รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ไฟเขียวสถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) ใช้จังหวัดขอนแก่นเป็นฐานสร้างศูนย์ฝึกการบินแห่งที่ 2 เพื่อรองรับแผนเพิ่มบุคลากรการบินจำนวน 200-250 คน ภายในปี 2550 ขณะเดียวกัน เตรียมเปิดกว้างต่างชาติเข้าใช้บริการศูนย์ฝึกการบินครบวงจร พร้อมมั่นใจไทยขึ้นชั้นศูนย์กลางฝึกการบินแห่งใหม่ในภูมิภาคเอเชียได้
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งดำเนินนโยบายที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์ฝึกการบินแห่งใหม่ในภูมิภาค เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของนักบินไทย และสามารถรองรับนักบินจากหลายประเทศที่จะเข้ามาใช้บริการศูนย์ฝึกการบินของไทยเพิ่มขึ้น โดยล่าสุด สบพ.ได้จัดทำสรุปผลการประชุมระหว่างผู้บริหาร สบพ. หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางโครงการจัดตั้งศูนย์ฝึกการบินแห่งที่ 2 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้เห็นชอบโดยหลักการ อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้ สบพ.ไปจัดทำรายละเอียดโครงการทั้งหมด ซึ่งคาดว่าศูนย์ฝึกการบินดังกล่าวจะจัดตั้งขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากมีศักยภาพทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมสำหรับการฝึกบิน และตั้งอยู่ใกล้กับท่าอากาศยานจังหวัดต่างๆ เช่น จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดบุรีรัมย์
“ปัจจุบันไทยมีศูนย์ฝึกการบินแล้วที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งสามารถรองรับการฝึกบินได้เพียง 70-90 คนต่อปี ขณะที่งบประมาณที่ได้รับการอนุมัติในปี 2549 สบพ.จะต้องฝึกนักบินให้ได้จำนวน 150-270 คน ทำให้จำเป็นต้องจัดสร้างศูนย์ฝึกการบินแห่งที่ 2 ขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับการฝึกบินได้เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2550 ไทยจะสามารถผลิตนักบินที่มีความสามารถและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลได้ถึง 200-250 คน โดยในเฟสแรกจะใช้อาคารท่าอากาศยานขอนแก่น อาคารเดิมที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาปรับปรุงเป็นห้องเรียนและสำนักงานของศูนย์ฝึกการบินแห่งที่ 2 คาดว่าจะเริ่มฝึกนักบินรุ่นใหม่ได้ประมาณเดือนมีนาคม 2549” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากเป้าหมายการเพิ่มขีดความสามารถของนักบินไทย กระทรวงคมนาคมมีแผนชัดเจนในการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางฝึกการบินของประเทศต่างๆ เนื่องจากเมื่อสำรวจภาวะตลาดอุตสาหกรรมการบิน เห็นว่ายังคงมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในบางประเทศที่สภาพแวดล้อมทั้งเศรษฐกิจและภูมิศาสตร์ยังไม่เอื้ออำนวยในการจัดสร้างศูนย์ฝึกการบินก็จะสามารถจัดส่งนักบินเข้ามาใช้บริการฝึกการบินของไทยได้
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ขณะนี้กระทรวงคมนาคมกำลังเร่งดำเนินนโยบายที่จะผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์ฝึกการบินแห่งใหม่ในภูมิภาค เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของนักบินไทย และสามารถรองรับนักบินจากหลายประเทศที่จะเข้ามาใช้บริการศูนย์ฝึกการบินของไทยเพิ่มขึ้น โดยล่าสุด สบพ.ได้จัดทำสรุปผลการประชุมระหว่างผู้บริหาร สบพ. หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องถึงแนวทางโครงการจัดตั้งศูนย์ฝึกการบินแห่งที่ 2 ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งได้เห็นชอบโดยหลักการ อย่างไรก็ตาม ได้มอบหมายให้ สบพ.ไปจัดทำรายละเอียดโครงการทั้งหมด ซึ่งคาดว่าศูนย์ฝึกการบินดังกล่าวจะจัดตั้งขึ้นที่จังหวัดขอนแก่น เนื่องจากมีศักยภาพทางภูมิศาสตร์ที่เหมาะสมสำหรับการฝึกบิน และตั้งอยู่ใกล้กับท่าอากาศยานจังหวัดต่างๆ เช่น จังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดบุรีรัมย์
“ปัจจุบันไทยมีศูนย์ฝึกการบินแล้วที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งสามารถรองรับการฝึกบินได้เพียง 70-90 คนต่อปี ขณะที่งบประมาณที่ได้รับการอนุมัติในปี 2549 สบพ.จะต้องฝึกนักบินให้ได้จำนวน 150-270 คน ทำให้จำเป็นต้องจัดสร้างศูนย์ฝึกการบินแห่งที่ 2 ขึ้น เพื่อให้สามารถรองรับการฝึกบินได้เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2550 ไทยจะสามารถผลิตนักบินที่มีความสามารถและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลได้ถึง 200-250 คน โดยในเฟสแรกจะใช้อาคารท่าอากาศยานขอนแก่น อาคารเดิมที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาปรับปรุงเป็นห้องเรียนและสำนักงานของศูนย์ฝึกการบินแห่งที่ 2 คาดว่าจะเริ่มฝึกนักบินรุ่นใหม่ได้ประมาณเดือนมีนาคม 2549” นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า นอกเหนือจากเป้าหมายการเพิ่มขีดความสามารถของนักบินไทย กระทรวงคมนาคมมีแผนชัดเจนในการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางฝึกการบินของประเทศต่างๆ เนื่องจากเมื่อสำรวจภาวะตลาดอุตสาหกรรมการบิน เห็นว่ายังคงมีอัตราการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ในบางประเทศที่สภาพแวดล้อมทั้งเศรษฐกิจและภูมิศาสตร์ยังไม่เอื้ออำนวยในการจัดสร้างศูนย์ฝึกการบินก็จะสามารถจัดส่งนักบินเข้ามาใช้บริการฝึกการบินของไทยได้