ธนิยะกรุ๊ป ขยายอาณาธุรกิจ ทุ่มกว่า 700 ล้านบาท คลอดธุรกิจสปา ส่วนโรงแรมเตรียมเปิดธ.ค.นี้ พร้อมเทงบกว่า 300 ล้านบาท ปรับโฉมศูนย์การค้าธนิยะ พลาซา บีทีเอส วิงย่านสีลม ชูจุดเด่นทำเลศูนย์กลางและสินค้ามีให้เลือกมาก ตั้งเป้ายอดรายได้ศูนย์ฯเดือนละ 30-50 ล้านบาท แย้มสนใจลงทุนด้านธุรกิจการศึกษาในอีก 2 ปีข้างหน้า
นายสถาปัตย์ ปรีดา กรรมการอำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทธนิยะ เรียลเอสเตต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือธนิยะกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าในรอบ 1-2 ปีนี้บริษัทใช้งบลงทุนกว่า 700 ล้านบาท แบ่งเป็น เปิดธุรกิจสปริงฟิลด์ สปาในสนามกอล์ฟสปริงฟิลด์ รอยัล คันทรีคลับที่ชะอำ-หัวหิน 200 ล้านบาท ซึ่งเพิ่งเปิดไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ล่าสุดบริษัททุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท ปรับปรุงอาคารธนิยะขนาด 11 ชั้น ขนาดพื้นที่รวม 15,000 ตร.ม.ปรับเป็นศูนย์การค้า 3 ชั้น คือ ชั้นที่ 1-3 และชั้นที่เหลือเป็นสำนักงานให้เช่า ซึ่งปัจจุบันทั้ง 3 ชั้นมีผู้ประกอบการจองพื้นที่เต็มแล้ว
จุดเด่นของธนิยะ พลาซา บีทีเอส วิง อยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจและการเดินทางมีความสะดวกทั้งทางรถและรถไฟฟ้าบีทีเอส อีกทั้งบริเวณพลาซายังมีร้านค้าและสินค้าให้เลือกหลากหลาย เช่น เสื้อผ้า,ร้านอาหารและร้านจิวเวอรี่
"สิ่งที่คาดหวังจากศูนย์การค้าแห่งใหม่นี้ คือ ต้องการทำศูนย์ฯให้มีชื่อเสียงเหมือนธนิยะ พลาซาที่มีชื่อเสียงในด้านสินค้าและอุปกรณ์กอล์ฟ ซึ่งศูนย์ฯนี้เรายังคงเน้นสร้างการรับรู้ทางด้านกอล์ฟเป็นหลัก และจะเพิ่มสิ่งอื่นเข้ามาเช่น เสื้อผ้า,ร้านอาหารและเพชร เป็นต้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักของศูนย์ฯจะเน้นทั้งกลุ่มคนทำงานย่านสีลม คิดเป็นสัดส่วน 90% และที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ นักกีฬา และนักศึกษา"
ทั้งนี้บริษัททดลองเปิดศูนย์ฯมา 1 เดือนพบว่ามีอัตราผู้เข้า-ออกศูนย์ฯวันละ 3 หมื่นราย โดยบริษัทตั้งเป้าจำนวนผู้เข้า-ออกจะเพิ่มเป็น 1 แสนคนในอีกไม่เกิน 2-3 เดือนนี้ จากการที่บริษัทเตรียมใช้งบการตลาด 15-20% ของยอดรายได้รวมบริษัท ในการจัดกิจกรรมและอีเวนต์ต่างๆในทุกอาทิตย์เป็นเวลา 6 เดือนหลังจากที่เปิดตัวศูนย์ฯอย่างเป็นทางการในวานนี้ (6 ต.ค.48) โดยคาดว่ายอดรายได้เฉพาะในส่วนพลาซาคาดว่าจะมีรายได้เดือนละประมาณ 30-50 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมขยายตลาดด้วยการลงทุนกว่า 200 ล้านบาทเปิดโรงแรมใหม่ในบริเวณสนามกอล์ฟสปริงฟิลด์ที่มีพื้นที่กว่า 3 พันไร่ คาดว่าจะเปิดตัวได้ในเดือนธันวาคมนี้ รวมถึงโครงการในปีหน้าเตรียมขยายธุรกิจด้านสนามกอล์ฟจากเดิม 27 หลุมเป็น 36 หลุม ซึ่งพื้นที่ว่างในการลงทุนธุรกิจอื่นเพิ่มในสนามกอล์ฟยังมีมากกว่า 200 ไร่ ดังนั้นในอีก 2 ปีข้างหน้านี้บริษัทเล็งลงทุนด้านธุรกิจที่เกี่ยวกับการศึกษา
สำหรับยอดรายได้รวมของธนิยะกรุ๊ป ตั้งเป้าว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้กว่า 1.3 พันล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจอพาร์ทเมนต์เซอร์วิส 65-70% และยอดรายได้จากศูนย์ฯใหม่นี้คาดว่าจะได้ 10% และที่เหลือเป็นธุรกิจสนามกอล์ฟ
นายสถาปัตย์ ปรีดา กรรมการอำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทธนิยะ เรียลเอสเตต จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือธนิยะกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่าในรอบ 1-2 ปีนี้บริษัทใช้งบลงทุนกว่า 700 ล้านบาท แบ่งเป็น เปิดธุรกิจสปริงฟิลด์ สปาในสนามกอล์ฟสปริงฟิลด์ รอยัล คันทรีคลับที่ชะอำ-หัวหิน 200 ล้านบาท ซึ่งเพิ่งเปิดไปเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ล่าสุดบริษัททุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท ปรับปรุงอาคารธนิยะขนาด 11 ชั้น ขนาดพื้นที่รวม 15,000 ตร.ม.ปรับเป็นศูนย์การค้า 3 ชั้น คือ ชั้นที่ 1-3 และชั้นที่เหลือเป็นสำนักงานให้เช่า ซึ่งปัจจุบันทั้ง 3 ชั้นมีผู้ประกอบการจองพื้นที่เต็มแล้ว
จุดเด่นของธนิยะ พลาซา บีทีเอส วิง อยู่ที่ทำเลที่ตั้งที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจและการเดินทางมีความสะดวกทั้งทางรถและรถไฟฟ้าบีทีเอส อีกทั้งบริเวณพลาซายังมีร้านค้าและสินค้าให้เลือกหลากหลาย เช่น เสื้อผ้า,ร้านอาหารและร้านจิวเวอรี่
"สิ่งที่คาดหวังจากศูนย์การค้าแห่งใหม่นี้ คือ ต้องการทำศูนย์ฯให้มีชื่อเสียงเหมือนธนิยะ พลาซาที่มีชื่อเสียงในด้านสินค้าและอุปกรณ์กอล์ฟ ซึ่งศูนย์ฯนี้เรายังคงเน้นสร้างการรับรู้ทางด้านกอล์ฟเป็นหลัก และจะเพิ่มสิ่งอื่นเข้ามาเช่น เสื้อผ้า,ร้านอาหารและเพชร เป็นต้น ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักของศูนย์ฯจะเน้นทั้งกลุ่มคนทำงานย่านสีลม คิดเป็นสัดส่วน 90% และที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ นักกีฬา และนักศึกษา"
ทั้งนี้บริษัททดลองเปิดศูนย์ฯมา 1 เดือนพบว่ามีอัตราผู้เข้า-ออกศูนย์ฯวันละ 3 หมื่นราย โดยบริษัทตั้งเป้าจำนวนผู้เข้า-ออกจะเพิ่มเป็น 1 แสนคนในอีกไม่เกิน 2-3 เดือนนี้ จากการที่บริษัทเตรียมใช้งบการตลาด 15-20% ของยอดรายได้รวมบริษัท ในการจัดกิจกรรมและอีเวนต์ต่างๆในทุกอาทิตย์เป็นเวลา 6 เดือนหลังจากที่เปิดตัวศูนย์ฯอย่างเป็นทางการในวานนี้ (6 ต.ค.48) โดยคาดว่ายอดรายได้เฉพาะในส่วนพลาซาคาดว่าจะมีรายได้เดือนละประมาณ 30-50 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมขยายตลาดด้วยการลงทุนกว่า 200 ล้านบาทเปิดโรงแรมใหม่ในบริเวณสนามกอล์ฟสปริงฟิลด์ที่มีพื้นที่กว่า 3 พันไร่ คาดว่าจะเปิดตัวได้ในเดือนธันวาคมนี้ รวมถึงโครงการในปีหน้าเตรียมขยายธุรกิจด้านสนามกอล์ฟจากเดิม 27 หลุมเป็น 36 หลุม ซึ่งพื้นที่ว่างในการลงทุนธุรกิจอื่นเพิ่มในสนามกอล์ฟยังมีมากกว่า 200 ไร่ ดังนั้นในอีก 2 ปีข้างหน้านี้บริษัทเล็งลงทุนด้านธุรกิจที่เกี่ยวกับการศึกษา
สำหรับยอดรายได้รวมของธนิยะกรุ๊ป ตั้งเป้าว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้กว่า 1.3 พันล้านบาท แบ่งเป็นธุรกิจอพาร์ทเมนต์เซอร์วิส 65-70% และยอดรายได้จากศูนย์ฯใหม่นี้คาดว่าจะได้ 10% และที่เหลือเป็นธุรกิจสนามกอล์ฟ