เครื่องทำกาแฟ La Marzocco ถือได้ว่าเป็นแบรนด์หนึ่งที่มีชื่อเสียง และคุณภาพดีที่สุดในประเทศอิตาลี ซึ่งตอนนี้ได้มีวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย โดยบริษัทบอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้บุกเบิกนำเข้ามาเป็นรายแรก และเป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย
บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านกาแฟรายใหญ่ของประเทศไทย มีไอเดียใหม่อยากให้คนไทยได้ลองใช้เครื่องทำกาแฟที่ทาง World Barista Championship (WBC) ใช้ในการแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าโลกที่เมืองซีแอทเทิล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2548 ที่ผ่านมา และครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่เมืองเบิร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นั่นก็คือเครื่องทำกาแฟ La Marzocco ซึ่งจัดได้ว่าเป็นเครื่องที่ทุกคนให้การยอมรับในคุณภาพ ไม่ใช่แต่เพียงในประเทศไทยเท่านั้นที่มีโอกาสได้ใช้เครื่อง La Marzocco เนื่องจาก บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ส่งเครื่องนี้ไปยังสาขาดูไบ สาธารณรัฐอาหรับอิมิเรตส์ ที่มีโรงแรมระดับ 7 ดาว อย่าง Burj Al Arab และโรงแรมในเครือ Jumirah Groups ที่เป็นลูกค้ารายหนึ่งของบอนกาแฟเช่นกัน
นางสาวมาลีรัตน์ ธนาประชุม กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “กาแฟของบอนกาแฟ ซึ่งเป็นกาแฟไทย 100% สามารถทำให้นานาชาติยอมรับในรสชาติและคุณภาพได้ สิ่งนี้บ่งบอกถึงความเป็นผู้นำของตลาดกาแฟในบ้านเรา และหากมองถึงภาพรวมของอัตราการเจริญเติบโตของตลาดกาแฟในปัจจุบันแล้ว คาดว่าเครื่องทำกาแฟ La Marzocco น่าจะเป็นที่สนใจและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในตลาดกาแฟ ของผู้ที่นิยมใช้เครื่องระบบหัวอัด”
บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มเปิดดำเนินการครั้งแรกในประเทศไทยปี 2535 และได้ขยายสาขามาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทุกวันนี้ในฐานะผู้นำธุรกิจกาแฟไทย โดยคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพ ทั้งอราบิก้าที่เพาะปลูกในพื้นที่ภาคเหนือ และเมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่เพาะปลูกในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย นำมาผ่านกระบวนการคั่วบดและบรรจุหีบห่อที่ได้มาตรฐานจากโรงงานในจังหวัดชลบุรี ปัจจุบันบริษัทบอนกาแฟซึ่งเป็นผู้นำในการให้บริการด้านอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม มีสาขาถึง 15 สาขา ทั้งในประเทศไทย กลุ่มประเทศในแถบอินโดจีน และตะวันออกกลาง
บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำธุรกิจด้านกาแฟรายใหญ่ของประเทศไทย มีไอเดียใหม่อยากให้คนไทยได้ลองใช้เครื่องทำกาแฟที่ทาง World Barista Championship (WBC) ใช้ในการแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้าโลกที่เมืองซีแอทเทิล รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี 2548 ที่ผ่านมา และครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่เมืองเบิร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นั่นก็คือเครื่องทำกาแฟ La Marzocco ซึ่งจัดได้ว่าเป็นเครื่องที่ทุกคนให้การยอมรับในคุณภาพ ไม่ใช่แต่เพียงในประเทศไทยเท่านั้นที่มีโอกาสได้ใช้เครื่อง La Marzocco เนื่องจาก บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ส่งเครื่องนี้ไปยังสาขาดูไบ สาธารณรัฐอาหรับอิมิเรตส์ ที่มีโรงแรมระดับ 7 ดาว อย่าง Burj Al Arab และโรงแรมในเครือ Jumirah Groups ที่เป็นลูกค้ารายหนึ่งของบอนกาแฟเช่นกัน
นางสาวมาลีรัตน์ ธนาประชุม กรรมการผู้จัดการ บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ยังได้กล่าวถึงความสำเร็จในครั้งนี้ว่า “กาแฟของบอนกาแฟ ซึ่งเป็นกาแฟไทย 100% สามารถทำให้นานาชาติยอมรับในรสชาติและคุณภาพได้ สิ่งนี้บ่งบอกถึงความเป็นผู้นำของตลาดกาแฟในบ้านเรา และหากมองถึงภาพรวมของอัตราการเจริญเติบโตของตลาดกาแฟในปัจจุบันแล้ว คาดว่าเครื่องทำกาแฟ La Marzocco น่าจะเป็นที่สนใจและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในตลาดกาแฟ ของผู้ที่นิยมใช้เครื่องระบบหัวอัด”
บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มเปิดดำเนินการครั้งแรกในประเทศไทยปี 2535 และได้ขยายสาขามาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่งทุกวันนี้ในฐานะผู้นำธุรกิจกาแฟไทย โดยคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพ ทั้งอราบิก้าที่เพาะปลูกในพื้นที่ภาคเหนือ และเมล็ดกาแฟโรบัสต้าที่เพาะปลูกในพื้นที่ภาคใต้ของประเทศไทย นำมาผ่านกระบวนการคั่วบดและบรรจุหีบห่อที่ได้มาตรฐานจากโรงงานในจังหวัดชลบุรี ปัจจุบันบริษัทบอนกาแฟซึ่งเป็นผู้นำในการให้บริการด้านอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม มีสาขาถึง 15 สาขา ทั้งในประเทศไทย กลุ่มประเทศในแถบอินโดจีน และตะวันออกกลาง