สธ.รุกจัดระเบียบการจำหน่ายสุรา เตรียมออกกฎหมายคุมเข้มขายเหล้าห้ามจำหน่ายในวันพระราชพิธีและวันอาทิตย์ เพิ่มเวลาห้ามโฆษณาขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ผ่านสื่อโทรทัศน์และวิทยุมากขึ้น รวมถึงห้ามขายใกล้สถานศึกษา เพื่อจำกัดให้เข้าถึงเยาวชนได้น้อยลง
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)มีมาตรการเรื่องห้ามแสดงผลิตภัณฑ์ยาสูบ ณ จุดขายไปแล้ว ทางกรมควบคุมโรค จะควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันดับต่อไป ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มี น.พ.วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์ เป็นประธาน ได้ร่างกฎหมายเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมการ เพื่อทำประชาพิจารณ์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำประชาพิจารณ์ให้เสร็จภายในปี 2549 ทั้งนี้ คณะกรรมการร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ภายใต้คณะกรรมการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น จะห้ามโฆษณาส่งเสริมการขายผ่านสื่อวิทยุ และโทรทัศน์ และเพิ่มช่วงเวลาห้ามโฆษณาจากเดิมที่เคยห้ามไว้ในเวลา 05.00น. - 22.00 น.ให้มากขึ้น รวมถึงจำกัดแอลกอฮอล์ให้เข้าถึงเด็กได้น้อยลงด้วย โดยจะมีการห้ามขายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใกล้สถานศึกษา ศาสนสถาน สถานีบริการน้ำมัน และจำกัด วัน และเวลาในการจำหน่าย ซึ่ง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนา ราชพิธี และวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันครอบครัว พร้อมทั้งจำกัดสถานที่ดื่ม ห้ามดื่มในสถานที่ราชการ สถานศึกษา ศาสนสถาน เป็นต้น
“การควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอออล์นั้นคงทำได้ยากกว่าการห้ามแสดงบุหรี่ ณ จุดขาย เนื่องจากมีผู้ประกอบการจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นคนไทย ในขณะที่บุหรี่ผู้ประกอบการมีน้อย มีแค่โรงงานยาสูบ ซึ่งเป็นของรัฐบาล และผู้นำเข้าจากต่างประเทศ นอกจากนี้ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งมีผู้ดื่มมากกว่าผู้สูบบุหรี่ถึง 2 เท่า เพราะผู้ดื่มมีประมาณ 20 ล้านคน ขณะที่ผู้สูบบุหรี่มีเพียง 10 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งคงต้องให้ทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายการเมือง ประชาชน สื่อมวลชนช่วยให้ข้อมูลพิษภัยของการดื่มสุราด้วย” นพ.ณรงค์กล่าว
นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า หลังจากที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)มีมาตรการเรื่องห้ามแสดงผลิตภัณฑ์ยาสูบ ณ จุดขายไปแล้ว ทางกรมควบคุมโรค จะควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นอันดับต่อไป ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มี น.พ.วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์ เป็นประธาน ได้ร่างกฎหมายเสร็จแล้ว และอยู่ระหว่างการเตรียมการ เพื่อทำประชาพิจารณ์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำประชาพิจารณ์ให้เสร็จภายในปี 2549 ทั้งนี้ คณะกรรมการร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ภายใต้คณะกรรมการควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน
นพ.ณรงค์ กล่าวว่า สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น จะห้ามโฆษณาส่งเสริมการขายผ่านสื่อวิทยุ และโทรทัศน์ และเพิ่มช่วงเวลาห้ามโฆษณาจากเดิมที่เคยห้ามไว้ในเวลา 05.00น. - 22.00 น.ให้มากขึ้น รวมถึงจำกัดแอลกอฮอล์ให้เข้าถึงเด็กได้น้อยลงด้วย โดยจะมีการห้ามขายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใกล้สถานศึกษา ศาสนสถาน สถานีบริการน้ำมัน และจำกัด วัน และเวลาในการจำหน่าย ซึ่ง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนา ราชพิธี และวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันครอบครัว พร้อมทั้งจำกัดสถานที่ดื่ม ห้ามดื่มในสถานที่ราชการ สถานศึกษา ศาสนสถาน เป็นต้น
“การควบคุมการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอออล์นั้นคงทำได้ยากกว่าการห้ามแสดงบุหรี่ ณ จุดขาย เนื่องจากมีผู้ประกอบการจำนวนมาก และส่วนใหญ่เป็นคนไทย ในขณะที่บุหรี่ผู้ประกอบการมีน้อย มีแค่โรงงานยาสูบ ซึ่งเป็นของรัฐบาล และผู้นำเข้าจากต่างประเทศ นอกจากนี้ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งมีผู้ดื่มมากกว่าผู้สูบบุหรี่ถึง 2 เท่า เพราะผู้ดื่มมีประมาณ 20 ล้านคน ขณะที่ผู้สูบบุหรี่มีเพียง 10 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งคงต้องให้ทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายการเมือง ประชาชน สื่อมวลชนช่วยให้ข้อมูลพิษภัยของการดื่มสุราด้วย” นพ.ณรงค์กล่าว