หลุยส์วิตตอง คาดการณ์ยอดขายปีนี้อาจจะลดลงจากปัจจัยลบหลายอย่าง เผยช่วงต้นปียอดขายลดลงไปแล้ว เร่งรีดนเวตร้านสาขาดิเอ็มโพเรียม ยกระดับสู่ภาพลักษณ์อินเตอร์ปีหน้าลุยต่ออีก 2 สาขาที่เหลือ
นายเทียรี่ เดอ ลองเจอวิลล์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท หลุยส์ วิตตอง ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจในไทยที่มีปัจจัยลบทั้งราคาน้ำมัน , คลื่นยักษ์สึนามิ และเหตุการณ์ทางภาคใต้ส่งผลกระทบต่อทุกแบรนด์สินค้าในท้องตลาด ในส่วนของบริษัทฯเองก็ได้รับผลกระทบบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งในช่วงต้นปียอดขายผลิตภัณฑ์ของหลุยส์ฯลดลงเล็กน้อย และกลับมาดีขึ้นในช่วงกลางปี โดยเฉพาะในเดือน ก.ค. –ส. ค. 48 แต่โดยรวมทั้งปีคาดว่ายอดรายได้จะโตเป็นตัวเลข 2 หลักและยอดอาจจะลดลงจากปีที่แล้ว
“สิ่งที่น่าห่วงที่สุด คือ การดึงนักท่องเที่ยวให้กลับมาท่องเที่ยวในประเทศไทยให้เร็วที่สุด เพราะว่านักท่องเที่ยวต่างชาติถือเป็นลูกค้าหลักของหลุยส์ วิตตอง โดยคิดเป็นสัดส่วน 50% และคนไทย 50% ซึ่งตรงนี้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐที่ต้องสร้างความมั่นใจให้กลับมาโดยเร็ว”
ล่าสุดบริษัทฯจึงได้มีการปรับปรุงร้านที่ ดิ เอ็มโพเรียมใหม่ให้ดูทันสมัยขึ้น ทั้งในส่วนการขยายพื้นที่ร้านให้ใหญ่ขึ้น โดยปัจจุบันมีพื้นที่ทั้งหมด 485 ตารางเมตร รวมถึงบรรยากาศในร้านที่มีการนำเข้าเฟอร์นิเจอร์จากต่างประเทศเข้ามาตกแต่ง เนื่องจากต้องการให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการรู้สึกได้ถึงมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก และการจัดวางสินค้าที่มีโชว์กว่า 200 รายการ ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถเห็นสินค้าและตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ในปีหน้าบริษัทฯมีแผนรีโนเวตร้านอีก 2 แห่งทั้งที่ สาขาที่รร.โอเรียนเต็ล และเกษรพลาซ่า เพื่อให้ดูทันสมัยมากขึ้น ซึ่งในทุก 4-5 ปีบริษัทฯก็จะมีการรีโนเวตร้านใหม่อยู่แล้วเป็นประจำ ปัจจุบันร้านหลุยส์ วิตตองในไทยมีทั้งหมด 3 แห่ง คือ ที่โรงแรมโอเรียนเต็ล, ดิ เอ็มโพเรียม และเกษรพลาซ่า สำหรับปีนี้เป็นปีที่ 20 ที่หลุยส์ วิตตองเปิดดำเนินการในไทย
ส่วนแนวโน้มการแข่งขันของตลาดในช่วงท้ายปีมองว่าการแข่งขันยังเหมือนเดิม ในส่วนของแบรนด์ชั้นนำต่างทยอยเข้ามาในไทยเกือบทุกแบรนด์แล้ว ซึ่งการที่มีแบรนด์มากก็ทำให้การแข่งขันมากตาม ส่งผลให้ตลาดโตขึ้นตามไปด้วย โดยในส่วนที่จะสร้างสีสันให้กับตลาดน่าจะเป็นโครงการใหม่อย่างสยามพารากอนที่กำลังจะเปิดตัวขึ้นในช่วงปลายปีนี้