xs
xsm
sm
md
lg

ระบุปีนี้ตลาดนาฬิกาข้อมือจะชะลอตัวลง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินแนวโน้มตลาดนาฬิกาข้อมือปีนี้จะชะลอตัว โดยการนำเข้าจะเติบโตประมาณร้อยละ 12 ต่ำกว่าปีที่แล้วที่ขยายตัวเกือบร้อยละ 20 สาเหตุเพราะภาวะเศรษฐกิจทำให้ประชาชนระวังการใช้จ่ายมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ในส่วนตลาดนาฬิกาข้อมือระดับสูง เชื่อว่าจะขยายตัวตามปกติ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงอยู่เช่นเดิม

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
จำกัด รายงานถึงตลาดนาฬิกาข้อมือที่วางจำหน่ายภายในประเทศไทยว่า ส่วนใหญ่นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ และทิศทางการนำเข้าในแต่ละปีมักจะเป็นไปในลักษณะที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ยกเว้นในช่วงปี 2540-2542 ที่เศรษฐกิจภายในประเทศต้องเผชิญกับภาวะวิกฤติ และกำลังซื้อภายในประเทศชะลอตัวลง การนำเข้านาฬิกาข้อมือได้หดตัวลงค่อนข้างชัดเจน อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สถานการณ์เศรษฐกิจภายในประเทศกระเตื้องขึ้น การนำเข้านาฬิกาข้อมือก็ขยายตัวขึ้นอีกในปี 2543 จนถึงปัจจุบัน โดยในช่วงครึ่งปีแรก ไทยมีการนำเข้านาฬิกาข้อมือคิดเป็นมูลค่า 2,287.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.15 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว แต่เป็นภาวะการนำเข้าที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับระดับอัตราการขยายตัวของการนำเข้านาฬิกาข้อมือในช่วงครึ่งแรกปี 2547 ที่เติบโตถึงร้อยละ 16.88

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่าปี 2548 การนำเข้านาฬิกาข้อมือโดยรวมมีอัตราการเติบโตไม่เกินร้อยละ 12 ซึ่งนับเป็นภาวะการนำเข้าที่เติบโตในทิศทางชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับระดับอัตราการขยายตัวของการนำเข้านาฬิกาข้อมือในปี 2547 ที่เติบโตถึงร้อยละ 19.75 ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศในปี 2548 ที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง รวมถึงระดับราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงและภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น จึงส่งผลต่อเนื่องให้พฤติกรรมการบริโภคของคนไทยระมัดระวังการจับจ่ายมากขึ้นโดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างนาฬิกาข้อมือ ขณะที่ภาวะการค้านาฬิกาข้อมือในปี 2548 น่าจะมีแนวโน้มขาดดุลต่อไปประมาณ 1,000 ล้านบาท เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคคนไทยส่วนใหญ่ยังคงยึดติดกับยี่ห้อของนาฬิกาข้อมือจากต่างประเทศที่มีชื่อเสียงมานานไม่ว่าจะเป็นสวิตเซอร์แลนด์ ญี่ปุ่น หรือฮ่องกง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนาฬิกาที่ราคาแพงและมักจะมีภาพลักษณ์ที่ดีโดยอาศัยความโดดเด่นในส่วนของแฟชั่น ดีไซน์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยเป็นหลัก

สำหรับภาวะตลาดนาฬิกาในประเทศมีความเป็นไปได้ว่านาฬิกาข้อมือในตลาดระดับล่างยังน่าจะขยายตัวได้ระดับหนึ่ง และอาจจะสามารถดึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมาจากตลาดระดับกลางที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้นได้บางส่วน ผู้จัดจำหน่ายนาฬิกาข้อมือในตลาดระดับกลางจึงต้องรับศึกหนักทั้งจากสินค้าในตลาดระดับกลางด้วยกันเองและสินค้าในตลาดระดับล่าง ส่วนนาฬิกาข้อมือในตลาดระดับสูงคาดว่าน่าจะยังมีการขยายตัวในระดับปกติ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่มีกำลังซื้อสูงอยู่แล้ว และการตัดสินใจซื้อขึ้นกับความพอใจมากกว่าราคา
กำลังโหลดความคิดเห็น