ชี้คนไทยเข้าสู่ยุค “เกาหลีฟีเวอร์” สินค้าเกาหลีแห่เข้าไทยเพียบ ทั้งหนัง เครื่องสำอาง รถ รวมทั้งศิลปินดังถูกใช้เป็นพรีเซ็นเตอร์ หวังสร้างเทรนด์ตลาดในไทยอีกระลอก
ผลิตภัณฑ์จากแดนเกาหลีกำลังเติบโตและได้รับการตอบรับจากผู้บนริโภคคนไทยเป็นอย่างดีในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม สินค้าจากเกาหลีไม่ใช่เพิ่งเป็นที่รู้จักสำหรับตลาดเมืองไทย แต่เป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว เพียงแต่ว่า ในยุคนี้กลับมาเป็นที่เฟื่องฟูอีกครั้งกระทั่งกลายเป็น “เกาหลีฟีเวอร์” เล็กๆ และลามไปหลายตัวสินค้า ทั้งภาพยนตร์ซีรีส์ รถ เครื่องดื่ม รวมทั้งเครื่องสำอาง เป็นต้น
หนังเกาหลีดันเรตติ้ง
ที่เด่นชัดที่สุดในเวลานี้ก็คงหนีไม่พ้น ภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง “แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง” ที่แพร่ภาพทางช่อง 3 ในเวลานี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นกระแสฮิตที่แรงที่สุด
นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายการเงิน บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่อง 3 กล่าวว่า ช่อง 3 ได้ซื้อลิขสิทธิ์ละครเรื่อง แดจังกึม เข้ามาฉายในไทย เนื่องจากมีความมั่นใจว่าจะเป็นที่นิยมของคนดูโทรทัศน์ ซึ่งเท่าที่ได้แพร่ภาพมากว่าเดือนกว่า พบว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก เป็นที่กล่าวถึงของผู้ชมโทรทัศน์ และสามารถสร้างเรตติ้งให้กับช่อง 3 ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ช่วงเย็นได้อย่างดี
“ตอนนี้เรามีแนวคิดที่จะซื้อละครซีรีส์เกาหลีเข้ามาฉายต่อเนื่อง ทั้งนี้จะต้องดูถึงเทรนด์และคาแรคเตอร์ของละครแต่ละเรื่องด้วยว่าเป็นอย่างไร”
นางสาววราภรณ์ เลิศวัฒนชัย ประชาสัมพันธ์ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (อสท.เกาหลี) ประจำประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่ อสท.เกาหลีได้จัดพิมพ์หนังสือชื่อว่า “Wonderful World of Korean Food” (โลกมหัศจรรย์ อาหารเกาหลี) แจกฟรีให้กับผู้ที่สนใจอาหารเกาหลี ได้รับความสนใจอย่างมาก และเมื่อละครเรื่อง แดจังกึม ออกอากาศ ยิ่งทำให้ความต้องการหนังสือเล่มนี้มากขึ้นตามไปด้วยจนหมดลงอย่างรวดเร็ว แต่ขณะนี้ได้สั่งพิมพ์เพิ่มและส่งมาถึงประเทศไทยแล้ว
“ปรากฎการณ์นี้คล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นในหลายประเทศที่ละครเรื่อง แดจังกึม ออกอากาศเช่น ฮ่องกง ไต้หวัน จีน เวียดนาม”
อันที่จริงแล้วละครซีรี่ส์เกาหลีนี้ ไอทีวีดูจะเป็นสถานีโทรทัศน์ช่องแรกๆที่เปิดตลาดนี้ก่อน จนกระทั่งประสบความสำเร็จอย่างมาก และช่วยผลักดันให้มีผู้ชมมากขึ้นสร้างเรตติ้งให้กับไอทีวีไม่น้อย กระทั่งทางช่อง 5 เองก็เคยมีแนวคิดที่จะทำตลาดละครเกาหลีด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกันบริษัท ซีวีดี เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ก็ได้ขยายไลน์ตลาดหนังเช่าและขายแผ่นวีซีดี ไปยังหนังเกาหลีด้วย ซึ่งเพิ่งเริ่มไม่นานนี้ เนื่องจากกระแสตลาดเริ่มให้ความสนใจและตอบรับมากขึ้น จากเดิมที่เน้นหนักหนังจากค่ายเมเจอร์ฮอลลีวู้ดเป็นหลัก
เป๊ปซี่-โค้ก อิงนักร้องโสม
สำหรับกรณีเครื่องดื่มน้ำอัดลมนั้น ก็เข้าสู่กระแสเกาหลีฟีเวอร์ด้วย เพราะถ้าหากใครเล่นกลยุทธ์นี้แล้วอีกฝ่ายไม่เล่นก็ดูจะเสียโอกาสไป ซึ่งแนวทางของทั้งโค้กและเป๊ปซี่นั้นคือ พุ่งตรงไปยังการดึงเอากลยุทธ์มิวสิกมาร์เกตติ้งมาเป็นตัวชูโรง
นางชื่นหทัย วรรธนะดิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า โค้กได้ส่งแคมเปญโฆษณา “Shinhwa’s Coke Dance” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ฉีกแนว มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง ด้วยการนำนักร้องจากเกาหลีเป็นพรีเซ็นเตอร์ในเมืองไทย ซึ่งได้สร้างกระแสตอบรับเกาหลีฟีเวอร์ในกลุ่มวัยรุ่นจนฮิตเปรี้ยงทันที
จากการวิจัยของ Millward Brown Firefly พบว่า “Shinhwa’s Coke Dance” สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับภาพยนตร์โฆษณา ด้วยการเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่ได้รับการตอบรับมากที่สุดเมื่อเทียบกับหนังโฆษณาทุกเรื่องในไทย รวมทั้งภาพยนตร์โฆษณาที่ใช้กลุ่มศิลปินนักร้องชาวไทยหรือต่างชาติเป็นพรีเซ็นเตอร์
นอกจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมลุ้นชิงโชค เมื่อส่งทุก SMS รหัสลับใต้ฝาโค้ก แฟนต้า สไปรท์ ที่ส่งมาร่วมสนุกยังได้ลุ้นรางวัลพิเศษ 3 รางวัล รางวัลละ 4 ที่นั่ง เพื่อให้ผู้โชคดีนำเพื่อนสนิทหรือสมาชิกในครอบครัวร่วมเดินทางไปชมคอนเสิร์ตดังวงเอเชียที่ประเทศเกาหลีพร้อมทัวร์ประเทศเกาหลีรับปีใหม่ 2549 โดยจะรับ SMS ถึง 24.00 น. ของวันสิ้นสุดแคมเปญ คือ 20 ธ.ค. และจับรางวัลในวันที่ 21 ธ.ค.
ที่มาของการให้รางวัลเดินทางไปเกาหลีเป็นกลุ่ม เนื่องจากผลการสำรวจการตอบรับในภาพยนตร์โฆษณาโดยบริษัท Millward Brown Firefly พบว่าในกลุ่มผู้บริโภคอายุ 12-29 ปี ในกรุงเทพฯ ให้การตอบรับ “Shinhwa’s Coke Dance” อย่างล้นหลาม จนภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้เป็นภาพยนตร์โฆษณาเรื่องแรกในโลกที่ติด Top 1% จากโกลบอล ดาตาเบส (Global Database) ซึ่งได้รวบรวมการวิจัยการตอบรับภาพยนตร์โฆษณาของหลายประเภทผลิตภัณฑ์ กว่า 20,000 เรื่อง ใน 70 ประเทศทั่วโลก Top 1% หมายความว่า “Shinhwa’s Coke Dance” ได้คะแนนในแต่ละดัชนีปัจจัยสำคัญที่บ่งชี้ประสิทธิภาพของหนังโฆษณา สูงมากเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบกับ นอร์มอลไลซ์ อินเด็กซ์ (normalize index) ของหนังโฆษณาอื่นๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ได้แก่ ความสนุกสนาน การมีส่วนร่วม การจดจำยี่ห้อ และการโน้มน้าวใจ] ทั้งนี้เนื่องจากชาวไทยชอบสนุกและมีความสุขกับการแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ กันร่วมเพื่อนหรือคนในครอบครัว ซึ่งเรามั่นใจว่าผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลเดินทางไปเกาหลีนี้ทั้ง 3 กลุ่มจะได้พบกับประสบการณ์ความสุขที่ประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน
ทางด้านคู่แข่งอย่างเป๊ปซี่ ก็ใช้แคมเปญโกลบอล ด้วยการดึงนักร้องดังเกาหลีชื่อ “เรน” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างกระแสเอาใจวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
เครื่องสำอางโสมบุก
ตลาดเครื่องสำอางก็มีสีสันขึ้นมาเช่นกัน เมื่อสินค้าจากแดนโสมเข้ามาเปิดตลาดในไทยในปีนี้พร้อมกันไม่น้อยกว่า 3 แบรนด์ และล้วนเป็นแบรนด์ดังของเกาหลีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น “ลาเนจ” ที่ทำตลาดโดยกลุ่มไมเนอร์ฯ หรือแบรนด์เดอะเฟซชอป และแบรนด์มิสชา
นางสาวสมรวรรณ รัตตกุล ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอาง บริษัทไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางลาเนจ, เรดเอิร์ธ และบลูม กล่าวว่า ได้ร่วมทุนกับบริษัท อมอร์แปซิฟิก จำกัด จากเกาหลี จัดตั้งบริษัท อมอร์แปซิฟิก (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านยูเอส เพื่อดูแลนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลาเนจ ในเมืองไทย
ทั้งนี้ ลาเนจเป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์อันดับ 1 ในเกาหลี นอกจากขายในไทยแล้วยังมี ที่ญี่ปุ่น,ฮ่องกง,อินโดนีเซีย เป็นต้น
โดยตั้งเป้าหมายภายใน 2 ปีจากนี้จะมียอดขายในไทย 200 ล้านบาท ผ่านช่องทางการจำหน่ายที่มี 6 เคาน์เตอร์ ได้แก่ เดอะมอลล์ บางกะปิ,งามวงศ์วาน, ดิ เอ็มโพเรี่ยม,เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า,ซีคอน สแควร์ และล่าสุดสยามเซ็นเตอร์ และตั้งงบการตลาดปีนี้ 15 ล้านบาท
นายคิม อิน โยบ ประธานกรรมการ บริษัทแม็กซ์ แอนด์ ไมท์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อเปิดตลาดเครื่องสำอางค์ มิสชา จากเกาหลี เพราะว่า กระแสวัฒนธรรมของเกาหลีกำลังได้รับความนิยมจากคนไทย อีกทั้งบริษัทฯ เล็งเห็นช่องว่างทางตลาดเครื่องสำอางไทยยังมีโอกาสเติบโตสูง
โดยบริษัทแม่ที่เกาหลีได้ติดต่อ “เรน” นักร้องและนักแสดงของเกาหลีที่โด่งดังจากละครฟูล เฮาส์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ในการโฆษณาผ่านโปสเตอร์ ซึ่งระดับราคาของมิสซาเฉลี่ย 85 -1,000 บาท กลุ่มเป้าหมายหลักจะเน้นไปที่ผู้หญิง คิดเป็นสัดส่วน 90% ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น 70% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ขณะนี้ชอปของมิสชาในไทยมี 3 แห่ง ได้แก่ ซีคอนสแควร์ , ห้วยขวาง และสีลม คาดว่าจะเปิดให้ครบ 10 แห่งภายในปีนี้ ซึ่งหลังจากเปิดตลาดมาไม่นานก็ได้รับการตอบรับมีสมาชิกจำนวนหนึ่งแล้ว
ยังมีอีกแบรนด์ที่เป็นร้านค้าปลีกเครื่องสำอางชื่อว่า “เดอะเฟซชอป” ซึ่งเปิดสาขาร้านแรกที่เดอะมอลล์รามคำแหงเมื่อช่วงกลางปีนี้ ก็เป็นแบรนด์ที่เข้ามาจากเกาหลีเช่นกัน และมีแผนที่จะรุกตลาดไทยเต็มที่รองรับเทรนด์ เกาหลีฟีเวอร์
รถ – ดาวน์โหลดร่วมวงสนุก
นายสุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด ในเครืออาร์เอส โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯอนุญาตให้บริษัทโอเอ็มเค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท โอซุง มีดีคอม แห่งประเทศเกาหลีใต้ ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ เครื่องเล่นเพลง มีเดีย เพลเยอร์ มาจำหน่ายในประเทศไทย ใช้ลิขสิทธิ์เพลงของอาร์เอสบรรจุลงในรูปแบบของวีซีดีคาราโอเกะได้ สำหรับกลุ่มเป้าหมายนั้นได้แบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็น 3 กลุ่ม ทั้งธุรกิจคาราโอเกะ ผู้ใช้ตามบ้าน และตู้หยอดเหรียญ โดยขณะนี้โอเอ็มเคกำลังเปิดรับสมัครผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ
มีสินค้ารถยนต์ เกีย อีกยี่ห้อ ที่เริ่มรุกตลาดในไทยในส่วนของรถปิคอัพ ที่มีรูปทรงแปลกตาไปกว่ารถปิคอัพที่คุ้นตากัน และการรุกตลาดครั้งนี้ได้จัดแคมเปญใหญ่เพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อ โดย ซื้อรถเกีย 1 คันมีสิทธิ์ลุ้นชิงโชครับรถปิคอัพ เกีย อีก 1 คันฟรี และสร้างแบรนด์รวมทั้งการออกโฆษณาตามสื่อวิทยุอย่างต่อเนื่องมาตลอดในช่วงครึ่งปีหลังนี้
ผลิตภัณฑ์จากแดนเกาหลีกำลังเติบโตและได้รับการตอบรับจากผู้บนริโภคคนไทยเป็นอย่างดีในขณะนี้
อย่างไรก็ตาม สินค้าจากเกาหลีไม่ใช่เพิ่งเป็นที่รู้จักสำหรับตลาดเมืองไทย แต่เป็นสิ่งที่มีมานานแล้ว เพียงแต่ว่า ในยุคนี้กลับมาเป็นที่เฟื่องฟูอีกครั้งกระทั่งกลายเป็น “เกาหลีฟีเวอร์” เล็กๆ และลามไปหลายตัวสินค้า ทั้งภาพยนตร์ซีรีส์ รถ เครื่องดื่ม รวมทั้งเครื่องสำอาง เป็นต้น
หนังเกาหลีดันเรตติ้ง
ที่เด่นชัดที่สุดในเวลานี้ก็คงหนีไม่พ้น ภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง “แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง” ที่แพร่ภาพทางช่อง 3 ในเวลานี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นกระแสฮิตที่แรงที่สุด
นายฉัตรชัย เทียมทอง ผู้อำนวยการฝ่าย ฝ่ายการเงิน บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารช่อง 3 กล่าวว่า ช่อง 3 ได้ซื้อลิขสิทธิ์ละครเรื่อง แดจังกึม เข้ามาฉายในไทย เนื่องจากมีความมั่นใจว่าจะเป็นที่นิยมของคนดูโทรทัศน์ ซึ่งเท่าที่ได้แพร่ภาพมากว่าเดือนกว่า พบว่า ประสบความสำเร็จอย่างมาก เป็นที่กล่าวถึงของผู้ชมโทรทัศน์ และสามารถสร้างเรตติ้งให้กับช่อง 3 ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ช่วงเย็นได้อย่างดี
“ตอนนี้เรามีแนวคิดที่จะซื้อละครซีรีส์เกาหลีเข้ามาฉายต่อเนื่อง ทั้งนี้จะต้องดูถึงเทรนด์และคาแรคเตอร์ของละครแต่ละเรื่องด้วยว่าเป็นอย่างไร”
นางสาววราภรณ์ เลิศวัฒนชัย ประชาสัมพันธ์ องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาหลี (อสท.เกาหลี) ประจำประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากที่ อสท.เกาหลีได้จัดพิมพ์หนังสือชื่อว่า “Wonderful World of Korean Food” (โลกมหัศจรรย์ อาหารเกาหลี) แจกฟรีให้กับผู้ที่สนใจอาหารเกาหลี ได้รับความสนใจอย่างมาก และเมื่อละครเรื่อง แดจังกึม ออกอากาศ ยิ่งทำให้ความต้องการหนังสือเล่มนี้มากขึ้นตามไปด้วยจนหมดลงอย่างรวดเร็ว แต่ขณะนี้ได้สั่งพิมพ์เพิ่มและส่งมาถึงประเทศไทยแล้ว
“ปรากฎการณ์นี้คล้ายคลึงกับที่เกิดขึ้นในหลายประเทศที่ละครเรื่อง แดจังกึม ออกอากาศเช่น ฮ่องกง ไต้หวัน จีน เวียดนาม”
อันที่จริงแล้วละครซีรี่ส์เกาหลีนี้ ไอทีวีดูจะเป็นสถานีโทรทัศน์ช่องแรกๆที่เปิดตลาดนี้ก่อน จนกระทั่งประสบความสำเร็จอย่างมาก และช่วยผลักดันให้มีผู้ชมมากขึ้นสร้างเรตติ้งให้กับไอทีวีไม่น้อย กระทั่งทางช่อง 5 เองก็เคยมีแนวคิดที่จะทำตลาดละครเกาหลีด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกันบริษัท ซีวีดี เอนเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ก็ได้ขยายไลน์ตลาดหนังเช่าและขายแผ่นวีซีดี ไปยังหนังเกาหลีด้วย ซึ่งเพิ่งเริ่มไม่นานนี้ เนื่องจากกระแสตลาดเริ่มให้ความสนใจและตอบรับมากขึ้น จากเดิมที่เน้นหนักหนังจากค่ายเมเจอร์ฮอลลีวู้ดเป็นหลัก
เป๊ปซี่-โค้ก อิงนักร้องโสม
สำหรับกรณีเครื่องดื่มน้ำอัดลมนั้น ก็เข้าสู่กระแสเกาหลีฟีเวอร์ด้วย เพราะถ้าหากใครเล่นกลยุทธ์นี้แล้วอีกฝ่ายไม่เล่นก็ดูจะเสียโอกาสไป ซึ่งแนวทางของทั้งโค้กและเป๊ปซี่นั้นคือ พุ่งตรงไปยังการดึงเอากลยุทธ์มิวสิกมาร์เกตติ้งมาเป็นตัวชูโรง
นางชื่นหทัย วรรธนะดิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า โค้กได้ส่งแคมเปญโฆษณา “Shinhwa’s Coke Dance” ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ฉีกแนว มิวสิคมาร์เก็ตติ้ง ด้วยการนำนักร้องจากเกาหลีเป็นพรีเซ็นเตอร์ในเมืองไทย ซึ่งได้สร้างกระแสตอบรับเกาหลีฟีเวอร์ในกลุ่มวัยรุ่นจนฮิตเปรี้ยงทันที
จากการวิจัยของ Millward Brown Firefly พบว่า “Shinhwa’s Coke Dance” สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับภาพยนตร์โฆษณา ด้วยการเป็นภาพยนตร์โฆษณาที่ได้รับการตอบรับมากที่สุดเมื่อเทียบกับหนังโฆษณาทุกเรื่องในไทย รวมทั้งภาพยนตร์โฆษณาที่ใช้กลุ่มศิลปินนักร้องชาวไทยหรือต่างชาติเป็นพรีเซ็นเตอร์
นอกจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมลุ้นชิงโชค เมื่อส่งทุก SMS รหัสลับใต้ฝาโค้ก แฟนต้า สไปรท์ ที่ส่งมาร่วมสนุกยังได้ลุ้นรางวัลพิเศษ 3 รางวัล รางวัลละ 4 ที่นั่ง เพื่อให้ผู้โชคดีนำเพื่อนสนิทหรือสมาชิกในครอบครัวร่วมเดินทางไปชมคอนเสิร์ตดังวงเอเชียที่ประเทศเกาหลีพร้อมทัวร์ประเทศเกาหลีรับปีใหม่ 2549 โดยจะรับ SMS ถึง 24.00 น. ของวันสิ้นสุดแคมเปญ คือ 20 ธ.ค. และจับรางวัลในวันที่ 21 ธ.ค.
ที่มาของการให้รางวัลเดินทางไปเกาหลีเป็นกลุ่ม เนื่องจากผลการสำรวจการตอบรับในภาพยนตร์โฆษณาโดยบริษัท Millward Brown Firefly พบว่าในกลุ่มผู้บริโภคอายุ 12-29 ปี ในกรุงเทพฯ ให้การตอบรับ “Shinhwa’s Coke Dance” อย่างล้นหลาม จนภาพยนตร์โฆษณาชุดนี้เป็นภาพยนตร์โฆษณาเรื่องแรกในโลกที่ติด Top 1% จากโกลบอล ดาตาเบส (Global Database) ซึ่งได้รวบรวมการวิจัยการตอบรับภาพยนตร์โฆษณาของหลายประเภทผลิตภัณฑ์ กว่า 20,000 เรื่อง ใน 70 ประเทศทั่วโลก Top 1% หมายความว่า “Shinhwa’s Coke Dance” ได้คะแนนในแต่ละดัชนีปัจจัยสำคัญที่บ่งชี้ประสิทธิภาพของหนังโฆษณา สูงมากเป็นประวัติการณ์ เมื่อเทียบกับ นอร์มอลไลซ์ อินเด็กซ์ (normalize index) ของหนังโฆษณาอื่นๆ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ ได้แก่ ความสนุกสนาน การมีส่วนร่วม การจดจำยี่ห้อ และการโน้มน้าวใจ] ทั้งนี้เนื่องจากชาวไทยชอบสนุกและมีความสุขกับการแบ่งปันช่วงเวลาดีๆ กันร่วมเพื่อนหรือคนในครอบครัว ซึ่งเรามั่นใจว่าผู้โชคดีที่ได้รับรางวัลเดินทางไปเกาหลีนี้ทั้ง 3 กลุ่มจะได้พบกับประสบการณ์ความสุขที่ประทับใจไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน
ทางด้านคู่แข่งอย่างเป๊ปซี่ ก็ใช้แคมเปญโกลบอล ด้วยการดึงนักร้องดังเกาหลีชื่อ “เรน” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เพื่อสร้างกระแสเอาใจวัยรุ่นที่เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก
เครื่องสำอางโสมบุก
ตลาดเครื่องสำอางก็มีสีสันขึ้นมาเช่นกัน เมื่อสินค้าจากแดนโสมเข้ามาเปิดตลาดในไทยในปีนี้พร้อมกันไม่น้อยกว่า 3 แบรนด์ และล้วนเป็นแบรนด์ดังของเกาหลีทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น “ลาเนจ” ที่ทำตลาดโดยกลุ่มไมเนอร์ฯ หรือแบรนด์เดอะเฟซชอป และแบรนด์มิสชา
นางสาวสมรวรรณ รัตตกุล ผู้จัดการกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอาง บริษัทไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางลาเนจ, เรดเอิร์ธ และบลูม กล่าวว่า ได้ร่วมทุนกับบริษัท อมอร์แปซิฟิก จำกัด จากเกาหลี จัดตั้งบริษัท อมอร์แปซิฟิก (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้นด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านยูเอส เพื่อดูแลนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ลาเนจ ในเมืองไทย
ทั้งนี้ ลาเนจเป็นผลิตภัณฑ์สกินแคร์อันดับ 1 ในเกาหลี นอกจากขายในไทยแล้วยังมี ที่ญี่ปุ่น,ฮ่องกง,อินโดนีเซีย เป็นต้น
โดยตั้งเป้าหมายภายใน 2 ปีจากนี้จะมียอดขายในไทย 200 ล้านบาท ผ่านช่องทางการจำหน่ายที่มี 6 เคาน์เตอร์ ได้แก่ เดอะมอลล์ บางกะปิ,งามวงศ์วาน, ดิ เอ็มโพเรี่ยม,เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า,ซีคอน สแควร์ และล่าสุดสยามเซ็นเตอร์ และตั้งงบการตลาดปีนี้ 15 ล้านบาท
นายคิม อิน โยบ ประธานกรรมการ บริษัทแม็กซ์ แอนด์ ไมท์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เพื่อเปิดตลาดเครื่องสำอางค์ มิสชา จากเกาหลี เพราะว่า กระแสวัฒนธรรมของเกาหลีกำลังได้รับความนิยมจากคนไทย อีกทั้งบริษัทฯ เล็งเห็นช่องว่างทางตลาดเครื่องสำอางไทยยังมีโอกาสเติบโตสูง
โดยบริษัทแม่ที่เกาหลีได้ติดต่อ “เรน” นักร้องและนักแสดงของเกาหลีที่โด่งดังจากละครฟูล เฮาส์มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ในการโฆษณาผ่านโปสเตอร์ ซึ่งระดับราคาของมิสซาเฉลี่ย 85 -1,000 บาท กลุ่มเป้าหมายหลักจะเน้นไปที่ผู้หญิง คิดเป็นสัดส่วน 90% ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น 70% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า
ขณะนี้ชอปของมิสชาในไทยมี 3 แห่ง ได้แก่ ซีคอนสแควร์ , ห้วยขวาง และสีลม คาดว่าจะเปิดให้ครบ 10 แห่งภายในปีนี้ ซึ่งหลังจากเปิดตลาดมาไม่นานก็ได้รับการตอบรับมีสมาชิกจำนวนหนึ่งแล้ว
ยังมีอีกแบรนด์ที่เป็นร้านค้าปลีกเครื่องสำอางชื่อว่า “เดอะเฟซชอป” ซึ่งเปิดสาขาร้านแรกที่เดอะมอลล์รามคำแหงเมื่อช่วงกลางปีนี้ ก็เป็นแบรนด์ที่เข้ามาจากเกาหลีเช่นกัน และมีแผนที่จะรุกตลาดไทยเต็มที่รองรับเทรนด์ เกาหลีฟีเวอร์
รถ – ดาวน์โหลดร่วมวงสนุก
นายสุทธิศักดิ์ ประศาสน์ครุการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด ในเครืออาร์เอส โปรโมชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯอนุญาตให้บริษัทโอเอ็มเค (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บริษัท โอซุง มีดีคอม แห่งประเทศเกาหลีใต้ ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ เครื่องเล่นเพลง มีเดีย เพลเยอร์ มาจำหน่ายในประเทศไทย ใช้ลิขสิทธิ์เพลงของอาร์เอสบรรจุลงในรูปแบบของวีซีดีคาราโอเกะได้ สำหรับกลุ่มเป้าหมายนั้นได้แบ่งกลุ่มเป้าหมายเป็น 3 กลุ่ม ทั้งธุรกิจคาราโอเกะ ผู้ใช้ตามบ้าน และตู้หยอดเหรียญ โดยขณะนี้โอเอ็มเคกำลังเปิดรับสมัครผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ
มีสินค้ารถยนต์ เกีย อีกยี่ห้อ ที่เริ่มรุกตลาดในไทยในส่วนของรถปิคอัพ ที่มีรูปทรงแปลกตาไปกว่ารถปิคอัพที่คุ้นตากัน และการรุกตลาดครั้งนี้ได้จัดแคมเปญใหญ่เพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อ โดย ซื้อรถเกีย 1 คันมีสิทธิ์ลุ้นชิงโชครับรถปิคอัพ เกีย อีก 1 คันฟรี และสร้างแบรนด์รวมทั้งการออกโฆษณาตามสื่อวิทยุอย่างต่อเนื่องมาตลอดในช่วงครึ่งปีหลังนี้