ผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานีไม่พอใจบุกยื่นหนังสือต่อสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ กรณีไม่ยกเลิกมาตรการ เอดี กุ้ง ระบุไม่จริงใจ พร้อมชวนคนไทยหันมาใช้บริการเครื่องแอร์บัสของฝรั่งเศสแทนโบอิง ขณะเดียวกัน ร้องรัฐบาลหามาตรการแก้เผ็ดโต้กลับสหรัฐ
นายเอกพจน์ ยอดพินิจ ประธานชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสุราษฎร์ธานี และในฐานะตัวแทนผู้เลี้ยงกุ้งในภาคใต้ ได้ยื่นหนังสือแสดงความไม่พอใจในความไม่จริงใจ ไร้ซึ่งความเป็นธรรมของสหรัฐต่อกรณีไม่ยกเลิกเอดีสินค้ากุ้งของไทย โดยได้นำเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งกว่า 60 คนยื่นหนังสือเรียกร้องถึงประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ของสหรัฐ ผ่านเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐ ได้ส่งตัวแทนมารับหนังสือข้อเรียกร้องดังกล่าวจากผู้เลี้ยงกุ้งของไทย
นายเอกพจน์ กล่าวว่า สหรัฐกับไทยเป็นมหามิตร เมื่อสหรัฐให้ความหวังว่าจะพิจารณาทบทวนเอดีกุ้งไทย หลังจากไทยประสบปัญหาภัยสึนามิ และได้รับความเดือดร้อนและสหรัฐได้ให้ความหวังเกษตรกรไทย ว่า จะช่วยทบทวนเอดีกุ้งให้กับไทย แต่มาถึงวันนี้ความเป็นมหามิตรกับไม่ได้รับการตอบรับ ถือว่าไร้น้ำใจ ไม่จริงใจ ผิดหวังต่อกรณีที่สหรัฐมองว่าเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งสหรัฐก็ได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนในช่วงที่ผ่านมา นำมาเป็นข้ออ้าง ไม่ยอมยกเลิกภาษีเอดีกุ้งให้กับไทย ถือว่าไร้น้ำใจ เพราะหากเปรียบเทียบเกษตรกรทั้งสองประเทศ เกษตรกรไทยน่าสงสารกว่าเกษตรกรสหรัฐและลำบากมากกว่า จึงได้นำหนังสือมายื่นผ่านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐไปยังรัฐบาลสหรัฐ เพื่อแสดงความไม่พอใจให้กับประเทศมหามิตรของไทยได้รับรู้
นายเอกพจน์ กล่าวอีกว่า ในยามที่เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งลำบาก ก็ต้องขอบคุณกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ที่ได้ประกาศคืนสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) สินค้ากุ้งให้กับไทย ซึ่งเห็นว่าเป็นการแสดงความจริงใจกับไทย แต่มาวันนี้สหรัฐซึ่งถือเป็นมหามิตรกับไทยกลับไร้ความจริงใจกับคนไทย จึงอยากฝากรัฐบาลควรหามาตรการตอบโต้ทางภาษีและอื่น ๆ กับทางสหรัฐ และคนไทยควรจะหันมาใช้เครื่องบินแอร์บัส ซึ่งเป็นของฝรั่งเศสแทนเครื่องบินโบอิงที่เป็นของสหรัฐ
“ไม่น่าเชื่อว่าประเทศที่เป็นพันธมิตรและเป็นเพื่อน เช่น สหรัฐไร้น้ำใจและไม่จริงใจ ซึ่งขณะนี้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งของไทยก็ได้รับความบอบช้ำจากภัยธรรมชาติ แต่เมื่อสิ่งที่สหรัฐสร้างความหวังกลับกลายเป็นสิ่งที่พูดโกหก จึงอยากให้รัฐบาลไทยอย่านิ่งดูดาย ควรหามาตรการตอบโต้สหรัฐ” นายเอกพจน์ กล่าว