xs
xsm
sm
md
lg

ดร.วิทยา มานะวาณิชเจริญ ปั้นขายตรง “ ไฮบริด มาร์เก็ตติ้ง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ในแวดวงหนังสือชื่อของ “ดร.วิทยา มานะวาณิชเจริญ” เป็นที่รู้จักจากการเขียนหนังสือ “สถาปนาให้สถาพร” และ “เถ้าแก่ แค่เอื้อม” ซึ่งถือเป็นสิ่งที่จุดประกายครั้งสำคัญที่ทำให้ดร.วิทยามีความคิดที่อยากจะเป็นเถ้าแก่จริงๆ ด้วยการลงทุนเปิดธุรกิจขายตรง ภายใต้ชื่อบริษัท โฮลิสติค ไล้ฟ์ จำกัด

“ก่อนที่จะทำธุรกิจของตัวเองเบื้องต้นต้องเลือกสินค้าก่อน ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลพบว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความงามเป็นธุรกิจที่มีการเติบโต บริษัทฯจึงเลือกสินค้าเครื่องสำอางและสกินแคร์เป็นหลักในการทำตลาดช่วงแรก จากนั้นก็มองที่ช่องทางการขาย ซึ่งช่องทางในห้างมีการลงทุนที่สูง ดังนั้นบริษัทฯจึงมองที่ช่องทางการขายตรง เนื่องจากมีการลงทุนต่ำ” เป็นคำกล่าวของดร.วิทยา

การทำตลาดในช่วงแรกบริษัทฯจะเน้นจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและสกินแคร์ ภายใต้ชื่อแบรนด์ “โอโกะ” โดยลักษณะการทำตลาดของบริษัทฯมีการนำระบบขายตรงรูปแบบใหม่มาใช้ในวงการขายตรงเป็นครั้งแรก ภายใต้ชื่อ “ ไฮบริด มาร์เก็ตติ้งหรือแบบผสม” ซึ่งเป็นการผสมผสานข้อดีของขายตรงแบบชั้นเดียว (SLM) และธุรกิจขายตรงหลายชั้น (MLM) มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจขายตรง

กลุ่มเป้าหมายหลักของโฮลิสติคฯ คือ กลุ่มวัยรุ่นอายุ 13-21ปี เนื่องจากมองว่ากลุ่มวัยรุ่นมีกำลังซื้อสูงและใช้เครื่องสำอางบ่อย โดยบริษัทฯเตรียมเจาะกลุ่มนักศึกษาและนักเรียน ด้วยการผ่านทางช่องทางสถาบันการศึกษากว่า 100 แห่งทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามจากการเปิดตัวธุรกิจ 2-3 เดือนที่ผ่านมาพบว่าได้รับการตอบรับดีจากผู้บริโภค โดยสิ้นปีนี้คาดว่ายอดสมาชิกของบริษัทฯจะเพิ่มเป็น 1 หมื่นคน

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจขายตรงสำหรับดร.วิทยาถือว่าเป็นเรื่องใหม่มาก เพราะจากประวัติการทำงานที่ผ่านมาพบว่าดร.วิทยาเคยทำงานให้องค์กรใหญ่อย่างบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เมดิคอล ประเทศไทย จำกัดมานานกว่า 20 ปี จากนั้นหันเหมาสู่ธุรกิจของเล่นด้วยการดำรงตำแหน่งประธานบริหารของบริษัทแปลน ครีเอชั่นส์ จำกัด และมาสู่บริษัท รักลูก แฟมิลี่กรุ๊ป จำกัด จนมาถึงการเป็นเจ้าของธุรกิจเองเป็นครั้งแรก

ดร.วิทยา เผยว่า การทำงานต่างกันมาก การเป็นเจ้าของธุรกิจเองต้องทำงานตลอดเวลา อีกทั้งบริษัทโฮลิสติค ไล้ฟ์ฯก็เพิ่งเริ่มต้นและก็มีขนาดเล็ก ขณะที่จอห์นสันเป็นบริษัทใหญ่ มีความมั่นคง และมีการบริหารงานที่เป็นระบบกว่า ส่วนหลักในการทำงานต้องมีกระบวนการบริหารและจัดการ 5 อย่าง ประกอบด้วย 1.การวางแผน 2.การจัดระบบหรือระเบียบออแกไนซ์ซิ่ง 3.การสั่งการ 4. การควบคุม และ5.การสั่งคน

สำหรับภาพรวมธุรกิจขายตรงในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงทั้งจากค่ายใหญ่จากต่างประเทศ หรือในประเทศ รวมถึงรายใหม่ที่เกิดขึ้นในตลาดมาก โดยยอดตัวเลขการทำธุรกิจขายตรงในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาพบว่ามีตัวเลขสูงถึง 35,000 ล้านบาทและมีคนที่เกี่ยวข้องกับขายตรงกว่า 4 ล้านคน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าแม้สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันจะเป็นเช่นไรแต่ธุรกิจขายตรงยังเดินไปได้ด้วยดี อีกทั้งเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้และอาชีพให้คนที่ต้องการมีรายได้หลักหรือรายได้เสริม

การเริ่มต้นบทบาทใหม่ของ “ดร.วิทยา มานะวาณิชเจริญ” ในฐานะเจ้าของธุรกิจขายตรงจะไปได้สวยหรือไม่ ในท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ชะลอตัวลง รวมถึงสภาพการแข่งขันที่ดุเดือดของตลาดขายตรง นับว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายเถ้าแก่หน้าใหม่ในการพิสูจน์ฝีมือว่าจะเป็นอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น