"วิทยุการบิน" ประกาศความพร้อมรับมือเที่ยวบินรอบปฐมฤกษ์สู่สุวรรณภูมิ นายกรัฐมนตรีนั่งแอร์บัส 340-600 ทัพผู้สื่อข่าวนั่งโบอิ้ง 747 คาดลงที่สุวรรณภูมิเวลา 09.39 น. วันที่ 29 ก.ย.2548 ระบุยิ่งเปิดใช้สุวรรณภูมิเร็วยิ่งทำให้การบริหารจราจรทางอากาศมีประสิทธิภาพ
นายปรีติ เหตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหารร่วมกันแถลงข่าวแสดงความพร้อมที่จะเปิดให้บริการเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ในวันที่ 29 กันยายน 2548 รวมถึงการเปิดให้บริการใช้งานจริงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเตรียมความพร้อมทุกด้านทั้งอุปกรณ์ บุคลากร อาคาร สถานที่
ร.ต.ปรีชา แพรดำ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการจราจรทางอากาศ (สนามบินดอนเมือง/สนามบินสุวรรณภูมิ) กล่าวว่า ในเที่ยวบินปฐมฤกษ์นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะจะเดินทางด้วยเครื่องแอร์บัส 340-600 จากสนามบินดอนเมือง ติดตามด้วยเครื่องโบอิ้ง 747 ซึ่งจะมีผู้สื่อข่าวร่วมเดินทางสังเกตการณ์ โดยอาจจะบินดูบริเวณโดยรอบประมาณ 20 นาที หรืออาจบินทางไปเหนือถึงพิษณุโลกหากต้องใช้เวลาบินประมาณ 30 นาที จากนั้นลำแรกจะลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 09.39 น. และแท็กซี่ไปจอดที่จุด E1 ส่วนลำที่ 2 จะไปจอดที่จุด E3 ส่วนการเตรียมความพร้อมในวันดังกล่าววิทยุการบินได้เตรียมพนักงานประจำหอบังคับการบินประมาณ 10 คน ห้องควบคุมด้วยเรดาร์ 20 คน ช่างและวิศวกร จำนวน 30 คน
นายปรีติ กล่าวว่า ยิ่งเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิยิ่งจะช่วยให้การจราจรทางอากาศสามารถจัดการได้ดียิ่งขึ้น เพราะถ้าเป็นเครื่องบินพาณิชย์ส่วนใหญ่จะลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนเครื่องเช่าเหมาลำ เครื่องบินเล็ก เครื่องบินทหารจะยังใช้สนามบินดอนเมือง ทั้งนี้ ปัจจุบันสนามบินดอนเมืองมีเครื่องขึ้นลง 800 เที่ยวบินต่อวัน กว่า 300,000 เที่ยวต่อปี ทำให้การจราจรคับคั่งมากเป็นเหตุให้มีความล่าช้าและสูญเสียน้ำมัน หลังเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิจะช่วยลดความสูญเสียได้มาก
สำหรับปัญหาวิทยุชุมชนที่ส่งผลกระทบต่อการบินนั้น ยอมรับว่า ขณะนี้ที่สนามบินดอนเมืองยังได้รับผลกระทบ แต่ที่สนามบินสุวรรณภูมิยังไม่พบสัญญาณรบกวน สาเหตุเพราะวิทยุชุมชนมีการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่ผ่านมาได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ซึ่งคาดว่ากำลังดำเนินการให้เกิดความเรียบร้อยอยู่แล้ว และทราบว่ามีการจับกุมไปแล้วจำนวนหลายคลื่นเช่นกัน
นายปรีติ เหตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด พร้อมด้วยผู้บริหารร่วมกันแถลงข่าวแสดงความพร้อมที่จะเปิดให้บริการเที่ยวบินปฐมฤกษ์ ในวันที่ 29 กันยายน 2548 รวมถึงการเปิดให้บริการใช้งานจริงสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเตรียมความพร้อมทุกด้านทั้งอุปกรณ์ บุคลากร อาคาร สถานที่
ร.ต.ปรีชา แพรดำ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารการจราจรทางอากาศ (สนามบินดอนเมือง/สนามบินสุวรรณภูมิ) กล่าวว่า ในเที่ยวบินปฐมฤกษ์นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะจะเดินทางด้วยเครื่องแอร์บัส 340-600 จากสนามบินดอนเมือง ติดตามด้วยเครื่องโบอิ้ง 747 ซึ่งจะมีผู้สื่อข่าวร่วมเดินทางสังเกตการณ์ โดยอาจจะบินดูบริเวณโดยรอบประมาณ 20 นาที หรืออาจบินทางไปเหนือถึงพิษณุโลกหากต้องใช้เวลาบินประมาณ 30 นาที จากนั้นลำแรกจะลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ในเวลา 09.39 น. และแท็กซี่ไปจอดที่จุด E1 ส่วนลำที่ 2 จะไปจอดที่จุด E3 ส่วนการเตรียมความพร้อมในวันดังกล่าววิทยุการบินได้เตรียมพนักงานประจำหอบังคับการบินประมาณ 10 คน ห้องควบคุมด้วยเรดาร์ 20 คน ช่างและวิศวกร จำนวน 30 คน
นายปรีติ กล่าวว่า ยิ่งเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิยิ่งจะช่วยให้การจราจรทางอากาศสามารถจัดการได้ดียิ่งขึ้น เพราะถ้าเป็นเครื่องบินพาณิชย์ส่วนใหญ่จะลงที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนเครื่องเช่าเหมาลำ เครื่องบินเล็ก เครื่องบินทหารจะยังใช้สนามบินดอนเมือง ทั้งนี้ ปัจจุบันสนามบินดอนเมืองมีเครื่องขึ้นลง 800 เที่ยวบินต่อวัน กว่า 300,000 เที่ยวต่อปี ทำให้การจราจรคับคั่งมากเป็นเหตุให้มีความล่าช้าและสูญเสียน้ำมัน หลังเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิจะช่วยลดความสูญเสียได้มาก
สำหรับปัญหาวิทยุชุมชนที่ส่งผลกระทบต่อการบินนั้น ยอมรับว่า ขณะนี้ที่สนามบินดอนเมืองยังได้รับผลกระทบ แต่ที่สนามบินสุวรรณภูมิยังไม่พบสัญญาณรบกวน สาเหตุเพราะวิทยุชุมชนมีการใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน ที่ผ่านมาได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) ซึ่งคาดว่ากำลังดำเนินการให้เกิดความเรียบร้อยอยู่แล้ว และทราบว่ามีการจับกุมไปแล้วจำนวนหลายคลื่นเช่นกัน