“ประชา” เล็งของบเพิ่มเติมทำคลัสเตอร์แหล่งเที่ยวภาคเหนือล่าง

“ประชา” เดินหน้าแผนงาน 1 ภูมิภาค 1 แหล่งท่องเที่ยว จับกรุ๊ปคลัสเตอร์ภาคเหนือตอนล่าง นครสวรรค์ สุโขทัย พิษณุโลก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ เปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยง  เปิดโครงการพัฒนาเขากระยาง อัดงบ 100 ล้านบาท สร้างอนุสรณ์กษัตริย์สวีเดน พัฒนาหมู่บ้านจัดทำโฮมสเตย์ และลองสเตย์ คณะทำงานเผย เตรียมชงเรื่อง ขอ “ประชา” อนุมัติ 14 พ.ย.นี้

นายประชา มาลีนนท์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้ตั้งคณะทำงาน 1 ชุด เพื่อมาดำเนินงานร่วมกับสำนักพัฒนาการท่องเที่ยวหรือ สพท. ในการที่จะศึกษาพัฒนาพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบนต่อเชื่อมภาคเหนือตอนล่าง ประกอบด้วย นครสวรรค์ พิษณุโลก สุโขทัย กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ เพื่อจะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวในลักษณะเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวในแต่ละจังหวัดเข้าด้วยกัน จับกรุ๊ปเป็นคลัสเตอร์หนึ่ง เพื่อเป็นเส้นทางท่องเที่ยวแห่งใหม่สำหรับคนไทยและชาวต่างชาติ  ตามนโยบายที่ต้องการเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทย และตามโครงการที่จะพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว 1 ภูมิภาค 1 แหล่งท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ในส่วนของงบที่จะใช้พัฒนาส่วนหนึ่งจะมาจากงบกระตุ้นท่องเที่ยวที่ สพท.ได้รับจัดสรรมา  หากไม่เพียงพอก็จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)  เพื่อของบประมาณเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะนำเรื่องเข้าที่ประชุมได้ในวาระประชุม ครม.สัญจร ที่จะจัดขึ้นที่จังหวัดสุโขทัยในเดือนหน้า

จัดงบ 100 ล้านสร้างอนุสรณ์-ปรับพื้นที่
ทางด้าน นายบุญธรรม  พิกุลศรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะทำงานเตรียมแผนโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว กล่าวว่า ในกรอบการทำงาน ได้หยิบยก พื้นที่บริเวณเขากระยาง จ.พิษณุโลก ซึ่งพระราชา และพระราชินี ของประเทศสวีเดนเคยเสด็จมาประทับ และเที่ยวชม โดยจะนำมาสร้างเป็นอนุสรณ์ของการเสด็จมาเยือนพื้นที่แห่งนี้ของประเทศไทย

รูปแบบแหล่งท่องเที่ยวบริเวณนี้จะเป็น “แมนเมด” คือมีจุดขายเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น แต่จะอิงธรรมชาติ พร้อมพัฒนาพื้นที่ใกล้เคียงให้เป็นที่พัก ซึ่งปัจจุบันพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความดูแลขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีบ้านพักบริการนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว 8 หลัง แต่เราจะพัฒนาเพิ่มโดยแบ่งบ้านพักออกเป็น 3 ส่วนหลัก กระจายกันออกไปพัฒนา คือ 1.บ้านพักของ อ.อ.ป. ที่จะต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น 2.พัฒนาบ้านในชุมชนแห่งนี้ขึ้นเป็นโฮมสเตย์ และ 3.ให้บริษัทไทยจัดการลองสเตย์ หรือทีแอลเอ็ม ดูแลจัดทำที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มลองสเตย์  นอกจากนั้นยังเปิดให้นักลงทุนต่างชาติที่สนใจเข้ามาลงทุนด้านสินค้าและบริการท่องเที่ยวด้วย  ตลาดหลักจะเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรป

ทั้งนี้ หน้าที่ของกระทรวงฯ โดยสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว หรือ สพท.จะเข้าไปพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน คาดว่าจะอยู่ในวงเงินประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เงินจากงบกระตุ้นท่องเที่ยว ที่สพท.ได้รับจัดสรรมา โดยโครงการนี้จะนำเสนอต่อนายประชา มาลีนนท์ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ให้พิจารณาและขออนุมัติงบในวันที่ 14 พ.ย.ศกนี้

ตีกลับศูนย์ท่องเที่ยวฯส่งรายละเอียดเพิ่ม
ขณะเดียวกัน คณะทำงานได้ประชุมร่วมกับสำนักพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) และ  ผู้อำนวยการศูนย์ท่องเที่ยวกีฬาและนันทนาการในจังหวัด ที่จะจัดทำเป็นคลัสเตอร์เพื่อการท่องเที่ยวแบบเชื่อมโยง ประกอบด้วย จังหวัดนครสวรรค์ พิษณุโลก สุโขทัย กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น บึงบอระเพ็ด ทุ่งแสลงหลวง เขาค้อ ห้วยขาแข้ง อุทยาประวัติศาสตร์สุโขทัย และกำแพงเพชร แต่การประชุมนัดแรกเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา แต่ละศูนย์ท่องเที่ยวฯ ยังนำข้อมูลมานำเสนอน้อยไป และ มองว่า แต่ละแห่งยังต้องการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวของตัวเองเป็นหลัก ไม่ดูภาพแบบองค์รวมที่จะพัฒนาร่วมกันจึงได้สั่งการให้กลับไปจัดทำรายละเอียด แผนงานและโครงการเพิ่มเติมมาเสนอในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งจะมีขึ้นอีกประมาณ 2 สัปดาห์นับจากนี้

“จากแหล่งท่องเที่ยวที่มีอยู่แล้ว ในคลัสเตอร์ดังกล่าวจะพัฒนาให้ดีขึ้น มีเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงที่สะดวก สร้างเป็นจุดขายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และเชิงอนุรักษ์ นอกจากนั้นสิ่งที่ สพท.จะต้องดำเนินการควบคู่กันไป คือ พัฒนาคนในพื้นที่ให้มีรายได้เพิ่มมากกว่าการรับจ้าง แต่สามารถประกอบอาชีพอื่นๆ ได้ เช่น เรื่องของภาษา การบริการ ตลอดจน จัดอบรมสุขอนามัย และความสะอาด ในกลุ่มที่สนใจทำโฮมสเตย์”  นายบุญธรรมกล่าว