สภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีหลายธุรกิจเกิดขึ้นมาก รวมถึงรูปแบบการขายแบบใหม่ต่างทยอยเปิดตัวกันเป็นว่าเล่น ล่าสุดโปรโมชั่น "มันนี่ แบ็ค คืนเงินจริง" ของบริษัท ลูกค้า โปรโมชั่น จำกัด ซึ่งเกิดขึ้นจากแนวคิดของนายศิริรัฐ ศิริพันธุ์ ผู้ซึ่งนั่งแท่นกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหารของบริษัทฯที่ได้นำแนวคิดจากต่างประเทศมาประยุกต์เข้ากับวิถีชีวิตของคนไทย โดยโปรโมชั่นดังกล่าวนี้เพิ่งเปิดตัวไปสดๆร้อนๆเมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา
ก่อนที่จะกล่าวถึงเรื่องระบบมันนี่ แบ็ค ลองย้อนไปดูประวัติของผู้ริเริ่มมันนี่ แบ็คในไทยก่อนว่ามีที่มาอย่างไร และทำไมถึงมีแนวคิดแบบนี้เกิดขึ้นมาได้
ด้วยการศึกษาของนายศิริรัฐที่เรียนที่อังกฤษมานานกว่า 10 ปี ควบคู่กับการเป็นนักกีฬาหลายประเภท ทั้งนักกรีฑา,คริกเก็ต,ฮ็อกกี้, ฟุตบอล และรักบี้ อีกทั้งยังได้รับทุนนักกีฬารักบี้ในการเข้ามหาวิทยาลัยเคนท์ คาร์นเทอร์บูรี่ของอังกฤษ โดยได้ศึกษาทางด้านบริหารจากนั้นได้มาทำงานที่ออเรนจ์ของอังกฤษ ต่อจากนั้นมานั่งแท่นเป็นประธานบริษัทฟาร์ อเวย์ ซิตี้ จำกัด (ประเทศไทย) และประธานกรรมการบริษัทเพียว โฮลดิ้งส์ จำกัด (ประเทศไทย)
ล่าสุดคือการก่อตั้งบริษัท ลูกค้าโปรโมชั่น จำกัดขึ้นมา ภายใต้ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดยบริษัทฯมีวัตถุประสงค์ในการช่วยส่งเสริมการขายให้แก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ รวมถึงผู้บริโภคก็จะได้รับประโยชน์ด้วย โดยระบบนี้มีความมั่นคง เนื่องจากได้รับการประกันคุ้มครองเงินค่าส่งเสริมการขายจากบริษัท นำสินประกันภัย จำกัด (มหาชน) และมีสำนักงานทนายความเสนีย์ ปราโมทย์เป็นผู้ดูแลสัญญา
"แนวคิดของมันนี่ แบ็คเกิดมาจากผมเห็นตัวอย่างที่อเมริกา ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่กว่า 40-50% จะใช้ระบบรีเบส (Rebate)หรือการคืนเงินในระบบมานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งสินค้าที่ใช้รีเบสมีมาก เช่น แปรงสีฟันและของใช้ต่างๆ ประกอบมีความสนใจทางด้านธุรกิจประกันและเมเนจเมนต์จึงได้ศึกษาระบบนี้ที่อังกฤษ จากนั้นจึงลองทำโปรดักส์ขึ้นมาและมีการคุยกับหุ้นส่วนอย่างบริษัทนำสินประกันภัยว่าหลักการนี้สามารถนำมาใช้ที่เมืองไทยได้หรือไม่ จากนั้นผมจึงนำรูปแบบของระบบมาปรับเป็นมันนี่ แบ็คและนำมาใช้ในตลาดไทย" เป็นคำกล่าวของนายศิริรัฐ
บริการมันนี่ แบ็คมีจุดขายตรงที่ลูกค้าที่ซื้อสินค้าที่เข้าร่วมโปรโมชั่น และหากปฏิบัติตามเงื่อนไขของบริษัทฯกำหนดไว้ก็จะได้รับเงินคืนขั้นต่ำ 15% จนถึง 100% ขณะนี้มีผู้ประกอบการกว่า 10 รายที่สนใจเข้าร่วมบริการนี้ อาทิ ที่นอนโลตัส, รถยนต์มือสอง จาก 333 คาร์เซ็นเตอร์ เป็นต้น โดยคาดว่าสิ้นปีจะเพิ่มเป็น 50 ราย
ทั้งนี้โปรโมชั่นดังกล่าวสำหรับในตลาดไทยถือว่าเป็นเรื่องใหม่มาก แต่ตลาดเมืองนอกระบบบริการที่มีรูปแบบเหมือนมันนี่ แบ็คเป็นที่ยอมรับมานานแล้ว ซึ่งคาดว่าไทยคงต้องใช้เวลาระยะหนึ่งในการให้คนไทยได้เรียนรู้และรู้จักบริการมันนี่ แบ็คมากขึ้น
โดยในเบื้องต้นบริษัทฯจึงต้องทุ่มใช้งบทางการตลาดกว่า 5 ล้านบาทในการทำสื่อโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงการจัดกิจกรรม เพื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคคนไทยโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ก่อนที่จะขยายตัวไปสู่ตลาดต่างจังหวัด
ต้องดูกันต่อไปว่าโปรโมชั่นมันนี่ แบ็คภายใต้การบริหารงานของ "ศิริรัฐ ศิริพันธุ์" ผู้บริหารนักกีฬาจะไปรุ่งหรือรอดหรือจะเป็นที่ยอมรับในตลาดไทยได้หรือไม่ อันนี้เป็นหน้าที่ของผู้บริโภคเป็นผู้ตัดสินใจ