ท็อปส์ซูเปอร์มาร์เกตบุกตลาดนำเข้าไวน์ต่างประเทศ ประเดิมขายใน 26 สาขา ตั้งเป้าขอแชร์ 7% ในปี 2553 เตรียมรุกสู่โรงแรม ร้านอาหาร
นายเอียน ไพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารท็อปส์ซูเปอร์มาร์เกต กล่าวว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยได้หันมาสนใจนิยมดื่มไวน์กันมากขึ้น เนื่องจากการดื่มไวน์ส่งผลดีต่อสุขภาพ รวมทั้งในปัจจุบันยังไม่มีผู้นำเข้าไวน์รายใดที่ให้ความสำคัญในเรื่องการควบคุมอุณหภูมิของไวน์จากแหล่งผลิตจนถึงมือผู้บริโภคอย่างจริงจัง นอกเหนือจากนี้บริษัทฯยังให้ความสำคัญในเรื่องความสดใหม่ของสินค้าที่จำหน่ายภายในร้าน จึงมีนโยบายที่จะเป็นผู้นำตลาดในการจำหน่ายไวน์ในประเทศไทย
“เราได้วางแผนและดำเนินโครงการนี้มาเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งปี โดยเริ่มตั้งแต่การขอใบอนุญาตการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ และการสนับสนุนอุตสาหกรรมไวน์ต่างประเทศและเริ่มทำการปรับปรุงบริเวณและตกแต่งแผนกไวน์ที่ มาร์เก็ตเพลส บาย ท็อปส์ และท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ในหลายสาขาแล้ว เพื่อปกป้องและควบคุมอุณหภูมิไวน์ให้พ้นจากความร้อนตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”
นายรอส เอ็ดเวิร์ด มาร์ค ผู้จัดการทั่วไป ด้านไวน์ต่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด บริษัทฯหวังแชร์ส่วนแบ่งการตลาดด้านไวน์ในประเทศไทย 7% ภายในปี 2553 จากปัจจุบันตลาดรวมไวน์ในปัจจุบันที่มีประมาณ 835,000 ลัง หรือคิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 8-10% และคาดว่าตลาดรวมจะโตได้เฉลี่ย 20% ต่อปี
ทั้งนี้บริษัทฯนำเข้าไวน์เองกว่า 400 แบรนด์ จาก 13 ประเทศทั่วโลก เช่น ออสเตรเลีย ฝรั่ง สเปน และอิตาลี เป็นต้น ภายใต้แบรนด์ Majella, Paringa, Santa Julia และ Mas de Bressades ซึ่งรูปแบบของการทำตลาดจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกบริษัทฯจะนำไวน์จำนวน 250 แบรนด์จำหน่ายในท็อปส์ และมาร์เก็ตเพลส ร่วมกับสินค้าที่นำเข้าจากผู้นำเข้ารายอื่นด้วยประมาณ 10% ทั้งนี้จะทำให้บริษัทฯมีไวน์จำหน่ายประมาณ 500 รายการ แบ่งเป็นไวน์แดง 60% และไวน์ขาว 40% โดยมีระดับราคาตั้งแต่ 299-2,499 บาท
ส่วนที่ 2 บริษัทฯจะนำไวน์ระดับบนอีกจำนวน 150 แบในลักษณะเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ ผ่านการจัดจำหน่ายที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขาชิดลม เพียงสาขาเดียว ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 2,000-100,000 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับไวน์ทั่วไปพื้นที่นี้จะมีสินค้าประมาณ 420 แบรนด์ และเตรียมขยายไปยังธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ในลักษณะของตัวแทนจำหน่าย
นอกจากนั้นยังมุ่งเป็นผู้ริเริ่มการจัดตั้งโปรแกรมที่ผ่านการยอมรับจาก ไวน์ แอนด์ สปิริต เอ็ดดูเคชั่น ทรัส (ประเทศอังกฤษ) “Wine & Spirit Education Trust (UK) : WSET” เป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดย WSET เป็นองค์กรแห่งการศึกษาด้านไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งเดียวที่มีการออกประกาศนียบัตรวิชาชีพแห่งชาติ ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งชั้นเรียนเหล่านี้จะถูกสอนโดยผู้ที่ผ่านการอบรม จากสถาบัน WSET คนแรกในเมืองไทย มร. รอส เอ็ดเวิร์ด มาร์ค ผู้จัดการทั่วไป ด้านไวน์ต่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด และอีกหนึ่งวัตถุประสงค์ของบริษัท คือ การฝึกพนักงานกว่า 60 คน ใน 26 สาขา ในระยะเวลา 12-18 เดือน เพื่อให้พร้อมในการให้ข้อมูล เรื่องไวน์แก่ลูกค้า
ทั้งนี้ ไวน์นำเข้าใหม่ทั้งหมดจะถูกวางจำหน่ายใน 26 สาขาของท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และ มาร์เก็ตเพลส บาย ท็อปส์ ได้แก่ สาขาออล ซีซัน, บางนา, บางรัก, ชิดลม, ลาดพร้าว, นางลิ้นจี่, ปิ่นเกล้า, ปิยะรมย์, พระราม 2, พระราม 3, รัชดา, สีลม คอมเพล็กซ์, สุขาภิบาล 3, สุขุมวิท 19, สุขุมวิท 24, ทองหล่อ, รังสิต, รัตนาธิเบศน์, เชียงใหม่แอร์พอร์ต, เชียงใหม่ห้วยแก้ว, หาดใหญ่, พัทยา, ภูเก็ต, ภูเก็ตเฟสติวัล, สมุยและศรีราชา
นายเอียน ไพย์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารท็อปส์ซูเปอร์มาร์เกต กล่าวว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการบริโภคของคนไทยได้หันมาสนใจนิยมดื่มไวน์กันมากขึ้น เนื่องจากการดื่มไวน์ส่งผลดีต่อสุขภาพ รวมทั้งในปัจจุบันยังไม่มีผู้นำเข้าไวน์รายใดที่ให้ความสำคัญในเรื่องการควบคุมอุณหภูมิของไวน์จากแหล่งผลิตจนถึงมือผู้บริโภคอย่างจริงจัง นอกเหนือจากนี้บริษัทฯยังให้ความสำคัญในเรื่องความสดใหม่ของสินค้าที่จำหน่ายภายในร้าน จึงมีนโยบายที่จะเป็นผู้นำตลาดในการจำหน่ายไวน์ในประเทศไทย
“เราได้วางแผนและดำเนินโครงการนี้มาเป็นระยะเวลากว่าหนึ่งปี โดยเริ่มตั้งแต่การขอใบอนุญาตการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ และการสนับสนุนอุตสาหกรรมไวน์ต่างประเทศและเริ่มทำการปรับปรุงบริเวณและตกแต่งแผนกไวน์ที่ มาร์เก็ตเพลส บาย ท็อปส์ และท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ในหลายสาขาแล้ว เพื่อปกป้องและควบคุมอุณหภูมิไวน์ให้พ้นจากความร้อนตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง”
นายรอส เอ็ดเวิร์ด มาร์ค ผู้จัดการทั่วไป ด้านไวน์ต่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด บริษัทฯหวังแชร์ส่วนแบ่งการตลาดด้านไวน์ในประเทศไทย 7% ภายในปี 2553 จากปัจจุบันตลาดรวมไวน์ในปัจจุบันที่มีประมาณ 835,000 ลัง หรือคิดเป็นมูลค่า 3,000 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 8-10% และคาดว่าตลาดรวมจะโตได้เฉลี่ย 20% ต่อปี
ทั้งนี้บริษัทฯนำเข้าไวน์เองกว่า 400 แบรนด์ จาก 13 ประเทศทั่วโลก เช่น ออสเตรเลีย ฝรั่ง สเปน และอิตาลี เป็นต้น ภายใต้แบรนด์ Majella, Paringa, Santa Julia และ Mas de Bressades ซึ่งรูปแบบของการทำตลาดจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนแรกบริษัทฯจะนำไวน์จำนวน 250 แบรนด์จำหน่ายในท็อปส์ และมาร์เก็ตเพลส ร่วมกับสินค้าที่นำเข้าจากผู้นำเข้ารายอื่นด้วยประมาณ 10% ทั้งนี้จะทำให้บริษัทฯมีไวน์จำหน่ายประมาณ 500 รายการ แบ่งเป็นไวน์แดง 60% และไวน์ขาว 40% โดยมีระดับราคาตั้งแต่ 299-2,499 บาท
ส่วนที่ 2 บริษัทฯจะนำไวน์ระดับบนอีกจำนวน 150 แบในลักษณะเอ็กซ์คลูซีฟแบรนด์ ผ่านการจัดจำหน่ายที่เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ สาขาชิดลม เพียงสาขาเดียว ราคาจำหน่ายตั้งแต่ 2,000-100,000 บาท ซึ่งเมื่อรวมกับไวน์ทั่วไปพื้นที่นี้จะมีสินค้าประมาณ 420 แบรนด์ และเตรียมขยายไปยังธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร ในลักษณะของตัวแทนจำหน่าย
นอกจากนั้นยังมุ่งเป็นผู้ริเริ่มการจัดตั้งโปรแกรมที่ผ่านการยอมรับจาก ไวน์ แอนด์ สปิริต เอ็ดดูเคชั่น ทรัส (ประเทศอังกฤษ) “Wine & Spirit Education Trust (UK) : WSET” เป็นแห่งแรกในประเทศไทย โดย WSET เป็นองค์กรแห่งการศึกษาด้านไวน์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งเดียวที่มีการออกประกาศนียบัตรวิชาชีพแห่งชาติ ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลอังกฤษ ซึ่งชั้นเรียนเหล่านี้จะถูกสอนโดยผู้ที่ผ่านการอบรม จากสถาบัน WSET คนแรกในเมืองไทย มร. รอส เอ็ดเวิร์ด มาร์ค ผู้จัดการทั่วไป ด้านไวน์ต่างประเทศ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด และอีกหนึ่งวัตถุประสงค์ของบริษัท คือ การฝึกพนักงานกว่า 60 คน ใน 26 สาขา ในระยะเวลา 12-18 เดือน เพื่อให้พร้อมในการให้ข้อมูล เรื่องไวน์แก่ลูกค้า
ทั้งนี้ ไวน์นำเข้าใหม่ทั้งหมดจะถูกวางจำหน่ายใน 26 สาขาของท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต และ มาร์เก็ตเพลส บาย ท็อปส์ ได้แก่ สาขาออล ซีซัน, บางนา, บางรัก, ชิดลม, ลาดพร้าว, นางลิ้นจี่, ปิ่นเกล้า, ปิยะรมย์, พระราม 2, พระราม 3, รัชดา, สีลม คอมเพล็กซ์, สุขาภิบาล 3, สุขุมวิท 19, สุขุมวิท 24, ทองหล่อ, รังสิต, รัตนาธิเบศน์, เชียงใหม่แอร์พอร์ต, เชียงใหม่ห้วยแก้ว, หาดใหญ่, พัทยา, ภูเก็ต, ภูเก็ตเฟสติวัล, สมุยและศรีราชา