ไดโดมอนดิ้นสู้กู้วิกฤติ รอลุ้นแก้ปัญหาองค์กร หลังทยอยปิดสาขาลงกว่าครึ่ง ซุ่มแผนบุกปีหน้า เล็งขายแฟรนไชส์ เปิดร้านคอนเซ็ปท์ใหม่ไม่ยึดติดบาร์บีคิว เหตุแข่งขันสูงแต่ยังอุบไต๋ชื่อแบรนด์ เป้าหมายเปิดทั้งแบบเก่าและร้านใหม่ 10 สาขา
นายพุฒิเมศ เลิศวิริยะเศรษฐ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไดโดมอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯได้วางแผนที่จะกลับมารุกตลาดอาหารอีกครั้งอย่างหนักในปีหน้า ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมดจะต้องขึ้นอยู่กับแผนการฟื้นฟูของบริษัทฯซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนจัดการอยู่ แต่คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด
ทั้งนี้บริษัทฯเตรียมที่จะขยายธุรกิจร้านอาหารออกไปอีก โดยวางเป้าหมายที่จะเปิดร้านใหม่ๆประมาณ 10 สาขาในปีหน้า และมีแผนที่จะขายแฟรนไชส์ด้วย ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ในช่วงของการเตรียมตัวศึกษา คาดว่าต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควร
โดยบริษัทฯเตรียมจะเปิดตัวร้านคอนเซ็ปท์ใหม่ที่ใช้ชื่อใหม่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ระหว่างการคัดเลือกชื่อ โดยจะเปิดสาขาแรกในเดือนพฤศจิกายนนี้ที่ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต บริเวณชั้น 2 ซึ่งเป็นร้านไดโดมอนเดิมอยู่แล้ว โดยไดโดมอนมีสาขาอยู่ในฟิวเจอร์พาร์ครังสิต จำนวน 3 ร้าน ซึ่งการปรับเป็นร้านคอนเซ็ปท์ใหม่ 1 สาขาไปแล้วนั้น ส่วนอีก 2 ร้านเดิมก็ยังเปิดบริการอยู่ในรูปแบบไดโดมอน
ขณะเดียวกันก็จะยังมีการเปิดสาขาของร้านไดโดมอนใหม่ๆเพิ่มขึ้นด้วย โดยคาดว่าสัดส่วนที่จะเปิดใหม่ปีหน้าจะเป็นร้านคอนเซ็ปท์ใหม่ประมาณ 7-8 สาขา และเป็นร้านไดโดมอนเดิม 2-3 สาขา พร้อมทั้งจะมีการออกเมนูใหม่ทุกไตรมาสเพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ส่วนเรื่องของต้นทุนนั้น ขณะนี้ต้นทุนด้านวัตถุดิบเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะมีการพิจารณาในเรื่องของราคาอีกครั้ง
ปัจจุบันบริษัทฯมีร้านไดโดมอนเปิดบริการแล้วประมาณ 38 สาขา โดยแบ่งเป็นร้านที่ตั้งยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 32 สาขา ในต่างจังหวัดอีก 6 สาขา
นายพุฒิเมศ ยอมรับด้วยว่า ผลประกอบการของบริษัทฯในปีนี้คาดว่าจะลดลงจากปีที่ผ่านมา เนื่องมาจากยังอยู่ในกระบวนการแก้ไขปัญหาบริษัทฯ อีกทั้งยังมาจากการปิดสาขาลงไปเป็นจำนวนมากก่อนหน้านี้ตั้งแต่ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเปิดร้านในพื้นที่ที่ไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และมีผลประกอบการที่ไม่คุ้มค่า ฝ่ายบริหารจึงตัดสินใจลดสาขาลงจากเดิมที่มี 63 สาขาในปี 2547 เหลือเพียง 38 สาขาเท่านั้นในขณะนี้
ผลจากการลดจำนวนสาขาลงย่อมทำให้รายได้ลดลงไปด้วย แต่ก็ทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยลูกค้าของไดโดมอนเจาะกลุ่มอายุประมาณ 18-30 ปี ขณะนี้มีสมาชิก 160,000 ราย คาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 180,000 ราย
“ไดโดมอนเน้นการทำธุรกิจประเภทบุฟเฟต์มาตั้งแต่ปี 2533 แต่สถานการณ์เวลานี้ธุรกิจร้านอาหารประเภทบาร์บีคิวเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แข่งขันสูง เพราะผู้ประกอบการทุกรายมุ่งขยายสาขา ซึ่งไดโดมอนมีข้อจำกัดในเรื่องพื้นที่เพราะเปิดให้บริการในห้างสรรพสินค้า จึงเป็นรองคู่แข่งในธุรกิจเดียวกัน ดังนั้นปีหน้าจะปรับเปลี่ยนรูปแบบร้านให้ทันสมัยไม่ยึดติดกับบาร์บีคิวหรือยากิชาบู แต่ยังคงความเป็นร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม และจะทำกิจกรรมกับกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น คาดว่าสิ้นปีหน้า ไดโดมอนจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 14-18% จากปีนี้”
ล่าสุดได้จัดการแข่งขัน “Daidomon Go On The Champion” หรือ การแข่งกินไดโดมอนชิงแชมป์ประเทศไทย ชิงเงินรางวัลมูลค่าร่วม 100,000 บาท เพื่อสร้างสีสันและเป็นการส่งเสริมกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องกินไดโดมอนให้ได้มากที่สุดในเวลา 9 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 11.00 น. – 20.00 น. ผู้ที่สามารถกินไดโดมอนได้มากที่สุดจะได้รับตำแหน่ง “แชมป์กินไดโดมอน” ไปครอง จะได้รับเงินรางวัล, Daidomon Voucher, ตั๋วเครื่องบินไปกลับ กรุงเทพฯ-กระบี่ พร้อมที่พัก และบัตรสมาชิกกิตติมศักดิ์ รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 49,750 บาท พร้อมทั้งบันทึกสถิติการกินไดโดมอนได้มากที่สุดของประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ไดโดมอนก็ได้เปิดตัวคอนเซ็ปท์ใหม่ไปแล้วด้วยการสร้างแบรนด์ “กรีนได” โดยได้ปรับปรุงร้านไดโดมอนเดิม 2 สาขา เปิดร้านคอนเซ็ปท์ใหม่ที่โรบินสันรัชดาภิเษกและสีลมคอมเพล็กซ์ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดบริการได้ไม่นาน ไดโดมอนก็ตัดสินใจปิดร้านกรีนไดเนื่องจากไม่ประสบความสำเร็จ จึงหันกลับมาเปิดรูปแบบเดิมอีกครั้ง