ซี.วี.เอส.ระบุตลาดเบียร์นำเข้า 8 ปีหดตัว อัดงบเพิ่ม 20% ปั้นเบียร์โคโรน่าสู้ปัจจัยลบ รุกกระตุ้นยอดช่วงไฮซีซั่น จัดงาน “Reggaeton Connection by Corona” ดึงนักเต้นสไตล์เรกเก้ผสมฮิพฮอพจากเม็กซิโก พร้อมอาศัยเครือค่ายเบียร์ในเครือร่วมออกเบียร์การ์เด้น 5 แห่ง สิ้นปียอดขายโต 15% กวาด 3.4 หมื่นลัง
นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธาน บริษัท ซี.วี.เอส.ซินดิเคท จำกัด ผู้นำเข้าเบียร์โคโรน่า เปิดเผยว่า ภาวะตลาดเบียร์นำเข้าโดยรวมคิดเป็นสัดส่วน 0.2% จากมูลค่าตลาดรวมเบียร์กว่า 80,000 ล้านบาทในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมานี้หดตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเบียร์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตมาก ผู้ดื่มหันมาดื่มเบียร์ราคาถูกเพราะผลพวงจากเศรษฐกิจ อีกทั้งเบียร์นำเข้าเองในปีที่ผ่านมายังได้รับผลกระทบจากสึนามิ ส่งผลให้ตลาดท่องเที่ยวไม่ค่อยดีมากนัก โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ยอดขายเฉพาะที่ภูเก็ตลดลงกว่า 10% ส่วนในช่วงสามไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทฯเติบโต 15% และสิ้นปีคาดว่าจะเติบโตได้เกิน 15% หรือมียอดขาย 34,000 ลัง จากเป้าเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 20%
ล่าสุดบริษัทฯได้จัดงาน “Reggaeton Connection by Corona” โดยดึงนักเต้นสไตล์เรกเก้ผสมฮิพฮอพ 5 คน จากประเทศเม็กซิโกมาร่วมสร้างสีสันในช่วงไฮซีซั่นหรือในช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ ตามสถานบันเทิง ผับ บาร์ ซึ่งเป็นเอาท์เลทของเบียร์โคโรน่า โดยเป็นกิจกรรมที่ทำติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และมีผลต่อการสร้างแบรนด์ให้คนไทยได้รู้จักมากขึ้นรวมทั้งกระตุ้นยอดขายได้ถึง 20-30% ต่อเอาท์เลทในช่วงที่จัดกิจกรรมในแต่ละปี
ขณะที่ในช่วงเทศกาลเบียร์การ์เด้นที่กำลังจะมาถึงในเดือนพฤศจิกายน บริษัทฯได้จัดบูธเบียร์โคโรน่าร่วมกับสินค้าในเครือเบียร์สิงห์,ลีโอในลานเบียร์การ์เด้น 4-5 แห่ง ที่ สยามดิสคัฟเวอรี่,เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา ,ภูเก็ต,สมุย และพัทยา โดยที่สยามดิสคัฟเวอรี่จะมีแมสคอตสูง 4 ชั้นเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ ซึ่งในไตรมาสสุดท้ายนี้บริษัทฯใช้งบ 3 ล้านบาท จากงบการตลาดโดยรวมปีนี้บริษัทฯเพิ่มขึ้น 20% ซึ่งปกติในแต่ละปีใช้ราว 10 ล้านบาท
นายจุตินันท์ กล่าวว่า บริษัทฯแม่ของเบียร์โคโรน่าจากประเทศเม็กซิโก เล็งเห็นว่าตลาดเบียร์ในเอเชียมีอัตราการเติบโตสูง และได้ทำตลาดในเชิงรุก 10 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้โคโรน่าเป็นเบียร์นำเข้าติดอันดับท็อปทรีในแต่ละประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้ขยายตลาดสู่รัสเซียและอินเดียเพิ่มเพื่อกระจายความเสี่ยง จากปัจจุบันมีตลาดหลักอยู่ในอเมริกาและเม็กซิโก นอกจากนี้มีเริ่มเปิดภาพยนตร์โฆษณาในรีจินัล เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างมากขึ้น
ล่าสุดได้เปลี่ยนโปรแกรมการจัดกิจกรรมแดนซ์เซอร์มา 3 ปี ซึ่งในปีนี้ได้ดึงนักเต้นสไตล์เรกเก้ผสมฮิพฮอพ 5คน จากประเทศเม็กซิโกมาแสดงในเอเชีย 5ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไต้หวัน และไทยที่สุดท้ายเป็นเวลา 11 วัน ซึ่งบริษัทฯคาดว่าจะสามารถแสดงในสถานบันเทิงได้ครอบคลุมทุกเอาท์เลทของเบียร์โคโรน่า
นายปรีชา ชินรุจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.วี.เอส.ซินดิเคท จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯต้องการขยายฐานกลุ่มลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีกว่า 30% และต่างประเทศกว่า 70% โดยเฉพาะการเน้นขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้ชายเป็นหลัก เริ่มตั้งแต่จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแจกเซกเวย์ ในช่วงต้นปีและนำนางงามเม็กซิโก หรือรองอันดับ 3 “Miss Laura Elizondo” มาร่วมโปรโมตเบียร์โคโรน่า นอกจากนี้ยังได้เริ่มสร้างตราสินค้า “เตกิล่า โฮเซ่”ให้คนจดจำได้
นายจุตินันท์ ภิรมย์ภักดี ประธาน บริษัท ซี.วี.เอส.ซินดิเคท จำกัด ผู้นำเข้าเบียร์โคโรน่า เปิดเผยว่า ภาวะตลาดเบียร์นำเข้าโดยรวมคิดเป็นสัดส่วน 0.2% จากมูลค่าตลาดรวมเบียร์กว่า 80,000 ล้านบาทในช่วง 7-8 ปีที่ผ่านมานี้หดตัวลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเบียร์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตมาก ผู้ดื่มหันมาดื่มเบียร์ราคาถูกเพราะผลพวงจากเศรษฐกิจ อีกทั้งเบียร์นำเข้าเองในปีที่ผ่านมายังได้รับผลกระทบจากสึนามิ ส่งผลให้ตลาดท่องเที่ยวไม่ค่อยดีมากนัก โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ยอดขายเฉพาะที่ภูเก็ตลดลงกว่า 10% ส่วนในช่วงสามไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทฯเติบโต 15% และสิ้นปีคาดว่าจะเติบโตได้เกิน 15% หรือมียอดขาย 34,000 ลัง จากเป้าเดิมตั้งเป้าไว้ที่ 20%
ล่าสุดบริษัทฯได้จัดงาน “Reggaeton Connection by Corona” โดยดึงนักเต้นสไตล์เรกเก้ผสมฮิพฮอพ 5 คน จากประเทศเม็กซิโกมาร่วมสร้างสีสันในช่วงไฮซีซั่นหรือในช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนนี้ ตามสถานบันเทิง ผับ บาร์ ซึ่งเป็นเอาท์เลทของเบียร์โคโรน่า โดยเป็นกิจกรรมที่ทำติดต่อกันเป็นปีที่ 3 และมีผลต่อการสร้างแบรนด์ให้คนไทยได้รู้จักมากขึ้นรวมทั้งกระตุ้นยอดขายได้ถึง 20-30% ต่อเอาท์เลทในช่วงที่จัดกิจกรรมในแต่ละปี
ขณะที่ในช่วงเทศกาลเบียร์การ์เด้นที่กำลังจะมาถึงในเดือนพฤศจิกายน บริษัทฯได้จัดบูธเบียร์โคโรน่าร่วมกับสินค้าในเครือเบียร์สิงห์,ลีโอในลานเบียร์การ์เด้น 4-5 แห่ง ที่ สยามดิสคัฟเวอรี่,เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซา ,ภูเก็ต,สมุย และพัทยา โดยที่สยามดิสคัฟเวอรี่จะมีแมสคอตสูง 4 ชั้นเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ ซึ่งในไตรมาสสุดท้ายนี้บริษัทฯใช้งบ 3 ล้านบาท จากงบการตลาดโดยรวมปีนี้บริษัทฯเพิ่มขึ้น 20% ซึ่งปกติในแต่ละปีใช้ราว 10 ล้านบาท
นายจุตินันท์ กล่าวว่า บริษัทฯแม่ของเบียร์โคโรน่าจากประเทศเม็กซิโก เล็งเห็นว่าตลาดเบียร์ในเอเชียมีอัตราการเติบโตสูง และได้ทำตลาดในเชิงรุก 10 ปี โดยมีเป้าหมายเพื่อให้โคโรน่าเป็นเบียร์นำเข้าติดอันดับท็อปทรีในแต่ละประเทศ ซึ่งขณะนี้ได้ขยายตลาดสู่รัสเซียและอินเดียเพิ่มเพื่อกระจายความเสี่ยง จากปัจจุบันมีตลาดหลักอยู่ในอเมริกาและเม็กซิโก นอกจากนี้มีเริ่มเปิดภาพยนตร์โฆษณาในรีจินัล เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างมากขึ้น
ล่าสุดได้เปลี่ยนโปรแกรมการจัดกิจกรรมแดนซ์เซอร์มา 3 ปี ซึ่งในปีนี้ได้ดึงนักเต้นสไตล์เรกเก้ผสมฮิพฮอพ 5คน จากประเทศเม็กซิโกมาแสดงในเอเชีย 5ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ไต้หวัน และไทยที่สุดท้ายเป็นเวลา 11 วัน ซึ่งบริษัทฯคาดว่าจะสามารถแสดงในสถานบันเทิงได้ครอบคลุมทุกเอาท์เลทของเบียร์โคโรน่า
นายปรีชา ชินรุจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซี.วี.เอส.ซินดิเคท จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯต้องการขยายฐานกลุ่มลูกค้าคนไทยเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันมีกว่า 30% และต่างประเทศกว่า 70% โดยเฉพาะการเน้นขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้ชายเป็นหลัก เริ่มตั้งแต่จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแจกเซกเวย์ ในช่วงต้นปีและนำนางงามเม็กซิโก หรือรองอันดับ 3 “Miss Laura Elizondo” มาร่วมโปรโมตเบียร์โคโรน่า นอกจากนี้ยังได้เริ่มสร้างตราสินค้า “เตกิล่า โฮเซ่”ให้คนจดจำได้