นายกสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทยระบุไก่ปรุงสุกส่งออกของไทย ยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องและไม่ได้รับผลกระทบจากไข้หวัดนก โดยช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัวกว่าร้อยละ 40 ตลาดส่งออกหลักได้แก่ ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป (อียู) พร้อมคาดปีนี้ ไทยจะส่งออกไก่แปรรูปได้รวม 280,000 ตัน มูลค่าประมาณ 32,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 44.47 และ 38.45 ตามลำดับ
นพ.อนันต์ ศิริมงคลเกษม นายกสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย เปิดเผยว่า การส่งออกเนื้อไก่แปรรูปของไทยในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ สามารถส่งออกได้รวม 189,444 ตัน มูลค่าประมาณ 21,800 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปี 2547 ที่มีการส่งออกรวม 128,450 ตัน มูลค่าประมาณ 15,410 ล้านบาท ร้อยละ 47.48 และ 41.47 ตามลำดับ โดยการส่งออกที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเนื้อไก่สดของบราซิล มีราคาสูง ทำให้ไม่คุ้มค่ากับผู้นำเข้าที่จะนำมาผลิต จึงหันมานำเข้าไก่แปรรูปปรุงสุกจากไทยแทน เนื่องจากเชื่อมั่นในคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานของตลาดโลก ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับในทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่ระบบการเลี้ยงในฟาร์มจนถึงโรงงานแปรรูป
นพ.อนันต์ กล่าวว่า สำหรับตลาดส่งออกหลักของไก่ไทย ยังเป็นประเทศญี่ปุ่นและกลุ่มอียู โดยมีการส่งออกไปยังญี่ปุ่นรวม 104,057 ตัน คิดเป็นร้อยละ 54.93 ของปริมาณการส่งออกรวม และมีการส่งออกไปยังอียูรวม 75,170 ตัน คิดเป็นร้อยละ 36.69 ของปริมาณการส่งออกรวมทั้งประเทศ
นายกสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย กล่าวอีกว่าลักษณะเนื้อไก่แปรรูปที่ส่งออกในปัจจุบันแบ่งออกเป็นสินค้าใหญ่ๆ 2 ลักษณะ คือ เนื้อไก่แปรรูปขั้นพื้นฐานและสินค้าที่สั่งทำเป็นการเฉพาะ ซึ่งราคาของเนื้อไก่แปรรูปจะขึ้นอยู่กับชนิดสินค้าของแต่ละบริษัท และเป็นราคาในระดับที่น่าพอใจ โดยปัจจุบันสินค้าไก่แปรรูปของไทยครองตลาดไก่ปรุงสุกเกือบทั้งหมดในตลาดอียู ผู้ส่งออกจึงสามารถกำหนดราคาร่วมกันได้ โดยคาดว่า สัดส่วนการส่งออกในปีนี้จะส่งไปตลาดญี่ปุ่นร้อยละ 55 ตลาดอียูร้อยละ 40 และตลาดอื่นๆ อีกร้อยละ 5
ทั้งนี้ สมาคมฯ คาดการณ์ว่าในปี 2548 ไทยจะสามารถส่งออกไก่แปรรูปได้รวม 280,000 ตัน ด้วยมูลค่าประมาณ 32,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มีการส่งออกไก่แปรรูปได้เพียง 193,814 ตัน มูลค่า 23,258 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.47 และ 38.45 ตามลำดับ
นพ.อนันต์ ศิริมงคลเกษม นายกสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย เปิดเผยว่า การส่งออกเนื้อไก่แปรรูปของไทยในช่วง 9 เดือนแรกปีนี้ สามารถส่งออกได้รวม 189,444 ตัน มูลค่าประมาณ 21,800 ล้านบาท เพิ่มจากช่วงเดียวกันของปี 2547 ที่มีการส่งออกรวม 128,450 ตัน มูลค่าประมาณ 15,410 ล้านบาท ร้อยละ 47.48 และ 41.47 ตามลำดับ โดยการส่งออกที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเนื้อไก่สดของบราซิล มีราคาสูง ทำให้ไม่คุ้มค่ากับผู้นำเข้าที่จะนำมาผลิต จึงหันมานำเข้าไก่แปรรูปปรุงสุกจากไทยแทน เนื่องจากเชื่อมั่นในคุณภาพการผลิตที่ได้มาตรฐานของตลาดโลก ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับในทุกกระบวนการผลิต ตั้งแต่ระบบการเลี้ยงในฟาร์มจนถึงโรงงานแปรรูป
นพ.อนันต์ กล่าวว่า สำหรับตลาดส่งออกหลักของไก่ไทย ยังเป็นประเทศญี่ปุ่นและกลุ่มอียู โดยมีการส่งออกไปยังญี่ปุ่นรวม 104,057 ตัน คิดเป็นร้อยละ 54.93 ของปริมาณการส่งออกรวม และมีการส่งออกไปยังอียูรวม 75,170 ตัน คิดเป็นร้อยละ 36.69 ของปริมาณการส่งออกรวมทั้งประเทศ
นายกสมาคมผู้ผลิตไก่เพื่อส่งออกไทย กล่าวอีกว่าลักษณะเนื้อไก่แปรรูปที่ส่งออกในปัจจุบันแบ่งออกเป็นสินค้าใหญ่ๆ 2 ลักษณะ คือ เนื้อไก่แปรรูปขั้นพื้นฐานและสินค้าที่สั่งทำเป็นการเฉพาะ ซึ่งราคาของเนื้อไก่แปรรูปจะขึ้นอยู่กับชนิดสินค้าของแต่ละบริษัท และเป็นราคาในระดับที่น่าพอใจ โดยปัจจุบันสินค้าไก่แปรรูปของไทยครองตลาดไก่ปรุงสุกเกือบทั้งหมดในตลาดอียู ผู้ส่งออกจึงสามารถกำหนดราคาร่วมกันได้ โดยคาดว่า สัดส่วนการส่งออกในปีนี้จะส่งไปตลาดญี่ปุ่นร้อยละ 55 ตลาดอียูร้อยละ 40 และตลาดอื่นๆ อีกร้อยละ 5
ทั้งนี้ สมาคมฯ คาดการณ์ว่าในปี 2548 ไทยจะสามารถส่งออกไก่แปรรูปได้รวม 280,000 ตัน ด้วยมูลค่าประมาณ 32,200 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มีการส่งออกไก่แปรรูปได้เพียง 193,814 ตัน มูลค่า 23,258 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 44.47 และ 38.45 ตามลำดับ