สมาชิกเอเปกมีมติ กระจายการค้าตามกรอบพหุภาคี เดินหน้าส่งเสริมบทบาทของสมาชิก พร้อมเตรียมจัดทำแผนอำนวยความสะดวกทางการค้า ตั้งเป้าลดต้นทุนการทำธุรกิจเหลือร้อยละ 5 ในปี 2006 โดยจะมีการเร่งทำระบบศุลกากรอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดสินค้าปลอมให้น้อยลง ขณะเดียวกันไทยเตรียมเสนอผลความคืบหน้าการลดภาษีตามเป้าหมายปฏิญญาโบกอร์ในปี 2552
นายอุตตม สาวนายน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวสรุปผลการประชุมระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก หรือเอเปก ครั้งที่ 17 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. การกระจายการค้ากรอบพหุภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมบทบาทของสมาชิกเอเปก กำหนดท่าทีที่ชัดเจนเพื่อผลักดันการเจรจากรอบองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) รอบโดฮา ที่ฮ่องกง ซึ่งจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมนี้ เพื่อให้เกิดความคืบหน้าและประสบความสำเร็จ โดยเห็นชอบให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน จัดทำโรดแม็พเกี่ยวกับขั้นตอนในการดำเนินการ
2. การส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางกาค้า โดยการจัดทำแผนปฏิบัติการณ์ “Trade Facilitation Action Plan” โดยมีเป้าหมายว่าจะต้องลดต้นทุนการทำธุรกิจให้เหลือร้อยละ 5 ในปี 2006 รวมถึงการจัดทำพิธีการศุลกากรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Custom) และการบริหารจัดการเพื่อลดการปลอมแปลงสินค้า ทั้งสินค้าที่ซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยในที่ประชุมได้จัดทำแนวทาง (Guild line)
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้จัดทำแม่แบบการเจรจาเพื่อเปิดเสรีการค้าระดับภูมิภาคและทวิภาคี (RTA/FTA) เพื่อเป็นแนวทางในการเจรจาที่มีประสิทธิภาพ โดยให้สมาชิกเสนอแนะแนวทางในการเจรจาที่ดีที่สุด (Best Practice) แต่ไม่ได้กำหนดเป็นบทบังคับ
นายอุตตม กล่าวว่า ในส่วนของการประเมินผลการดำเนินการเปิดเสรีการค้า การลงทุนของสมาชิกเอเปก เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายปฏิญญาโบกอร์ (Mid-Term Stocktake) ซึ่งมีเป้าหมายที่จะลดภาษีเหลือร้อยละ 0 ในปี 2010 สำหรับประเทศพัฒนา และปี 2020 สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ภายหลังจากเริ่มดำเนินการมาถึงครึ่งทางในปีนี้ ทั้งนี้ สมาชิกเห็นชอบให้มีการทบทวนความคืบหน้าประจำปี (Year Review) โดยให้แต่ละประเทศนำเสนอความก้าวหน้าในการดำเนินการตามเป้าหมายปีละ 1 ประเทศ สำหรับประเทศไทยจะนำเสนอในปี 2009 หรือในปี 2552 ต่อไป
นายอุตตม สาวนายน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ กล่าวสรุปผลการประชุมระดับความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก หรือเอเปก ครั้งที่ 17 ที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1. การกระจายการค้ากรอบพหุภาคี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การส่งเสริมบทบาทของสมาชิกเอเปก กำหนดท่าทีที่ชัดเจนเพื่อผลักดันการเจรจากรอบองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) รอบโดฮา ที่ฮ่องกง ซึ่งจะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคมนี้ เพื่อให้เกิดความคืบหน้าและประสบความสำเร็จ โดยเห็นชอบให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน จัดทำโรดแม็พเกี่ยวกับขั้นตอนในการดำเนินการ
2. การส่งเสริมการอำนวยความสะดวกทางกาค้า โดยการจัดทำแผนปฏิบัติการณ์ “Trade Facilitation Action Plan” โดยมีเป้าหมายว่าจะต้องลดต้นทุนการทำธุรกิจให้เหลือร้อยละ 5 ในปี 2006 รวมถึงการจัดทำพิธีการศุลกากรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-Custom) และการบริหารจัดการเพื่อลดการปลอมแปลงสินค้า ทั้งสินค้าที่ซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยในที่ประชุมได้จัดทำแนวทาง (Guild line)
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้จัดทำแม่แบบการเจรจาเพื่อเปิดเสรีการค้าระดับภูมิภาคและทวิภาคี (RTA/FTA) เพื่อเป็นแนวทางในการเจรจาที่มีประสิทธิภาพ โดยให้สมาชิกเสนอแนะแนวทางในการเจรจาที่ดีที่สุด (Best Practice) แต่ไม่ได้กำหนดเป็นบทบังคับ
นายอุตตม กล่าวว่า ในส่วนของการประเมินผลการดำเนินการเปิดเสรีการค้า การลงทุนของสมาชิกเอเปก เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายปฏิญญาโบกอร์ (Mid-Term Stocktake) ซึ่งมีเป้าหมายที่จะลดภาษีเหลือร้อยละ 0 ในปี 2010 สำหรับประเทศพัฒนา และปี 2020 สำหรับประเทศกำลังพัฒนา ภายหลังจากเริ่มดำเนินการมาถึงครึ่งทางในปีนี้ ทั้งนี้ สมาชิกเห็นชอบให้มีการทบทวนความคืบหน้าประจำปี (Year Review) โดยให้แต่ละประเทศนำเสนอความก้าวหน้าในการดำเนินการตามเป้าหมายปีละ 1 ประเทศ สำหรับประเทศไทยจะนำเสนอในปี 2009 หรือในปี 2552 ต่อไป