คอนซูเมอร์ผุดนวัตกรรมเพื่อสุขภาพ หัวหอกล่อใจผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าง่าย "โค้ก"เร่งขยายไลน์โปรดักส์เพื่อสุขภาพ ซุ่มปั้นแบรนด์น้องใหม่"ซีโร"ชูนวัตกรรมใหม่เครื่องดื่มปราศจากน้ำตาลสอยแชร์เป๊ปซี่ แมกซ์ "เสริมสุข" ชูนโยบายซอยเซกเมนต์ตามไลฟ์สไตล์ อัดงบเกือบ 30 ล้านบาท ลุยลิปตัน-เป๊ปซี่ แมกซ์รับไลฟ์สไตล์สุขภาพมาแรง"มาม่า"ส่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมี่ยม"โลว์แคลอรี่"ลงปีหน้า
แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่มน้ำอัดลม เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ฟรือผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มอัดลม"โค้ก" กำลังอยู่ระหว่างทดลองตลาดเครื่องดื่มปราศจากน้ำตาลภายใต้แบรนด์"ซีโร"เครื่องดื่มที่มีสารให้ความหวานสูตรใหม่"สแตนด้า"แตกต่างจากโค้ก ไดเอท โดยซีโรจะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เข้ามาชนกับเป๊ปซี่ แมกซ์ของค่ายน้ำอัดลมคู่แข่ง และนับเป็นการขยายไลน์สินค้าในกลุ่มเพื่อสุขตัวสี่ของโค้ก หลังจากก่อนหน้านี้ ได้เปิดตัวน้ำส้มสแปลช,อไลฟ์ และชาเขียวชิเซนพลัส ทั้งนี้ก็ขยายไลน์สินค้าทั้ง4ตัวก็เพื่อรองรับกับกระแสสุขภาพที่มาแรง
ขณะที่ค่ายคู่แข่งนายชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เป๊ปซี่ โคล่า ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า การทำตลาดจากนี้จะต้องซอยเซกเมนต์ตามไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค อย่างกระแสสุขภาพที่มาแรง ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ในปีหน้าบริษัทฯจึงได้วางแผนชูเป๊ปซี่ แมกซ์และลิปตันเกาะกระแสสุขภาพ โดยเป๊ปซี่ แมกซ์จะเพิ่มงบการตลาดเฉียด 10 ล้านบาท จากปีนี้ใช้ 5 ล้านบาท ส่วนลิปตันใช้งบ 20 ล้านบาทในปีหน้า ล่าสุดได้เปิดตัวลิปตัน ฮันนี่ เลมอนลงสู่ตลาดช่วงปลายปี ทั้งนี้เหตุผลที่บริษัทชูเป๊ปซี่ แมกซ์และลิปตัน เพื่อสกัดผู้บริโภคสวิตช์ไปดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่มีอัตราการเติบโตที่ดี
"แม้ว่าเป๊ปซี่ แมกซ์จะมีส่วนแบ่ง 2% จากมูลค่าตลาดรวมน้ำดำ 23,000 ล้านบาท แต่กระแสสุขภาพส่งผลให้ปีนี้เป๊ปซี่ แมกซ์โต 20-30% และปีหน้าคาดว่าจะโตได้ถึง 20% หรือมีส่วนแบ่ง 2.5% โดยปัจจุบันเป๊ปซี่ แมกซ์เป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มอัดลมปราศจากน้ำตาลครองส่วนแบ่ง 70% ส่วนโค้ก ไดเอท 30%"
**มาม่าเปิดตัวบะหมี่โลว์แคลอรี่**
นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมเปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติใหม่"โลว์แคลอรี่"ลงสู่ตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้านี้ ซึ่งจะเป็นซี่รี่ส์ที่ 3ของกลุ่มสินค้าอิงกระแสสุขภาพ โดยบริษัทได้ให้ทีมจากญี่ปุ่นเป็นผู้วิจัยและพัฒนาขึ้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะตั้งราคาอยู่ที่เท่าไร เนื่องจากรสชาติใหม่โลว์แคลอรี่นี้มีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงเพิ่มขึ้น 4-5% เมื่อเทียบกับรสชาติปกติ เบื้องต้นคาดว่าราคาบะหมี่กำลังสำเร็จรูปโลว์แคลอรี่ประมาณ 10 บาทขึ้นไป โดยเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่อยู่ในเซกเมนต์พรีเมี่ยมแตกต่างจากซี่รี่ส์แรกชาเขียวและซี่รี่ส์สองเส้นโฮลวีต ราคา 5 บาท
แนวโน้มกระแสสุขภาพยังมาแรงในปีหน้า โดยไม่เฉพาะแต่เครื่องดื่มเท่านั้นที่ต้องเกาะกระแสสุขภาพ ในกลุ่มอาหารรวมทั้งตลาดอื่นๆก็ต้องเกาะกระแสสุขภาพด้วยเช่นกัน ซึ่งการเปิดตัวซี่รี่ส์ที่เกี่ยวกับสุขภาพของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า ก็เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพ และต้องการผลิตภัณฑ์ที่ต้องสนองความต้องการมากขึ้น อีกทั้งยังมองว่าการที่มาม่าปรับตัวโดยหันมาเน้นนวัตกรรมเพื่อสุขภาพมากขึ้น ก็เพราะว่าในภาวะที่พฤติกรรมของคนไทยเริ่มระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แต่สินค้าที่สร้างมูลค่าเพิ่มด้านสุขภาพจะเป็นตัวผลักดันให้ผู้บริโภคยอมที่จ่ายเงินเพื่อให้ได้มาซึ่งสุขภาพที่ดีขึ้น
"ในตลาดต่างประเทศ อาทิ ฮ่องกง ไต้หวัน เทรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเน้นสุขภาพมากขึ้น และในฐานะที่มาม่าเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งกว่า 50% จึงต้องพัฒนาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อรองรับกับการแข่งขันที่จะมีความรุนแรง ขณะเดียวกันมาม่ายังได้ในแง่ของภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น จากที่ผ่านมาผู้บริโภคจะมองว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์ โดยหลังจากเปิดตัวซี่รี่ส์สุขภาพชาเขียวและโฮลวีตทั้งสองรสชาติได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมีส่วนแบ่ง 4-5%"
**ลีเวอร์ฯชูโพซิชันนิ่งสินค้าสุขภาพ**
นางภรณี อึ๊งภากรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ โดฟ เรโซนา แอ๊กซ์ และทัตนผลิตภัณฑ์ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า ปีหน้าแนวโน้มสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงจะต้องชูโพซิชั่นนิ่งของสุขภาพเป็นหลัก เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่จะเติบโตได้สูงอยู่ เมื่อเทียบกับโพซิชั่นนิ่งในด้านอื่นๆ ทั้งนี้เป็นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพ ขณะที่ทิศทางในการทำตลาดของยูนิลีเวอร์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆในปีหน้าจะยังคงตอกย้ำโพซิชั่นนิ่งเพื่อสุขภาพเป็นหลัก
แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่มน้ำอัดลม เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ฟรือผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มอัดลม"โค้ก" กำลังอยู่ระหว่างทดลองตลาดเครื่องดื่มปราศจากน้ำตาลภายใต้แบรนด์"ซีโร"เครื่องดื่มที่มีสารให้ความหวานสูตรใหม่"สแตนด้า"แตกต่างจากโค้ก ไดเอท โดยซีโรจะเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เข้ามาชนกับเป๊ปซี่ แมกซ์ของค่ายน้ำอัดลมคู่แข่ง และนับเป็นการขยายไลน์สินค้าในกลุ่มเพื่อสุขตัวสี่ของโค้ก หลังจากก่อนหน้านี้ ได้เปิดตัวน้ำส้มสแปลช,อไลฟ์ และชาเขียวชิเซนพลัส ทั้งนี้ก็ขยายไลน์สินค้าทั้ง4ตัวก็เพื่อรองรับกับกระแสสุขภาพที่มาแรง
ขณะที่ค่ายคู่แข่งนายชาลี จิตจรุงพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เป๊ปซี่ โคล่า ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า การทำตลาดจากนี้จะต้องซอยเซกเมนต์ตามไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค อย่างกระแสสุขภาพที่มาแรง ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ในปีหน้าบริษัทฯจึงได้วางแผนชูเป๊ปซี่ แมกซ์และลิปตันเกาะกระแสสุขภาพ โดยเป๊ปซี่ แมกซ์จะเพิ่มงบการตลาดเฉียด 10 ล้านบาท จากปีนี้ใช้ 5 ล้านบาท ส่วนลิปตันใช้งบ 20 ล้านบาทในปีหน้า ล่าสุดได้เปิดตัวลิปตัน ฮันนี่ เลมอนลงสู่ตลาดช่วงปลายปี ทั้งนี้เหตุผลที่บริษัทชูเป๊ปซี่ แมกซ์และลิปตัน เพื่อสกัดผู้บริโภคสวิตช์ไปดื่มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องดื่มน้ำผลไม้ซึ่งเป็นเซกเมนต์ที่มีอัตราการเติบโตที่ดี
"แม้ว่าเป๊ปซี่ แมกซ์จะมีส่วนแบ่ง 2% จากมูลค่าตลาดรวมน้ำดำ 23,000 ล้านบาท แต่กระแสสุขภาพส่งผลให้ปีนี้เป๊ปซี่ แมกซ์โต 20-30% และปีหน้าคาดว่าจะโตได้ถึง 20% หรือมีส่วนแบ่ง 2.5% โดยปัจจุบันเป๊ปซี่ แมกซ์เป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มอัดลมปราศจากน้ำตาลครองส่วนแบ่ง 70% ส่วนโค้ก ไดเอท 30%"
**มาม่าเปิดตัวบะหมี่โลว์แคลอรี่**
นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรามาม่า เปิดเผยว่า บริษัทได้เตรียมเปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสชาติใหม่"โลว์แคลอรี่"ลงสู่ตลาดในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้านี้ ซึ่งจะเป็นซี่รี่ส์ที่ 3ของกลุ่มสินค้าอิงกระแสสุขภาพ โดยบริษัทได้ให้ทีมจากญี่ปุ่นเป็นผู้วิจัยและพัฒนาขึ้น ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะตั้งราคาอยู่ที่เท่าไร เนื่องจากรสชาติใหม่โลว์แคลอรี่นี้มีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงเพิ่มขึ้น 4-5% เมื่อเทียบกับรสชาติปกติ เบื้องต้นคาดว่าราคาบะหมี่กำลังสำเร็จรูปโลว์แคลอรี่ประมาณ 10 บาทขึ้นไป โดยเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่อยู่ในเซกเมนต์พรีเมี่ยมแตกต่างจากซี่รี่ส์แรกชาเขียวและซี่รี่ส์สองเส้นโฮลวีต ราคา 5 บาท
แนวโน้มกระแสสุขภาพยังมาแรงในปีหน้า โดยไม่เฉพาะแต่เครื่องดื่มเท่านั้นที่ต้องเกาะกระแสสุขภาพ ในกลุ่มอาหารรวมทั้งตลาดอื่นๆก็ต้องเกาะกระแสสุขภาพด้วยเช่นกัน ซึ่งการเปิดตัวซี่รี่ส์ที่เกี่ยวกับสุขภาพของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า ก็เพื่อรองรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพ และต้องการผลิตภัณฑ์ที่ต้องสนองความต้องการมากขึ้น อีกทั้งยังมองว่าการที่มาม่าปรับตัวโดยหันมาเน้นนวัตกรรมเพื่อสุขภาพมากขึ้น ก็เพราะว่าในภาวะที่พฤติกรรมของคนไทยเริ่มระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย แต่สินค้าที่สร้างมูลค่าเพิ่มด้านสุขภาพจะเป็นตัวผลักดันให้ผู้บริโภคยอมที่จ่ายเงินเพื่อให้ได้มาซึ่งสุขภาพที่ดีขึ้น
"ในตลาดต่างประเทศ อาทิ ฮ่องกง ไต้หวัน เทรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเน้นสุขภาพมากขึ้น และในฐานะที่มาม่าเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่งกว่า 50% จึงต้องพัฒนาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพื่อรองรับกับการแข่งขันที่จะมีความรุนแรง ขณะเดียวกันมาม่ายังได้ในแง่ของภาพลักษณ์ที่ดีขึ้น จากที่ผ่านมาผู้บริโภคจะมองว่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์ โดยหลังจากเปิดตัวซี่รี่ส์สุขภาพชาเขียวและโฮลวีตทั้งสองรสชาติได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีมีส่วนแบ่ง 4-5%"
**ลีเวอร์ฯชูโพซิชันนิ่งสินค้าสุขภาพ**
นางภรณี อึ๊งภากรณ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ โดฟ เรโซนา แอ๊กซ์ และทัตนผลิตภัณฑ์ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยว่า ปีหน้าแนวโน้มสินค้าอุปโภคบริโภคยังคงจะต้องชูโพซิชั่นนิ่งของสุขภาพเป็นหลัก เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพที่จะเติบโตได้สูงอยู่ เมื่อเทียบกับโพซิชั่นนิ่งในด้านอื่นๆ ทั้งนี้เป็นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคใส่ใจสุขภาพ ขณะที่ทิศทางในการทำตลาดของยูนิลีเวอร์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆในปีหน้าจะยังคงตอกย้ำโพซิชั่นนิ่งเพื่อสุขภาพเป็นหลัก