xs
xsm
sm
md
lg

"ศุภวุฒิ" เตือนปีหน้าระวังเศรษฐกิจสหรัฐฟองสบู่แตก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

"ศุภวุฒิ สายเชื้อ" เตือนระวังผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกในปีหน้าที่จะชะลอตัว เกรงฟองสบู่สหรัฐแตกจากแนวโน้มการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดที่น่าจะสูงขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ญี่ปุ่นเป็นกลไกลหลักในการผลักดันเศรษฐกิจ ส่วนเศรษฐกิจไทยโตร้อยละ 4 โดยจะต้องเร่งการลงทุนภาครัฐและเอกชนที่มีคุณภาพ ด้านดอกเบี้ยขาขึ้น โดยดอกเบี้ยเงินฝากจะเพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 3.5 - 4 ปลายปีหน้า

นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยในงานสัมมนา เรื่อง "เศรษฐกิจโลกกับการส่งออก" จัดโดยธนาคารเพื่อการนำเข้าและส่งออกแห่งประเทศไทย (ธสน.) ว่า เศรษฐกิจโลกในช่วงครึ่งหลังของปี 2548 ยังคงเกิดการชะลอตัว ขณะที่เศรษฐกิจโลกในปีหน้าก็ยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากขณะนี้ในหลายภูมิภาคเกิดความไม่สมดุลของระบบเศรษฐกิจ เช่น เศรษฐกิจของสหรัฐที่มีแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งระยะสั้นและระยะยาวอย่างรวดเร็วและความเสียหายจากเหตุพายุเฮอริเคนแคทรีนา ทำให้ต้องมีการเร่งใช้จ่ายงบประมาณเพิ่มฟื้นฟู และจะเป็นผลให้สหรัฐขาดดุลบัญชีเดินสะพัดสูงขึ้น จนเกิดความวิตกว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะเสี่ยงต่อการเกิดภาวะฟองสบู่แตก

ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปยังเติบโตได้ต่อเนื่องแต่ไม่มากนัก เพราะผลจากการเลือกตั้งในเยอรมนีทำให้มีการคาดการว่าการปฏิรูปในยุโรปจะไม่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีเพียงประเทศญี่ปุ่นที่เป็นความหวังในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกในปีหน้า หลังจากที่มีการเปลี่ยนแปลงจากภาวะเงินฝืดมาเป็นภาวะเงินเฟ้อเล็กน้อย ทำให้ดอกเบี้ยในประเทศญี่ปุ่นต้องปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นสัญญาณดอกเบี้ยโลกให้มีแนวโน้มปรับขึ้นตาม

ส่วนเศรษฐกิจของไทยในปีหน้าคาดว่าจะมีการขยายตัวประมาณร้อยละ 4 โดยการส่งออกยังเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่สำคัญและภาคการท่องเที่ยวก็น่าจะปรับตัวดีขึ้น ส่วนเหตุการณ์ความไม่สงบในภาคใต้เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่นักลงทุนจากต่างชาติยังหวั่นวิตกและมีการสอบถามอย่างต่อเนื่อง เพราะเกรงว่าจะยืดเยื้อ อย่างไรก็ตามยังต้องอาศัยการลงทุนที่มีประสิทธิภาพจากภาครัฐและเอกชนเป็นตัวขับเคลื่อนโดยต้องเพิ่มสัดส่วนการลงทุนจากร้อยละ 30 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี ให้เป็นร้อยละ 35 ของจีดีพี ซึ่งในช่วงที่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจประเทศไทยเคยมีสัดส่วนการลงทุนสูงถึงร้อยละ 40 ของจีดีพี

ส่วนทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ นายศุภวุฒิ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วัน หรืออาร์พี 14 วัน อีก 2 ครั้ง ในการประชุมวันที่ 19 ตุลาคม และ 19 ธันวาคม โดยอัตราดอกเบี้ยอาร์พี ระยะ 14 วัน คาดว่าอยู่ที่ร้อยละ 3.75 และจะมีการปรับขึ้นอีกในปี 2549 โดยคาดว่าดอกเบี้ยอาร์พี 14 วัน จะอยู่ที่ร้อยละ 4 – 4.5 โดยขึ้นอยู่กับอัตราเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน และทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ

ส่วนอัตราดอกเบี้ยเงินฝากในประเทศ คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 3.5 – 4.0 ในปลายปีหน้า เพื่อทำให้อัตราที่แท้จริงเป็นบวก เพราะตามนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะต้องควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบที่กำหนดไว้คือ ร้อยละ 0- 3.5
กำลังโหลดความคิดเห็น