รมช.พาณิชย์เชิญผู้ประกอบการตลาดสดหารือเพื่อขอความร่วมมือให้ช่วยตรึงราคาอาหารสดในช่วงเทศกาลกินเจโดยเฉพาะผัก ซึ่งผู้ประกอบการรับปากจะตรึงราคาไว้ในช่วงดังกล่าว ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์จะกระตุ้นให้คนไทยหันมาจดสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้ามากขึ้น พร้อมเร่งปล่อยสินเชื่อให้แก่เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาให้มากขึ้น
นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า วันนี้ (30 ก.ย.) ได้เชิญผู้ประกอบการตลาดสดในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และสี่มุมเมือง ประมาณ 50 ราย มาหารือเพื่อขอให้ตรึงราคาสินค้า อาหารสด โดยเฉพาะผักในช่วงเทศกาลกินเจเพื่อไม่ให้ผู้ขายฉวยโอกาสขึ้นราคา พร้อมกันนี้ยังกำชับให้ขายอาหารที่ได้มาตรฐานและมีความสด เนื่องจากในช่วงเทศกาลดังกล่าวจะมีผู้ซื้อจำนวนมาก ซึ่งผู้ประกอบการได้รับปากว่าจะกำหนดราคาอาหารสดตามเดิมในช่วงเทศกาลกินเจ
นายปรีชา กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานตลาดนัดแปลงทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทุน พร้อมมอบเงินสินเชื่อให้แก่เอสเอ็มอีจำนวน 11 ราย วงเงินตั้งแต่ 100,000-500,000 บาทต่อราย ว่าในปีนี้มีผู้ได้รับสินเชื่อตามโครงการนี้ 43 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มีเพียง 1 รายเท่านั้น รวมเป็นวงเงินอนุมัติ 41.74 ล้านบาท ซึ่งในปี 2549 จะขยายการให้สินเชื่อในรูปแบบแฟรนไชส์และการบริหารจัดการที่ดี เนื่องจากที่ผ่านมาธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงก์) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงเทพ ได้ปล่อยสินเชื่อเพียงแค่เป็นทุนบริหารจัดการเท่านั้น พร้อมจะกระตุ้นให้คนไทยหันมาจดสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้ามากขึ้น รวมทั้งจัดตลาดกลางประเมินราคาทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อเปิดซื้อขาย จากนั้นจะมีกองทุนร่วมลงทุน (เวนเจอร์ แคปปิตอล) เข้ามาลงทุน
“ยอมรับว่าคนไทยยังให้ความสำคัญกับเครื่องหมายการค้าค่อนข้างน้อย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะจัดกิจกรรมกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จกับการผลักดันเรื่องลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรไปแล้ว ที่สำคัญกระทรวงพาณิชย์จะผลักดันให้เครื่องหมายการค้าไทยสามารถจดสิทธิบัตรในต่างประเทศได้” นายปรีชา กล่าว
นายปรีชา เลาหพงศ์ชนะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า วันนี้ (30 ก.ย.) ได้เชิญผู้ประกอบการตลาดสดในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และสี่มุมเมือง ประมาณ 50 ราย มาหารือเพื่อขอให้ตรึงราคาสินค้า อาหารสด โดยเฉพาะผักในช่วงเทศกาลกินเจเพื่อไม่ให้ผู้ขายฉวยโอกาสขึ้นราคา พร้อมกันนี้ยังกำชับให้ขายอาหารที่ได้มาตรฐานและมีความสด เนื่องจากในช่วงเทศกาลดังกล่าวจะมีผู้ซื้อจำนวนมาก ซึ่งผู้ประกอบการได้รับปากว่าจะกำหนดราคาอาหารสดตามเดิมในช่วงเทศกาลกินเจ
นายปรีชา กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดงานตลาดนัดแปลงทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทุน พร้อมมอบเงินสินเชื่อให้แก่เอสเอ็มอีจำนวน 11 ราย วงเงินตั้งแต่ 100,000-500,000 บาทต่อราย ว่าในปีนี้มีผู้ได้รับสินเชื่อตามโครงการนี้ 43 ราย เพิ่มขึ้นจากปี 2547 ที่มีเพียง 1 รายเท่านั้น รวมเป็นวงเงินอนุมัติ 41.74 ล้านบาท ซึ่งในปี 2549 จะขยายการให้สินเชื่อในรูปแบบแฟรนไชส์และการบริหารจัดการที่ดี เนื่องจากที่ผ่านมาธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงก์) ธนาคารออมสิน และธนาคารกรุงเทพ ได้ปล่อยสินเชื่อเพียงแค่เป็นทุนบริหารจัดการเท่านั้น พร้อมจะกระตุ้นให้คนไทยหันมาจดสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้ามากขึ้น รวมทั้งจัดตลาดกลางประเมินราคาทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อเปิดซื้อขาย จากนั้นจะมีกองทุนร่วมลงทุน (เวนเจอร์ แคปปิตอล) เข้ามาลงทุน
“ยอมรับว่าคนไทยยังให้ความสำคัญกับเครื่องหมายการค้าค่อนข้างน้อย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะจัดกิจกรรมกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ประสบความสำเร็จกับการผลักดันเรื่องลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรไปแล้ว ที่สำคัญกระทรวงพาณิชย์จะผลักดันให้เครื่องหมายการค้าไทยสามารถจดสิทธิบัตรในต่างประเทศได้” นายปรีชา กล่าว