เครือซิเมนต์ไทย จับมือกับบริษัท Dow Chemical สร้างโรงงานโอเลฟินส์แห่งที่ 2 ในไทยมูลค่า 44,000 ล้านบาท พร้อมขยายการลงทุนอีก 16,000 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 48 มีกำไรสุทธิ 27,134 ล้านบาท ขณะเดียวกัน เตรียมออกหุ้นกู้ 3 หมื่นล้านบาท ปี 49 รีไฟแนนซ์หุ้นกู้เดิม
นายชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เครือซิเมนต์ไทยได้ร่วมลงนาม ในหนังสือแสดงเจตจำนงกับบริษัท Dow Chemical เพื่อลงทุนสร้างโรงงานโอเลฟินส์ แห่งที่ 2 ในประเทศ มูลค่าการลงทุน 44,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 67 นอกจากนี้ จะขยายการลงทุนในโครงการ Dowstrem 16,000 ล้านบาท โดยคาดว่าโรงงานแห่งที่ 2 นี้ จะสามารถเริ่มทำการผลิตได้ใน 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ โรงงานโอเลฟินส์ แห่งที่ 2 จะมีกำลังการผลิตรวม 1.7 ล้านตันต่อปี และจะมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกประมาณ 70,000 ตันต่อปี โดยจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่วนโครงการ Dowstrem จะมีกำลังการผลิตรวม 700,000 ตันต่อปี
ส่วนผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 3 ปี 2548 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดขายสุทธิ 56,590 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเครือซิเมนต์ไทยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 8,416 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 30 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกำไรที่ลดลงของธุรกิจปิโตรเคมี และธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์ ขณะที่กำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม (อีบิทด้า) เท่ากับ 11,770 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 32 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากเงินปันผลรับจากบริษัทร่วมลดลง
ส่วนผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 เครือฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 27,134 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอีบิทด้า เท่ากับ 44,088 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเครือฯ มียอดขายสุทธิเท่ากับ 168,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านนายกานต์ ตระกูลฮุน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) กล่าวว่า ปี 2549 บริษัทจะออกหุ้นกู้ 3 หมื่นล้านบาท รองรับหุ้นกู้เก่าที่จะหมดอายุช่วง เม.ย.- ต.ค. 2549 ปัจจุบัน ดอกเบี้ยหุ้นกู้ร้อยละ 4.2-4.5 หุ้นกู้ส่วนใหญ่ระยะหลังจะอายุไม่เกิน 4 ปี แม้ SCC มีโครงการขยายกำลังผลิตทุกบริษัทในเครือ แต่บริษัทยังมีนโยบายจ่ายปันผลเช่นเดิม ปีที่แล้ว จ่ายปันผลทั้งปี 15 บาทต่อหุ้น ปีนี้ ไม่น่าจะมีปัญหาจ่ายปันผลระดับดังกล่าว
สำหรับการหยุดเดินเครื่องโรงโอเลฟินส์เครือซิเมนต์ไทยไตรมาส 4 ซึ่งจะปิดซ่อมบำรุง 35 วัน แม้จะมีการสตอกเพื่อใช้ในประเทศ-ส่งออก แต่ยังส่งผลกระทบยอดขายปิโตรเคมีร้อยละ 10 หากเทียบรายได้ทั้งเครือจะกระทบประมาณร้อยละ 3-4
นายชุมพล ณ ลำเลียง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เครือซิเมนต์ไทยได้ร่วมลงนาม ในหนังสือแสดงเจตจำนงกับบริษัท Dow Chemical เพื่อลงทุนสร้างโรงงานโอเลฟินส์ แห่งที่ 2 ในประเทศ มูลค่าการลงทุน 44,000 ล้านบาท โดยบริษัทจะถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 67 นอกจากนี้ จะขยายการลงทุนในโครงการ Dowstrem 16,000 ล้านบาท โดยคาดว่าโรงงานแห่งที่ 2 นี้ จะสามารถเริ่มทำการผลิตได้ใน 5 ปีข้างหน้า ทั้งนี้ โรงงานโอเลฟินส์ แห่งที่ 2 จะมีกำลังการผลิตรวม 1.7 ล้านตันต่อปี และจะมีผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกประมาณ 70,000 ตันต่อปี โดยจะใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่วนโครงการ Dowstrem จะมีกำลังการผลิตรวม 700,000 ตันต่อปี
ส่วนผลการดำเนินงาน ไตรมาสที่ 3 ปี 2548 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมียอดขายสุทธิ 56,590 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเครือซิเมนต์ไทยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 8,416 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 4 จากไตรมาสก่อน และลดลงร้อยละ 30 จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากกำไรที่ลดลงของธุรกิจปิโตรเคมี และธุรกิจกระดาษและบรรจุภัณฑ์ ขณะที่กำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อม (อีบิทด้า) เท่ากับ 11,770 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 32 จากไตรมาสก่อน เนื่องจากเงินปันผลรับจากบริษัทร่วมลดลง
ส่วนผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2548 เครือฯ มีกำไรสุทธิเท่ากับ 27,134 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอีบิทด้า เท่ากับ 44,088 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเครือฯ มียอดขายสุทธิเท่ากับ 168,234 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้านนายกานต์ ตระกูลฮุน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) กล่าวว่า ปี 2549 บริษัทจะออกหุ้นกู้ 3 หมื่นล้านบาท รองรับหุ้นกู้เก่าที่จะหมดอายุช่วง เม.ย.- ต.ค. 2549 ปัจจุบัน ดอกเบี้ยหุ้นกู้ร้อยละ 4.2-4.5 หุ้นกู้ส่วนใหญ่ระยะหลังจะอายุไม่เกิน 4 ปี แม้ SCC มีโครงการขยายกำลังผลิตทุกบริษัทในเครือ แต่บริษัทยังมีนโยบายจ่ายปันผลเช่นเดิม ปีที่แล้ว จ่ายปันผลทั้งปี 15 บาทต่อหุ้น ปีนี้ ไม่น่าจะมีปัญหาจ่ายปันผลระดับดังกล่าว
สำหรับการหยุดเดินเครื่องโรงโอเลฟินส์เครือซิเมนต์ไทยไตรมาส 4 ซึ่งจะปิดซ่อมบำรุง 35 วัน แม้จะมีการสตอกเพื่อใช้ในประเทศ-ส่งออก แต่ยังส่งผลกระทบยอดขายปิโตรเคมีร้อยละ 10 หากเทียบรายได้ทั้งเครือจะกระทบประมาณร้อยละ 3-4