ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ประกอบการบริษัททัวร์จีน 19 แห่งในภูเก็ต จับมือขายแพกเกจทัวร์นักท่องเที่ยวจีน 25 แพกเก็จราคาเดียวกัน ลดปัญหาทัวร์ศูนย์เหรียญ เอาเปรียบนักท่องเที่ยว หวังดึงจีนกลับเข้ามาภูเก็ตเหมือนเดิมหลังลดฮวบจากสึนามิ
วานนี้ (31 ต.ค.48) นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, พล.ต.ต.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, ดร.ละเอียด ศิลาน้อย นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กรุงเทพมหานคร, นางสุวลัย ปิ่นประดับ ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคใต้เขต 4 พ.ต.ต.บัณฑิต ขาวสุธรรม สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว 2 (ภูเก็ต) กองกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และนายประพันธ์ อยู่คุ้มญาติ ประธานชมรมธุรกิจท่องเที่ยวไทย-จีน ภูเก็ต ร่วมกันลงนามบันทึกตกลงร่วม สมาชิกชมรมธุรกิจท่องเที่ยวไทย-จีน จังหวัดภูเก็ต ณห้องเฮนาคา โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้
จุดประสงค์หลักเพื่อตกลงร่วมกันว่าจะไม่มีการแข่งขันเอารัดเอาเปรียบทางการค้าซึ่งกันและกัน ผู้ประกอบการจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2535 ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว เมื่อได้รับค่าตอบแทน (Commission) หรือรายได้อื่นจากผู้ประกอบการหรือร้านค้าใดๆ จะต้องออกใบเสร็จรับเงิน และเรียกในรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย จากผู้ประกอบการหรือร้านค้านั้นๆ ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวจะประกอบธุรกิจนำเที่ยว โดยมีค่าใช้จ่ายในการนำเที่ยว (Tour Fare) ทุกครั้ง
ผู้ประกอบการนำเที่ยวจะไม่ส่งเสริมสนับสนุนร่วมมือกับมัคคุเทศก์ที่ทำผิดกฎหมาย โดยขายออฟชันทัวร์เกินราคาที่กำหนด รวมทั้งให้ความร่วมมือกับทางราชการ ในการตรวจสอบผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย และผู้ประกอบการจะต้องเป็นสมาชิกของชมรมธุรกิจท่องเที่ยวไทย-จีน ถึงจะได้รับการสนับสนุนทางด้านการตลาด จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ขณะนี้ชมรมธุรกิจท่องเที่ยวไทย-จีน จังหวัดภูเก็ต ได้มีการลงนามร่วมกันในการที่จะจ่ายออฟชันทัวร์ในราคาที่กำหนดเท่านั้น จำนวน 19 บริษัท ในรายการนำเที่ยวในอันดามัน ภูเก็ต กระบี่ และพังงา 25 ราย เช่น เกาะเฮ ราคา 1,000 บาท เกาะไข่นอก 1,500 บาท เกาะเฮและเกาะไข่นอก 2,000 บาท เกาะไข่ เกาะพีพี รอบเกาะพีพี อ่าวมาหย่า 2,500 บาท เกาะพีพี 1,000 บาท แฟนตาซี พร้อมอาหารค่ำ 1,700 บาท หูฉลามหม้อละ 600 บาท รังนก 200 บาท พังงาทัวร์ เขาพิงกัน 800 บาท ถ้ำพุงช้าง 800 บาท เป็นต้น โดยราคาออฟชันทัวร์ดังกล่าวจะใช้เป็นเวลา 6 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2548 –31 มีนาคม 2549
นางสุวลัย ปิ่นประดับ ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคใต้เขต 4 กล่าวว่า การที่บริษัทนำเที่ยวทัวร์จีนทั้ง 19 แห่งในภูเก็ตร่วมการลงนาม ที่จะตกลงขายทัวร์ในราคาที่กำหนดทั้ง 25 รายการทัวร์ ถือเป็นสิ่งที่ดีมากในการที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดจีน โดยคิดว่าในต้นปีหน้านักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ จะเดินทางเข้ามาภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น จากที่ในปีนี้นักท่องเที่ยวจีนลดลงมาตั้งแต่ต้นปี จากเหตุการณ์สึนามิ และคิดว่าในปีหน้า นักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มกว่า 110,000 คน ในปี 2547 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพราะเท่าที่ทราบจะมีทั้งชาร์เตอร์ไฟล์ตและเที่ยวบินประจำจากเมืองต่างๆ ของจีนบินเข้ามาภูเก็ตบ้างแล้ว และในเดือนหน้านี้จะมีงานเทรดโชว์ด้านการท่องเที่ยวที่เมืองคุนหมิงของจีน ทางททท.จะได้นำภูเก็ตไปขายด้วย เพราะภูเก็ตถือเป็นจุดหมายปลายทาง ที่นักท่องเที่ยวจีนชื่นชอบมาก
วานนี้ (31 ต.ค.48) นายอุดมศักดิ์ อัศวรางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, พล.ต.ต.เดชา บุตรน้ำเพชร ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, ดร.ละเอียด ศิลาน้อย นายทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์กรุงเทพมหานคร, นางสุวลัย ปิ่นประดับ ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคใต้เขต 4 พ.ต.ต.บัณฑิต ขาวสุธรรม สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว 2 (ภูเก็ต) กองกับการ 5 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว และนายประพันธ์ อยู่คุ้มญาติ ประธานชมรมธุรกิจท่องเที่ยวไทย-จีน ภูเก็ต ร่วมกันลงนามบันทึกตกลงร่วม สมาชิกชมรมธุรกิจท่องเที่ยวไทย-จีน จังหวัดภูเก็ต ณห้องเฮนาคา โรงแรมรอยัล ภูเก็ต ซิตี้
จุดประสงค์หลักเพื่อตกลงร่วมกันว่าจะไม่มีการแข่งขันเอารัดเอาเปรียบทางการค้าซึ่งกันและกัน ผู้ประกอบการจะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ.ศ. 2535 ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยว เมื่อได้รับค่าตอบแทน (Commission) หรือรายได้อื่นจากผู้ประกอบการหรือร้านค้าใดๆ จะต้องออกใบเสร็จรับเงิน และเรียกในรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย จากผู้ประกอบการหรือร้านค้านั้นๆ ผู้ประกอบการธุรกิจนำเที่ยวจะประกอบธุรกิจนำเที่ยว โดยมีค่าใช้จ่ายในการนำเที่ยว (Tour Fare) ทุกครั้ง
ผู้ประกอบการนำเที่ยวจะไม่ส่งเสริมสนับสนุนร่วมมือกับมัคคุเทศก์ที่ทำผิดกฎหมาย โดยขายออฟชันทัวร์เกินราคาที่กำหนด รวมทั้งให้ความร่วมมือกับทางราชการ ในการตรวจสอบผู้ที่กระทำผิดกฎหมาย และผู้ประกอบการจะต้องเป็นสมาชิกของชมรมธุรกิจท่องเที่ยวไทย-จีน ถึงจะได้รับการสนับสนุนทางด้านการตลาด จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
ขณะนี้ชมรมธุรกิจท่องเที่ยวไทย-จีน จังหวัดภูเก็ต ได้มีการลงนามร่วมกันในการที่จะจ่ายออฟชันทัวร์ในราคาที่กำหนดเท่านั้น จำนวน 19 บริษัท ในรายการนำเที่ยวในอันดามัน ภูเก็ต กระบี่ และพังงา 25 ราย เช่น เกาะเฮ ราคา 1,000 บาท เกาะไข่นอก 1,500 บาท เกาะเฮและเกาะไข่นอก 2,000 บาท เกาะไข่ เกาะพีพี รอบเกาะพีพี อ่าวมาหย่า 2,500 บาท เกาะพีพี 1,000 บาท แฟนตาซี พร้อมอาหารค่ำ 1,700 บาท หูฉลามหม้อละ 600 บาท รังนก 200 บาท พังงาทัวร์ เขาพิงกัน 800 บาท ถ้ำพุงช้าง 800 บาท เป็นต้น โดยราคาออฟชันทัวร์ดังกล่าวจะใช้เป็นเวลา 6 เดือน คือ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 2548 –31 มีนาคม 2549
นางสุวลัย ปิ่นประดับ ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคใต้เขต 4 กล่าวว่า การที่บริษัทนำเที่ยวทัวร์จีนทั้ง 19 แห่งในภูเก็ตร่วมการลงนาม ที่จะตกลงขายทัวร์ในราคาที่กำหนดทั้ง 25 รายการทัวร์ ถือเป็นสิ่งที่ดีมากในการที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดจีน โดยคิดว่าในต้นปีหน้านักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่ จะเดินทางเข้ามาภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น จากที่ในปีนี้นักท่องเที่ยวจีนลดลงมาตั้งแต่ต้นปี จากเหตุการณ์สึนามิ และคิดว่าในปีหน้า นักท่องเที่ยวจีนจะเพิ่มกว่า 110,000 คน ในปี 2547 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เพราะเท่าที่ทราบจะมีทั้งชาร์เตอร์ไฟล์ตและเที่ยวบินประจำจากเมืองต่างๆ ของจีนบินเข้ามาภูเก็ตบ้างแล้ว และในเดือนหน้านี้จะมีงานเทรดโชว์ด้านการท่องเที่ยวที่เมืองคุนหมิงของจีน ทางททท.จะได้นำภูเก็ตไปขายด้วย เพราะภูเก็ตถือเป็นจุดหมายปลายทาง ที่นักท่องเที่ยวจีนชื่นชอบมาก