจะไม่ยึดติดกับเรื่องราคาสินค้าซึ่งจะทั้งราคาถูกไปจนถึงแพง ขณะนี้สินค้าของบริษัทฯมีหลากหลายกว่า 300 รายการ อาทิ วาไรตี้เบรด, สวีทบัน,ขนมปังฝรั่งเศส,นัน และคุกกี้ เป็นต้น

สำหรับยอดรายได้ของบริษัทฯสิ้นปี 2548 คาดว่าจะมีรายได้ 550 ล้านบาทหรือมีอัตราการโต 10% ส่วนยอดรายได้ปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเป็น 720 ล้านบาท

ส่วนภาพรวมตลาดเบเกอรี่ในไทยมองว่ามีการแข่งขันที่รุนแรงเฉพาะในกรุงเทพฯ ส่วนแนวโน้มการบริโภคขนมปังของคนไทยเชื่อว่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น จากการที่มีระบบคมนาคมที่สะดวก ,พฤติกรรมการบริโภคขนมปังของคนไทยมีมากขึ้น ทั้งในบ้านและร้านเบเกอรี่ อีกทั้งเมื่อก่อนคนจะนิยมทานขนมปังที่นุ่มเท่านั้น แต่จากการที่คนไทยเดินทางไปต่างประเทศมาก ทำให้คนเริ่มทานขนมปังสไตล์ยุโรปหรือขนมปังแข็งเพิ่มขึ้น



กำลังโหลดความคิดเห็น