“อนุรักษ์”เผยปัจจัยลบส่งผลกระทบต่อธุรกิจแฟชั่นและสินค้าฟุ่มเฟือย เตรียมปรับขึ้นราคาเสื้อผ้า 10-20% หลังต้นทุนพุ่ง10% พร้อมคาดการณ์ยอดขายปีนี้พลาดเป้า ล่าสุดแหวกแนวตลาดรุดจับมือกับฟอร์ด หวังสร้างแบรนด์ผ่านคนวัยทำงานรุ่นใหม่ ชี้แฟชั่นไทยอยู่ในช่วงเริ่มต้นกว่าจะก้าวสู่ระดับโลกต้องใช้เวลา ในเอเชียญี่ปุ่นเป็นผู้นำ ส่วนคู่แข่งที่น่ากลัวของไทยมีจีน,สิงคโปร์และฮ่องกง
นายอนุรักษ์ ตั้งสมบูรณ์ ไซเนอร์และเจ้าของบริษัท อนุรักษ์ การ์เมนท์ จำกัด ผู้ผลิตเสื้อผ้าแบรนด์อนุรักษ์ (ANURAK), anurak และ anr เปิดเผยว่า ในสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อสินค้าฟุ่มเฟือยทุกอย่าง อาทิ เสื้อผ้า, เครื่องสำอาง, จิวเวอรี่ และร้านอาหาร รวมถึงบริษัทฯเตรียมปรับราคาเสื้อผ้าเพิ่มขึ้น 10-20% เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบบางอย่างมีราคาสูงขึ้น 10% ซึ่งในแง่กำลังของลูกค้าก็มีน้อยลงจากเดิมที่ซื้อเสื้อผ้า 10 ชิ้น อาจลดลงเหลือ 6 ชิ้น เป็นต้น
ขณะที่เทรนด์การแข่งขันของธุรกิจแฟชั่นในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงทั้งในด้านราคา การดีไซน์และคุณภาพ ในส่วนของแบรนด์อนุรักษ์ซึ่งมีจุดเด่นที่การตัดเย็บและการเลือกวัสดุที่ดีในการตัด ขณะที่ข้อเสียเปรียบอยู่ที่วัตถุดิบของไทยมีน้อย บางวัตถุดิบต้องสั่งซื้อและนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ลูกไม้ เป็นต้น
ล่าสุดอนุรักษ์ได้ร่วมกับฟอร์ด ประเทศไทย ผลิตเสื้อยืดคอลเลคชั่นพิเศษเอเอ็นอาร์ (anr) 4 แบบ โดยการดีไซน์เสื้อได้รับแรงบันดาลใจความเป็นไอคอนของฟอร์ด โฟกัส โดยเสื้อยืดคอลเลคชั่นนี้จะวางขายในร้านเอเอ็นอาร์ สยามเซ็นเตอร์ในวันที่ 1 ก.ย. นี้ ในราคาตัวละ 990-1,450 บาท รวมถึงยังมีการแสดงแฟชั่นโชว์ในวันเสาร์27 ส.ค. นี้
ทั้งนี้ การร่วมมือในครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทั้ง 2 แบรนด์มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน คือ หนุ่มสาววัยทำงานอายุ 25-35 ปีที่มีความทันสมัยและมีไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ รวมถึงเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เอเอ็นอาร์ไปสู่ระดับสากล และยังส่งเสริมให้แบรนด์ฟอร์ดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยผ่านแฟชั่นของเอเอ็นอาร์
ปัจจุบันร้านอนุรักษ์มี 3 ชอป ประกอบด้วย แบรนด์เอเอ็นอาร์ที่สยามเซ็นเตอร์ , anurak ที่เซ็นทรัล ชิดลม และANURAK ที่เอ็มโพเรียม ซึ่งแผนการขยายสาขาร้านเพิ่มบริษัทฯยังไม่มีแผน เนื่องจากต้องการร้านน้อยแต่มีประสิทธิภาพ ในส่วนยอดขายปีนี้ของบริษัทฯคาดว่าไม่ถึงเป้าที่วางไว้ประมาณ 30% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันและการที่คนประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น
ชี้แฟชั่นไทยเพิ่งเริ่มต้น
นายอนุรักษ์ กล่าวด้วยว่า ศักยภาพแฟชั่นไทยในปัจจุบันนี้อยู่ในขั้นการเรียนรู้และเตรียมตัวเพื่อก้าวไปสู่ในระดับโลก ซึ่งงานบางกอกแฟชั่นวีค 2005 เปรียบเหมือนเป็นการเริ่มต้นที่ไทยจะก้าวไปถึงระดับโลกได้ ซึ่งคงจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง โดยงานบางกอกแฟชั่นครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคมปีหน้าคาดว่าทุกอย่างจะดีขึ้นกว่างานแรก และจะลงตัวขึ้นในงานครั้งที่ 3 และ 4
ขณะที่ตลาดในเอเชียผู้นำแฟชั่นยังคงเป็นญี่ปุ่น ซึ่งข้อได้เปรียบของญี่ปุ่นอยู่ที่การมีไดเรคชั่น ความมีสไตล์ และเข้าสู่ตลาดโลกแฟชั่นมานาน ขณะที่ไทยเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งเวลานี้คู่แข่งที่น่ากลัวของไทยมีหลายประเทศ เช่น จีน,ฮ่องกง,และสิงคโปร์ ปัจจุบันแบรนด์เสื้อผ้าไทยที่ติดระดับอินเตอร์มีกว่า 20 แบรนด์ อาทิ อนุรักษ์,ฟลายนาว,เกลย์ฮาว,แม่ฟ้าหลวง, แทงโก้,นาการ่า และคลอเซ็ท เป็นต้น
นายอนุรักษ์ ตั้งสมบูรณ์ ไซเนอร์และเจ้าของบริษัท อนุรักษ์ การ์เมนท์ จำกัด ผู้ผลิตเสื้อผ้าแบรนด์อนุรักษ์ (ANURAK), anurak และ anr เปิดเผยว่า ในสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลกระทบต่อสินค้าฟุ่มเฟือยทุกอย่าง อาทิ เสื้อผ้า, เครื่องสำอาง, จิวเวอรี่ และร้านอาหาร รวมถึงบริษัทฯเตรียมปรับราคาเสื้อผ้าเพิ่มขึ้น 10-20% เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบบางอย่างมีราคาสูงขึ้น 10% ซึ่งในแง่กำลังของลูกค้าก็มีน้อยลงจากเดิมที่ซื้อเสื้อผ้า 10 ชิ้น อาจลดลงเหลือ 6 ชิ้น เป็นต้น
ขณะที่เทรนด์การแข่งขันของธุรกิจแฟชั่นในปัจจุบันมีการแข่งขันสูงทั้งในด้านราคา การดีไซน์และคุณภาพ ในส่วนของแบรนด์อนุรักษ์ซึ่งมีจุดเด่นที่การตัดเย็บและการเลือกวัสดุที่ดีในการตัด ขณะที่ข้อเสียเปรียบอยู่ที่วัตถุดิบของไทยมีน้อย บางวัตถุดิบต้องสั่งซื้อและนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น ลูกไม้ เป็นต้น
ล่าสุดอนุรักษ์ได้ร่วมกับฟอร์ด ประเทศไทย ผลิตเสื้อยืดคอลเลคชั่นพิเศษเอเอ็นอาร์ (anr) 4 แบบ โดยการดีไซน์เสื้อได้รับแรงบันดาลใจความเป็นไอคอนของฟอร์ด โฟกัส โดยเสื้อยืดคอลเลคชั่นนี้จะวางขายในร้านเอเอ็นอาร์ สยามเซ็นเตอร์ในวันที่ 1 ก.ย. นี้ ในราคาตัวละ 990-1,450 บาท รวมถึงยังมีการแสดงแฟชั่นโชว์ในวันเสาร์27 ส.ค. นี้
ทั้งนี้ การร่วมมือในครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะทั้ง 2 แบรนด์มีกลุ่มเป้าหมายเดียวกัน คือ หนุ่มสาววัยทำงานอายุ 25-35 ปีที่มีความทันสมัยและมีไลฟ์สไตล์สมัยใหม่ รวมถึงเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เอเอ็นอาร์ไปสู่ระดับสากล และยังส่งเสริมให้แบรนด์ฟอร์ดเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยผ่านแฟชั่นของเอเอ็นอาร์
ปัจจุบันร้านอนุรักษ์มี 3 ชอป ประกอบด้วย แบรนด์เอเอ็นอาร์ที่สยามเซ็นเตอร์ , anurak ที่เซ็นทรัล ชิดลม และANURAK ที่เอ็มโพเรียม ซึ่งแผนการขยายสาขาร้านเพิ่มบริษัทฯยังไม่มีแผน เนื่องจากต้องการร้านน้อยแต่มีประสิทธิภาพ ในส่วนยอดขายปีนี้ของบริษัทฯคาดว่าไม่ถึงเป้าที่วางไว้ประมาณ 30% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ ราคาน้ำมันและการที่คนประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น
ชี้แฟชั่นไทยเพิ่งเริ่มต้น
นายอนุรักษ์ กล่าวด้วยว่า ศักยภาพแฟชั่นไทยในปัจจุบันนี้อยู่ในขั้นการเรียนรู้และเตรียมตัวเพื่อก้าวไปสู่ในระดับโลก ซึ่งงานบางกอกแฟชั่นวีค 2005 เปรียบเหมือนเป็นการเริ่มต้นที่ไทยจะก้าวไปถึงระดับโลกได้ ซึ่งคงจะต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง โดยงานบางกอกแฟชั่นครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในเดือนมีนาคมปีหน้าคาดว่าทุกอย่างจะดีขึ้นกว่างานแรก และจะลงตัวขึ้นในงานครั้งที่ 3 และ 4
ขณะที่ตลาดในเอเชียผู้นำแฟชั่นยังคงเป็นญี่ปุ่น ซึ่งข้อได้เปรียบของญี่ปุ่นอยู่ที่การมีไดเรคชั่น ความมีสไตล์ และเข้าสู่ตลาดโลกแฟชั่นมานาน ขณะที่ไทยเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งเวลานี้คู่แข่งที่น่ากลัวของไทยมีหลายประเทศ เช่น จีน,ฮ่องกง,และสิงคโปร์ ปัจจุบันแบรนด์เสื้อผ้าไทยที่ติดระดับอินเตอร์มีกว่า 20 แบรนด์ อาทิ อนุรักษ์,ฟลายนาว,เกลย์ฮาว,แม่ฟ้าหลวง, แทงโก้,นาการ่า และคลอเซ็ท เป็นต้น