xs
xsm
sm
md
lg

รมช.คมนาคมยันค่าโดยสารเรือจะไม่ขึ้นอีกปีนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รมช.คมนาคม ยืนยันไม่ให้ผู้ประกอบการเรือโดยสารปรับค่าโดยสารอีกในปีนี้ แต่หากปีหน้า ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจนแบกรับภาระไม่ได้ ก็สามารถเสนอขอปรับค่าโดยสารต่อกระทรวงคมนาคมได้ พร้อมเร่งพัฒนาระบบความปลอดภัย และเพิ่มความสะดวกเพื่อให้เป็นประชาชนหันมาใช้บริการมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เดินทางตรวจความปลอดภัยในการเดินเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยลงพื้นที่ตรวจความปลอดภัยจราจรทางเรือ การขึ้น-ลงท่าเรือ ความปลอดภัยของโป๊ะเทียบเรือ รวมถึงการปรับปรุงที่พักผู้โดยสารพร้อมหลังคา ตั้งแต่บริเวณท่าเรือนนทบุรี จนถึงท่าเรือมหาราช ซึ่งนายภูมิธรรม ยืนยันว่า กระทรวงคมนาคมจะไม่อนุญาตให้ผู้ประกอบการเดินเรือปรับขึ้นค่าโดยสารอีกจนถึงสิ้นปีนี้ เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน แม้จะเข้าใจดีว่าผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระต้นทุนด้านน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่กระทรวงคมนาคมจะจับตาดูสถานการณ์ราคาน้ำมันไปจนถึงสิ้นปี หากผู้ประกอบการไม่สามารถแบกรับภาระได้อีกก็สามารถเข้ามาเจรจาขอความช่วยเหลือจากภาครัฐได้

นายภูมิธรรม กล่าวว่า การเดินทางด้วยเรือ เป็นหนึ่งในทางเลือกการเดินทางของประชาชน ซึ่งรัฐบาลกำลังเร่งปรับปรุงพัฒนาระบบการเดินเรือให้มีความปลอดภัยและสะดวกสบาย ครอบคลุมทุกเส้นทางเพื่อให้ประชาชนหันมาโดยสารเรือกันมากขึ้น ซึ่งยังมีท่าเทียบเรือหลายแห่งที่ต้องมีการปรับปรุงพัฒนาเพื่อให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยและต้องติดตั้งหลังคาเพื่อกันฝน และป้องกันอุบัติเหตุจากการลื่นไถลของผู้โดยสารระหว่างการขึ้น-ลงเรือ เช่น ท่าเรือตลอดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะท่าเรือพระราม 7 ท่าเรือสะพานพระนั่งเกล้า ท่าเรือสะพานผ่านฟ้าลีลาศ-ท่าเรือวัดศรีบุญเรือง ท่าเรือพรานนก ท่าเรือนนทบุรี ท่าเรือสาทร ท่าเรือเทเวศร์ รัฐบาลมีแผนที่จะประสานกับกรมทางหลวงชนบท ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่หลังท่าเรือสะพานพระราม 7 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอใช้พื้นที่ในการขยายท่าเรือดังกล่าว

นอกจากนี้ กระทรวงคมนาคมยังมีแผนที่เร่งขยายเส้นทางการเดินเรือเพิ่มขึ้นอีก 1 เส้นทาง คือ เส้นทางท่าเรือสาทร-คลองลัดโพธิ์-ท่าเรือสมุทรปราการ (พระประแดง) ซึ่งปัจจุบันกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีได้ประเมินความต้องการของผู้โดยสารไว้ที่ 40,000 คนต่อวัน เมื่อเส้นทางเดินเรือดังกล่าวเริ่มเปิดให้บริการได้ในต้นเดือนมีนาคมปีหน้า คาดว่าในช่วงแรกจะมีปริมาณผู้โดยสารถึงวันละ 20,000 คน โดยจะมีการก่อสร้างท่าเรือและที่พักผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอีก 4 แห่ง ประกอบด้วย ท่าเรือคลองลัดโพธิ์-ท่าเรือพระประแดง-ท่าเรือสุขสวัสดิ์ และท่าเรือสมุทรปราการ ใช้วงเงินลงทุนทั้งสิ้น 18 ล้านบาท

“สำหรับท่าเรือสาทรที่เป็นจุดเชื่อมโยงกับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้น จะถูกพัฒนาให้เป็นจุดศูนย์กลางคมนาคมทางน้ำและทางบก ซึ่งจะมีการเชื่อมต่อระบบบัตรโดยสารให้สามารถใช้ร่วมกันกับบัตรโดยสารรถไฟฟ้าและบัตรโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ได้ในอนาคต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ และรอฟังผลสรุปการจัดทำบัตรไทยแลนด์พาสต์ที่เสร็จสิ้นไปแล้วว่า จะนำมาปรับใช้กับการจราจรในกรุงเทพฯ ได้หรือไม่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

ทั้งนี้ ปัจจุบันมีประชาชนที่เดินทางด้วยเรือข้ามฟาก-เรือด่วน-เรือในคลอง ทั้งระบบรวมกว่า 300,000 คนต่อวัน โดยมีท่าเรือรองรับทั้งสิ้น 52 ท่า เปิดใช้ 38 ท่า และตั้งเป้าให้ปี 2550 มีผู้โดยสารทางเรือเพิ่มขึ้นเป็น 500,000 คนต่อวัน
กำลังโหลดความคิดเห็น