วิทยุการบินพาสื่อมวลชนร่วมทดสอบระบบนำร่องและการควบคุมจราจรทางอากาศของสนามบินสุวรรณภูมิ มั่นใจวันทดลอง 29 กันยายน ที่นายกรัฐมนตรีจะทำการทดสอบมีความปลอดภัยและมีความพร้อมเต็มร้อย
นายศรีศักดิ์ ว่องส่งสาร รองผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการสุวรรณภูมิ พาสื่อมวลชนร่วมทดสอบและดูความพร้อมของระบบติดตามอากาศยาน ระบบช่วยการเดินอากาศ ซึ่งได้ผ่านการทดลองจากกรมการขนส่งทางอากาศแล้ว รวมถึงได้มีการทดสอบระบบวิทยุการสื่อสารที่ใช้ติดต่อระหว่างพนักงานควบคุมจราจรทางอากาศและนักบิน ซึ่งจากการทดสอบระบบทุกด้านอย่างต่อเนื่อง ถือว่ามีความพร้อมเต็มร้อย โดยเฉพาะการใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยการเดินอากาศในการนำร่องเครื่องบินมายังสนามบิน เพื่อช่วยนำร่อนลงสนามบินให้ได้มุมที่ถูกต้อง และลงกึ่งกลางรันเวย์ โดยในวันที่ 29 กันยายนนี้ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งเครื่องบินเอ 340-600 เที่ยวบินที่ทีจี 8960 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานบนหอบังคับการบิน 9 คน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานห้องควบคุมจราจรทางอากาศ 18 คน เจ้าหน้าที่วิศวกรรมอีกกว่า 40 คน ทำหน้าที่ดูแลภาพรวมทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับการฝึกฝนจนมีความเชี่ยวชาญและได้รับใบอนุญาตควบคุมจราจรทางอากาศแล้ว ดังนั้น การทดสอบในวันที่ 29 กันยายน และการเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์ในช่วงกลางปีหน้าจะมีความปลอดภัยและมีความพร้อมเต็มร้อย
นายศรีศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง B 747-400 เที่ยวบินทีจี 8200 ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ 2 จะบินลงมาจอดที่หลุมจอด E3 ขณะที่เครื่องบินวีไอพีของนายกรัฐมนตรีจะลงจอดที่หลุม E1
สำหรับการลงทุนก่อสร้างหอบังคับการบิน ซึ่งใช้เงินทุนในการก่อสร้างและซื้ออุปกรณ์สูงถึง 3,300 ล้านบาทนั้น นายศรีศักดิ์ กล่าวว่า นับว่าเป็นหอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 132.2 เมตร ซึ่งจะทำให้สามารถมองเห็นสิ่งกีดขวางและทัศนวิสัยในบริเวณทั้งหมดของสนามบิน โดยเฉพาะเมื่อเกิดหมอกควัน ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เมื่อใช้เครื่องมือจากหอบังคับการก็จะสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวทั้งหมดภายในสนามบินเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อการขึ้นลงของสนามบิน และอุปกรณ์การสื่อสารทั้งหมดมีความทันสมัยเป็นพิเศษ ดังนั้น จึงเชื่อมั่นว่าการจัดระบบจราจรจะสามารถรองรับการเปิดให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ กลางปีหน้าได้ เมื่อเที่ยวบินขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 จากปัจจุบันมีเครื่องบินขึ้นลงที่สนามบินดอนเมือง 800 เที่ยวต่อวัน
นายศรีศักดิ์ ว่องส่งสาร รองผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ในฐานะผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการสุวรรณภูมิ พาสื่อมวลชนร่วมทดสอบและดูความพร้อมของระบบติดตามอากาศยาน ระบบช่วยการเดินอากาศ ซึ่งได้ผ่านการทดลองจากกรมการขนส่งทางอากาศแล้ว รวมถึงได้มีการทดสอบระบบวิทยุการสื่อสารที่ใช้ติดต่อระหว่างพนักงานควบคุมจราจรทางอากาศและนักบิน ซึ่งจากการทดสอบระบบทุกด้านอย่างต่อเนื่อง ถือว่ามีความพร้อมเต็มร้อย โดยเฉพาะการใช้อุปกรณ์เครื่องช่วยการเดินอากาศในการนำร่องเครื่องบินมายังสนามบิน เพื่อช่วยนำร่อนลงสนามบินให้ได้มุมที่ถูกต้อง และลงกึ่งกลางรันเวย์ โดยในวันที่ 29 กันยายนนี้ ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งเครื่องบินเอ 340-600 เที่ยวบินที่ทีจี 8960 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานบนหอบังคับการบิน 9 คน เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานห้องควบคุมจราจรทางอากาศ 18 คน เจ้าหน้าที่วิศวกรรมอีกกว่า 40 คน ทำหน้าที่ดูแลภาพรวมทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกคนได้รับการฝึกฝนจนมีความเชี่ยวชาญและได้รับใบอนุญาตควบคุมจราจรทางอากาศแล้ว ดังนั้น การทดสอบในวันที่ 29 กันยายน และการเปิดให้บริการในเชิงพาณิชย์ในช่วงกลางปีหน้าจะมีความปลอดภัยและมีความพร้อมเต็มร้อย
นายศรีศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเครื่องบินโบอิ้ง B 747-400 เที่ยวบินทีจี 8200 ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ 2 จะบินลงมาจอดที่หลุมจอด E3 ขณะที่เครื่องบินวีไอพีของนายกรัฐมนตรีจะลงจอดที่หลุม E1
สำหรับการลงทุนก่อสร้างหอบังคับการบิน ซึ่งใช้เงินทุนในการก่อสร้างและซื้ออุปกรณ์สูงถึง 3,300 ล้านบาทนั้น นายศรีศักดิ์ กล่าวว่า นับว่าเป็นหอบังคับการบินที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 132.2 เมตร ซึ่งจะทำให้สามารถมองเห็นสิ่งกีดขวางและทัศนวิสัยในบริเวณทั้งหมดของสนามบิน โดยเฉพาะเมื่อเกิดหมอกควัน ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เมื่อใช้เครื่องมือจากหอบังคับการก็จะสามารถมองเห็นการเคลื่อนไหวทั้งหมดภายในสนามบินเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่อการขึ้นลงของสนามบิน และอุปกรณ์การสื่อสารทั้งหมดมีความทันสมัยเป็นพิเศษ ดังนั้น จึงเชื่อมั่นว่าการจัดระบบจราจรจะสามารถรองรับการเปิดให้บริการสนามบินสุวรรณภูมิ กลางปีหน้าได้ เมื่อเที่ยวบินขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 10 จากปัจจุบันมีเครื่องบินขึ้นลงที่สนามบินดอนเมือง 800 เที่ยวต่อวัน