ยู สตาร์ยกเครื่องครั้งใหญ่ในรอบ 3 ปี ปรับแผนการตลาดและภาพลักษณ์ใหม่ เจาะกลุ่มหญิงวัยทำงานแทนวัยรุ่น พร้อมขยายช่องทางใหม่ ผุดยู สตาร์ บูติก และเตรียมเปิดเว็บไซต์สิ้นปีนี้ หวังสิ้นปีจำนวนสมาชิกเพิ่ม 40% ส่วนยอดรายได้ขอเท่าปีที่แล้ว 600 ล้านบาท แย้มปีหน้าเตรียมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่สอดคล้องการปรับภาพลักษณ์ใหม่
นางเซายู ดัลกลิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยู สตาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยหลังจากเข้ามารับตำแหน่ง 4 เดือนว่า แผนการดำเนินธุรกิจของยู สตาร์ต่อจากนี้ไปยังคงเน้นการขยายสมาชิกอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯได้ปรับแผนการทำตลาดใหม่ รวมถึงการปรับโพสิชันนิงใหม่สู่ความเป็นเวิร์คกิ้ง วูแมนหรือผู้หญิงวัยทำงานอายุ 25 – 50 ปีมากขึ้น แทนภาพลักษณ์เดิมที่เน้นกลุ่มวัยรุ่น โดยจะปรับสัดส่วนสินค้ากลุ่มวัยรุ่นจากเดิม 25% ให้ลดลงเหลือ 10% เนื่องจากผู้หญิงวัยทำงานมีกำลังซื้อที่ดีและมีแบรนด์ ลอยัลตี้สูงกว่าโดยสินค้าที่จะออกใหม่เพื่อเจาะกลุ่มวัยทำงานจะมีราคาสูงขึ้นกว่าสินค้าปกติเล็กน้อย
ประกอบกับบริษัทฯได้เพิ่มช่องทางใหม่ในการกระจายสินค้าให้แก่สมาชิกที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ ด้วยการเปิดตัวรูปแบบร้านค้า “ยู สตาร์ บูติก” ในหลายรูปแบบ อาทิ แบบคอนเนอร์ บูติก, คีออส, บูติก เอ และบี ภายใต้งบลงทุนประมาณ 5 หมื่น - 2 แสนบาท และคุ้มทุนในระยะ 6 เดือน ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 40-50 แห่ง คาดว่าสิ้นปีจะมีทั้งหมด 200 แห่ง ส่วนจำนวนสมาชิกของยู สตาร์ปัจจุบันมีกว่า 5หมื่นราย สิ้นปีคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 40%
“ยอดขายจากช่องทางบูติกคิดเป็นสัดส่วน 20% จากรายได้ทั้งหมด โดยช่องทางบูติกนี้จะช่วยให้ลูกค้ามาหาเรามากขึ้น รวมถึงเรายังได้พัฒนาช่องทางใหม่ทางเว็บไซต์ด้วย คาดว่าช่วงสิ้นปีจะเริ่มเปิดดำเนินการ จากนั้นจึงขยายไปสู่ช่องทางโทรศัพท์”
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ยู สตาร์ปัจจุบันมีกว่า 900 รายการ โดยสินค้ามีครอบคลุมทั้งสกินแคร์, เมคอัพ และกลุ่มนอน-คอสเมติกส์ ซึ่งมีพันธมิตรกว่า 100 ราย เช่น ข้าวบ้านไร่อุดมสุข เป็นต้น ซึ่งในส่วนของราคาของยู สตาร์มีตั้งแต่ 10-300 บาท ล่าสุดบริษัทฯเปิดตัวสินค้าใหม่ เช่น ยู สตาร์ สกิน ดีท๊อกซ์ เฟเชียล เซรั่ม และยู สตาร์ คัลเลอร์สตูดิโอ
นางเซายูกล่าวด้วยว่าปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจขายตรงชั้นเดียวจะแข่งกันที่การหาสมาชิกเป็นหลัก ในส่วนพรีเซ็นเตอร์ก็เป็นส่วนเสริมที่จะช่วยในการหาสมาชิก ซึ่งในปีหน้าทางยู สตาร์จะมีการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับภาพลักษณ์ไปสู่ความเป็นเวิร์คกิ้ง วูแมนหรือผู้หญิงวัยทำงาน
ในภาวะเศรษฐกิจที่ราคาน้ำมันแพง ค่าขนส่ง และต้นทุนวัตถุดิบ เช่น เม็ดพลาสติกปรับตัวสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อบริษัทไม่มาก โดยในส่วนยอดซื้อต่อบิลของลูกค้าหรือสมาชิกไม่ได้ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท
สำหรับผลประกอบการของยู สตาร์สิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดขาย 600 ล้านบาท เท่ากับรายได้ปีที่แล้ว ซึ่งยอดรายได้ 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯมียอดขาย 300 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากกลุ่มสกินแคร์ 30% ปีนี้จะเพิ่มสัดส่วนกลุ่มนี้เป็น 50% รองมาเป็นเมคอัพและเพอร์ซัลแนลแคร์ โดยยอดขายปีหน้าบริษัทฯคาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 30%
นางเซายู ดัลกลิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยู สตาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยหลังจากเข้ามารับตำแหน่ง 4 เดือนว่า แผนการดำเนินธุรกิจของยู สตาร์ต่อจากนี้ไปยังคงเน้นการขยายสมาชิกอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯได้ปรับแผนการทำตลาดใหม่ รวมถึงการปรับโพสิชันนิงใหม่สู่ความเป็นเวิร์คกิ้ง วูแมนหรือผู้หญิงวัยทำงานอายุ 25 – 50 ปีมากขึ้น แทนภาพลักษณ์เดิมที่เน้นกลุ่มวัยรุ่น โดยจะปรับสัดส่วนสินค้ากลุ่มวัยรุ่นจากเดิม 25% ให้ลดลงเหลือ 10% เนื่องจากผู้หญิงวัยทำงานมีกำลังซื้อที่ดีและมีแบรนด์ ลอยัลตี้สูงกว่าโดยสินค้าที่จะออกใหม่เพื่อเจาะกลุ่มวัยทำงานจะมีราคาสูงขึ้นกว่าสินค้าปกติเล็กน้อย
ประกอบกับบริษัทฯได้เพิ่มช่องทางใหม่ในการกระจายสินค้าให้แก่สมาชิกที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ ด้วยการเปิดตัวรูปแบบร้านค้า “ยู สตาร์ บูติก” ในหลายรูปแบบ อาทิ แบบคอนเนอร์ บูติก, คีออส, บูติก เอ และบี ภายใต้งบลงทุนประมาณ 5 หมื่น - 2 แสนบาท และคุ้มทุนในระยะ 6 เดือน ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 40-50 แห่ง คาดว่าสิ้นปีจะมีทั้งหมด 200 แห่ง ส่วนจำนวนสมาชิกของยู สตาร์ปัจจุบันมีกว่า 5หมื่นราย สิ้นปีคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 40%
“ยอดขายจากช่องทางบูติกคิดเป็นสัดส่วน 20% จากรายได้ทั้งหมด โดยช่องทางบูติกนี้จะช่วยให้ลูกค้ามาหาเรามากขึ้น รวมถึงเรายังได้พัฒนาช่องทางใหม่ทางเว็บไซต์ด้วย คาดว่าช่วงสิ้นปีจะเริ่มเปิดดำเนินการ จากนั้นจึงขยายไปสู่ช่องทางโทรศัพท์”
ในส่วนของผลิตภัณฑ์ยู สตาร์ปัจจุบันมีกว่า 900 รายการ โดยสินค้ามีครอบคลุมทั้งสกินแคร์, เมคอัพ และกลุ่มนอน-คอสเมติกส์ ซึ่งมีพันธมิตรกว่า 100 ราย เช่น ข้าวบ้านไร่อุดมสุข เป็นต้น ซึ่งในส่วนของราคาของยู สตาร์มีตั้งแต่ 10-300 บาท ล่าสุดบริษัทฯเปิดตัวสินค้าใหม่ เช่น ยู สตาร์ สกิน ดีท๊อกซ์ เฟเชียล เซรั่ม และยู สตาร์ คัลเลอร์สตูดิโอ
นางเซายูกล่าวด้วยว่าปัจจุบันการแข่งขันของธุรกิจขายตรงชั้นเดียวจะแข่งกันที่การหาสมาชิกเป็นหลัก ในส่วนพรีเซ็นเตอร์ก็เป็นส่วนเสริมที่จะช่วยในการหาสมาชิก ซึ่งในปีหน้าทางยู สตาร์จะมีการเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับภาพลักษณ์ไปสู่ความเป็นเวิร์คกิ้ง วูแมนหรือผู้หญิงวัยทำงาน
ในภาวะเศรษฐกิจที่ราคาน้ำมันแพง ค่าขนส่ง และต้นทุนวัตถุดิบ เช่น เม็ดพลาสติกปรับตัวสูงขึ้นส่งผลกระทบต่อบริษัทไม่มาก โดยในส่วนยอดซื้อต่อบิลของลูกค้าหรือสมาชิกไม่ได้ลดลง แต่กลับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยอยู่ที่ประมาณ 1,500 บาท
สำหรับผลประกอบการของยู สตาร์สิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดขาย 600 ล้านบาท เท่ากับรายได้ปีที่แล้ว ซึ่งยอดรายได้ 6 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯมียอดขาย 300 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากกลุ่มสกินแคร์ 30% ปีนี้จะเพิ่มสัดส่วนกลุ่มนี้เป็น 50% รองมาเป็นเมคอัพและเพอร์ซัลแนลแคร์ โดยยอดขายปีหน้าบริษัทฯคาดว่าจะเพิ่มขึ้นกว่า 30%