เศรษฐีน้ำมันเจ้าของสายการบินกัลฟ์แอร์ จับวิกฤตน้ำมันแพงเป็นโอกาส ลุยธุรกิจแอร์ไลน์ต่อเนื่อง อัด 400 ล้าน ปรับบริการและที่นั่งใหม่ พร้อมเปิดเส้นทางบิน โจฮันเนสเบิร์ก - บาห์เรน - กรุงเทพ และ ดับลิน - บาห์เรน - กรุงเทพ หลังสบช่องททท.เตรียมดันตะวันออกกลางเป็นตลาดใหม่ที่จะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยว เหตุจำนวนนักท่องเที่ยวต่อปีโตต่อเนื่องเฉลี่ย 40% รองประธานฝ่ายการตลาดเผย เส้นทางใหม่ปีแรกขอโกยผู้โดยสาร 2 เส้นทางรวม 1.4 หมื่นคน
นายแดนนี่ บาเรนเจอร์ รองประธานฝ่ายการตลาดและการขาย สายการบินกัลฟ์แอร์ โดยผู้เป็นเจ้าของคือ ราชอาณาจักรบาห์เรน รัฐสุลต่านโอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตน์ เปิดเผยว่า จากการเติบโตกว่า 40 % ของจำนวนนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในไทย ประกอบกับ รัฐบาลไทยโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) วางเป้าหมายให้ตะวันออกกลางเป็นตลาดใหม่ที่น่าสนใจ และจะส่งเสริมให้มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงได้ตัดสินใจเปิดเส้นทางบิน กรุงเทพ-โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ เริ่มเที่ยวบินแรกในวันที่ 2 ธ.ค. นี้ แต่จะเริ่มเปิดจองตั๋วพร้อมรับโปรโมชั่นพิเศษตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป
ซึ่งเส้นทางดังกล่าวจะบินระหว่าง โจฮันเนสเบิร์ก - บาห์เรน - กรุงเทพ จำนวน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ซึ่งจะสามารถรับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวจากแอฟริกาใต้ และตะวันออกกลาง เข้าไทยได้จำนวนมาก ตั้งเป้าปีแรกที่เปิดดำเนินการ จะขนส่งผู้โดยสารมาไทยไม่น้อยกว่า 6.5 พันคน มีอัตราผู้โดยสารต่อเที่ยวไม่น้อยกว่า 75% และเพิ่มเป็น 85% ในปีต่อไป
นอกจากนั้น ยังมีแผนเปิดบินเส้นทางกรุงเทพ - ดับลิน(ประเทศไอร์แลนด์) โดยบินระหว่างเมือง ดับลิน - บาห์เรน - กรุงเทพ สัปดาห์ละ 3 เที่ยวเช่นกัน คาดว่าจะเปิดให้บริการเที่ยวแรกภายในเดือนธ.ค.นี้ ตั้งเป้ารับผู้โดยสารและนักท่องเที่ยวเข้าไทยไม่น้อยกว่า 7.5 พันคนในปีแรก
นายแดนนี่ กล่าวว่า ปัญหาราคาน้ำมันที่แพงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการบินต่อเที่ยวสูงขึ้นนั้น ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับสายการบินกัลฟ์แอร์ ดังนั้นบริษัทมีนโยบายชัดเจนที่จะลงทุนต่อเนื่อง เน้นปรับปรุงเรื่องการบริการ เพื่อให้ลูกค้าประทับใจ แล้วเกิดการเลือกใช้บริการซ้ำ ตรงนี้จะช่วยให้ธุรกิจของเรามีการเติบโต และสามารถมีผลกำไรจากการดำเนินงานได้ โดยบริษัทใช้งบ 400 ล้านบาท ในการปรับปรุงที่นั่งในชั้น 1 และชั้นธุรกิจ เฉพาะในเส้นทางที่บินมาลงที่ไทย ซึ่งใช้เครื่องแอร์บัส 340
ปัจจุบัน กัลฟ์แอร์ ที่ฝูงบิน 45 ลำ บิน 44 เส้นทาง ใน 30 ประเทศทั่วโลก สำหรับไทย เปิดกิจการให้บริการมาแล้ว 25 ปี ปัจจุบันบินอยู่ 22 เที่ยวต่อสัปดาห์ ในเส้นทางกรุงเทพ - ฮ่องกง และกรุงเทพ - บาห์เรน บินทุกวันเส้นทางละ 7 เที่ยว ต่อสัปดาห์ และเส้นทางกรุงเทพ - มัสกัส และกรุงเทพ - อาบูดาบี อีก เส้นทางละ 2 เที่ยวต่อสัปดาห์ โดยในปีที่ผ่านมาได้ส่งผู้โดยสารเข้าไทย 114,000 คน มีรายได้ 800 ล้านบาท โดยปีนี้ตั้งเป้าส่งผู้โดยสารมาไทยได้ไม่น้อยกว่า 125,000 คน มีรายได้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท หรือเติบโต 10%
“เรามีแผนที่จะทำงานร่วมกับททท.และรัฐบาลไทย ในการที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยว ทำกิจกรรมเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันออกกลางมาไทยเพิ่มขึ้น โดยมุ่งหวังให้กรุงเทพมหานครเป็นศูนย์กลางธุรกิจและท่องเที่ยวของชาวตะวันออกกลาง สอดรับแผนที่จะผลักดันในซอยนานา,สุขุมวิท เป็นแหล่งท่องเที่ยวและชอปปิ้งของชาวตะวันออกกลาง ในโครงการ อาราเบียน สตรีท”
แผนธุรกิจในอนาคต สำหรับภูมิภาคเอเชีย บริษัทเตรียมศึกษาที่จะเพิ่มเส้นทางบินในจีน เวียดนาม กัมพูชา และพม่า โดยมุ่งหวังมีเส้นทางมีให้ครอบคลุม 3 ตลาด คือ แอฟริกาใต้ เอเชียใต้ และ ตะวันออกกลาง สำหรับค่าเซอร์ชาร์จน้ำมัน เมื่อเทียบกับการบินไทย ในเส้นทางเดียวกันคือ กรุงเทพ - บาห์เรน ถูกกว่า 7 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ โดยกัลฟ์แอร์เก็บ 18 เหรียญดอลล่าร์ต่อเที่ยว การบินไทยเก็บที่ 25 เหรียญดอลล่าร์ ต่อเที่ยว ส่วนเส้นทางอื่นๆ ก็เช่นกันโดยเฉลี่ยกัลฟ์แอร์จะเรียกเก็บในอัตราที่ถูกกว่าคู่แข่ง
