จอห์นสันปรับสูตรแป้งเด็ก ควบตลาดคอสเมติก-ผู้ใหญ่

แป้งเด็กจอห์นสัน ชูนวัตกรรมหวังโค่นบัลลังก์ “แคร์” ใน 5 ปีผงาดครองแชร์ 30% ล่าสุดทุ่ม 60 ล้านบาท ปรับสูตรสินค้าเรือธง “จอห์นสัน บลอสซั่ม” ชูกลิ่นหอม ควบกินตลาดคอสเมติก-ขยายฐานผู้ใหญ่ ปี 49 แชร์ขยับ 25%

นางสาวประมวลศรี คงยิ่งยง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (ไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งเด็กจอห์นสัน เปิดเผยว่า การทำตลาดของแป้งเด็กจอห์นสันในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้ให้ความสำคัญกับการออกนวัตกรรมสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เนื่องจากบริษัทได้วางเป้าหมายไว้ว่าภายใน 5 ปีจากนี้ จอห์นสันจะขึ้นเป็นผู้นำตลาดแป้งเด็กแทนที่แคร์ ด้วยการครองส่วนแบ่ง 30% จากปัจจุบันแป้งเด็กจอห์นสันมีส่วนแบ่ง 21% ส่วนแคร์ 50% เนื่องจากในตลาดโลกแป้งเด็กจอห์นสันเป็นผู้นำตลาด แต่ในไทยนั้นยอมรับว่าคู่แข่งอยู่ในตลาดมานาน

สำหรับการออกนวัตกรรมใหม่ในช่วงที่ผ่านมา เริ่มตั้งแต่เปิดตัวสูตร เบดไทม์ และเมื่อปีที่ผ่านมาได้เปิดตัวสูตรมิลค์โปรตีน เพื่อขยายฐานลูกค้ามาสู่กลุ่มเป้าหมายผู้ใหญ่มากขึ้น ส่งผลให้จอห์นสันมีอัตราการเติบโตเป็น14% ขณะที่ส่วนแบ่งเพิ่มจาก 19% เป็น 21% ในปีนี้ โดยล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ “จอห์นสัน บลอสซั่ม” ซึ่งเป็นสูตรที่บริษัทได้ปรับปรุงใหม่ เพื่อให้มีคุณสมบัติหอมติดทนนาน วางกลุ่มเป้าหมายเจาะกลุ่มผู้ใช้แป้งเด็ก และขยายฐานไปยังผู้ที่ใช้แป้งคอสเมติกรวมถึงผู้ใหญ่

ทั้งนี้ บริษัทใช้งบการทำตลาดแป้งเด็กจอห์นสัน บลอสซั่ม 60 ล้านบาท ผ่านสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์ การแจกสินค้าตัวอย่างขนาด 50 กรัม เกือบ 1 ล้านชิ้น ทำโปรโมชันโดยเพิ่มปริมาณ 20% ทุกขนาดในราคาเท่าเดิม เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการทดลอง โดยคาดว่าแป้งเด็กจอห์นสัน บลอสซั่ม ผลักดันยอดขายปีนี้ให้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% และขยายฐานลูกค้ากลุ่มผู้ใหญ่ที่ปัจจุบันมีการใช้แป้งเด็ก 80% เพิ่มขึ้น รวมทั้งผลักดันให้แป้งเด็กจอห์นสันโดยรวม ส่วนแบ่งขยับไล่แคร์เพิ่มจาก 21% เป็น 25%ในปีหน้านี้

สำหรับตลาดรวมแป้งโดยรวมมีมูลค่า 3,500 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 7% เมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมาตลาดมีอัตราการเติบโต 2% ทั้งนี้เป็นเพราะตลาดแป้งเพื่อความงามสัดส่วน 12% มีอัตราการเติบโตสูงตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และผลักดันให้ตลาดรวมเติบโตสูงขึ้น โดยในปีนี้คาดว่าตลาดแป้งเพื่อความงามจะเติบโต 60% ซึ่งจะผลักดันให้สัดส่วนตลาดแป้งเพื่อความงามเพิ่มเป็น 15% ขณะที่ตลาดแป้งเด็กอยู่ในภาวะทรงตัว ส่วนตลาดแป้งเย็นเติบโตเล็กน้อย

นางสาวประมวลศรี กล่าวถึงภาวะตลาดอุปโภคบริโภคในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ว่า ผู้ประกอบการจะต้องรุกตลาดอย่างหนัก เพื่อกระตุ้นยอดขายให้ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจส่งผลให้กำลังการซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวลง อย่างไรก็ตามสิ้นปีนี้บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน จะมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักตามเป้าหมายที่วางไว้ เพราะในช่วง 8 เดือนที่ผ่าน ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีอัตราการเติบโตตามเป้า คือ 10%