เอ็น.ซี.ซี.ฯ เล็งก้าวสู่เวทีผู้บริหารงานเอ็กซิบิชั่นระดับอินเตอร์ นำร่องอินเดีย-เวียดนามปีหน้า ตั้งเป้า 5 ปี ผงาดติดอันดับ 1 ใน 5 เซาต์อีสต์เอเชีย ตบเท้าเตรียมนำโชว์ในต่างประเทศ-เพิ่มศักยภาพงานภายในประเทศสร้างชื่อเสียง ล่าสุดจัดงานไทยแลนด์ เบทส์บายส์ 2005 ปิดท้ายปลายปี เดินกลยุทธ์อัดกิจกรรมวันธรรมดา ปั๊มเงินสะพัดเข้าเป้า 250 ล้านบาท
นางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้วางเป้าหมายไว้ว่าภายใน 5 ปีจากนี้ จะต้องติดอันดับ 1ใน 5 ในเซาต์อีสต์เอเชียในฐานะเป็นผู้บริหารงานเอ็กซิบิชั่น โดยรูปแบบของการทำตลาดในต่างประเทศ บริษัทฯจะเข้าไปร่วมกับผู้ประกอบการในท้องถิ่นในประเทศนั้น เน้นการออกบูธชาวต่างประเทศ 90% ส่วนคนไทย 10% นำร่องในปีหน้าเป็นปีแรกด้วยการจัดงานมหกรรมปศุสัตว์ที่อินเดีย และเวียดนาม
“กลยุทธ์หลักที่จะผลักดันให้ เอ็น.ซี.ซี.รุกตลาดต่างประเทศ คือ การเพิ่มโชว์ในตลาดต่างประเทศและเพิ่มศักยภาพการจัดงานภายในประเทศ เพื่อผลักดันสัดส่วนรายได้ระหว่างการบริหารงานต่างประเทศเพิ่มจาก 20% เป็น 50% ส่วนภายในประเทศจาก 80% เป็น 50% เป็นไปตามเป้าหมายให้ได้ภายใน 5 ปีนี้”
สำหรับการบริหารงานภายในประเทศในปีหน้า มีทั้งหมด 9 งาน โดยยังไม่รวมงานประมูลที่จะมีขึ้น แบ่งเป็นของบริษัทฯเอง 8 งาน และบริหารให้หน่วยงานภาครัฐ 1 งาน จำนวนงานใกล้เคียงกับปี 2548 และปี 2547 ซึ่งบริษัทฯมีบริหารงาน 10-12 งาน แบ่งเป็นงานของบริษัทฯเอง 8 งาน สำหรับผลการดำเนินในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าเติบโต 30% จากในปีที่ผ่านมาเติบโต 20%
ล่าสุด จัดงาน “ไทยแลนด์ เบทส์บายส์ 2005” หรืองานแสดงสินค้าของขวัญ วันที่ 2-11ธันวาคมนี้ ปิดท้ายของปีนี้ ซึ่งภายในงานมีผู้เข้าร่วมงาน 700 คูหา จากในปีที่ผ่านมา 650 คูหา โดยขณะนี้มีผู้ออกบูธยืนยันเข้าร่วมงานแล้ว 70% สำหรับปีนี้บริษัทฯจะเน้นจัดกิจกรรมในวันธรรมดาเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นให้คนมาในวันธรรมดามากขึ้น เนื่องจากพบว่าในปีที่ผ่านมา คนมาในวันธรรมดา 30% วันหยุด 70% ขณะเดียวกันก็เพื่อกระตุ้นให้เงินสะพัดภายในงานโตตามเป้าที่วางไว้ คือ 20% หรือ 250 ล้านบาท จากในปีที่ผ่านมาโต 25% หรือ 200 ล้านบาท
“ปีนี้คนอาจจะออกมาจับจ่ายใช้สอยน้อยลงแน่ ผลพวงจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้คนระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย เดิมทีปีนี้เราตั้งเป้าว่าเงินสะพัดภายในงานจะโตได้ถึง 25% อย่างไรก็ตามผลจากการขยายบูทเพิ่มขึ้น จะผลักดันให้คนมางานเพิ่มจาก 1.5 แสนคนในปีที่ผ่านมา เป็น 2 แสนคนในปีนี้ โดยมีอัตราการใช้เงินเฉลี่ย 500 บาทต่อคน” นางลัดดากล่าว
นางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ็น.ซี.ซี.เอ็กซิบิชั่น ออกาไนเซอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯได้วางเป้าหมายไว้ว่าภายใน 5 ปีจากนี้ จะต้องติดอันดับ 1ใน 5 ในเซาต์อีสต์เอเชียในฐานะเป็นผู้บริหารงานเอ็กซิบิชั่น โดยรูปแบบของการทำตลาดในต่างประเทศ บริษัทฯจะเข้าไปร่วมกับผู้ประกอบการในท้องถิ่นในประเทศนั้น เน้นการออกบูธชาวต่างประเทศ 90% ส่วนคนไทย 10% นำร่องในปีหน้าเป็นปีแรกด้วยการจัดงานมหกรรมปศุสัตว์ที่อินเดีย และเวียดนาม
“กลยุทธ์หลักที่จะผลักดันให้ เอ็น.ซี.ซี.รุกตลาดต่างประเทศ คือ การเพิ่มโชว์ในตลาดต่างประเทศและเพิ่มศักยภาพการจัดงานภายในประเทศ เพื่อผลักดันสัดส่วนรายได้ระหว่างการบริหารงานต่างประเทศเพิ่มจาก 20% เป็น 50% ส่วนภายในประเทศจาก 80% เป็น 50% เป็นไปตามเป้าหมายให้ได้ภายใน 5 ปีนี้”
สำหรับการบริหารงานภายในประเทศในปีหน้า มีทั้งหมด 9 งาน โดยยังไม่รวมงานประมูลที่จะมีขึ้น แบ่งเป็นของบริษัทฯเอง 8 งาน และบริหารให้หน่วยงานภาครัฐ 1 งาน จำนวนงานใกล้เคียงกับปี 2548 และปี 2547 ซึ่งบริษัทฯมีบริหารงาน 10-12 งาน แบ่งเป็นงานของบริษัทฯเอง 8 งาน สำหรับผลการดำเนินในปีนี้บริษัทฯตั้งเป้าเติบโต 30% จากในปีที่ผ่านมาเติบโต 20%
ล่าสุด จัดงาน “ไทยแลนด์ เบทส์บายส์ 2005” หรืองานแสดงสินค้าของขวัญ วันที่ 2-11ธันวาคมนี้ ปิดท้ายของปีนี้ ซึ่งภายในงานมีผู้เข้าร่วมงาน 700 คูหา จากในปีที่ผ่านมา 650 คูหา โดยขณะนี้มีผู้ออกบูธยืนยันเข้าร่วมงานแล้ว 70% สำหรับปีนี้บริษัทฯจะเน้นจัดกิจกรรมในวันธรรมดาเพิ่มขึ้น เพื่อกระตุ้นให้คนมาในวันธรรมดามากขึ้น เนื่องจากพบว่าในปีที่ผ่านมา คนมาในวันธรรมดา 30% วันหยุด 70% ขณะเดียวกันก็เพื่อกระตุ้นให้เงินสะพัดภายในงานโตตามเป้าที่วางไว้ คือ 20% หรือ 250 ล้านบาท จากในปีที่ผ่านมาโต 25% หรือ 200 ล้านบาท
“ปีนี้คนอาจจะออกมาจับจ่ายใช้สอยน้อยลงแน่ ผลพวงจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้คนระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย เดิมทีปีนี้เราตั้งเป้าว่าเงินสะพัดภายในงานจะโตได้ถึง 25% อย่างไรก็ตามผลจากการขยายบูทเพิ่มขึ้น จะผลักดันให้คนมางานเพิ่มจาก 1.5 แสนคนในปีที่ผ่านมา เป็น 2 แสนคนในปีนี้ โดยมีอัตราการใช้เงินเฉลี่ย 500 บาทต่อคน” นางลัดดากล่าว