xs
xsm
sm
md
lg

บอร์ดบินไทยดัน “สมใจนึก” กุมอำนาจ ลดภาพ “กนก” เหลือแค่หุ่นเชิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แถลงการณ์บอร์ดบินไทยย้ำชัด “สมใจนึก” มีอำนาจบริหารเต็ม ขณะที่ “กนก” เหลือหน้าที่ปฏิบัติงานทางพิธีการเท่านั้น ด้าน “สมใจนึก” อ้างการรับตำแหน่งเพื่อช่วยแก้ปัญหารายได้ของบริษัทลดลง พร้อมระบุไม่ใช่การปลดแต่เป็นการช่วยกันดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วน “พงษศักดิ์” ยืนยันให้อำนาจการตัดสินใจของบอร์ดอย่างอิสระ ฝ่ายการเมืองไม่เกี่ยวทำเพียงแค่กำกับนโยบายเท่านั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวาระประชุมอย่างเป็นทางการในการแต่งตั้งนายสมใจนึกนั้น ระบุว่าคณะกรรมการบริษัทอาศัยอำนาจตามระเบียบ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ว่าด้วยการบริหารกิจการทั่วไป (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2548 มีมติแต่งตั้งให้นายสมใจนึก เองตระกูล กรรมการบริษัท ปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2548 เป็นต้นไป โดยให้อำนาจหน้าที่ของกรรมการผู้อำนวยการใหญ่เป็นของนายสมใจนึก ยกเว้นการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับพิธีการทั่วไปของบริษัท ยังคงให้เป็นหน้าที่ของนายกนก อภิรดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ตามเดิม ทั้งนี้ให้นายสมใจนึกแต่งตั้งคณะบุคคลช่วยบริหารงานได้

นายสมใจนึก เองตระกูล อดีตปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะปฏิบัติหน้าที่กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าการพิจารณาอย่างเร่งด่วนของบอร์ดการบินไทยในการประชุมเมื่อคืนวันที่ 10 สิงหาคมนั้น หลังจากได้รับรายงานผลประกอบการของบริษัทในไตรมาส 3 ที่มีรายได้และกำไรลดลง เนื่องจากผลกระทบจากภาวะวิกฤติน้ำมัน จำเป็นต้องเร่งรัดปรับปรุงการทำงานให้มีประสิทธิภาพทันกับเหตุการณ์ เพราะการทำงานเดิมยังติดด้วยข้อระเบียบที่ทำให้งานไม่รวดเร็วเท่าที่ควร

ทั้งนี้ การเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ซึ่งมีอำนาจเท่ากับกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย ควบคู่กับนายกนก อภิรดี ไม่ใช่การปลดนายกนกออกจากตำแหน่ง แต่เป็นการช่วยเหลือกันดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เพราะที่ผ่านมาการบินไทยประสบปัญหาหลายด้าน ทั้งในเรื่องของราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น และภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ จึงส่งผลให้รายได้ในไตรมาส 3 ปรับลดลง ดังนั้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นจึงจำเป็นต้องร่วมมือกันในการลดภาระค่าใช้จ่าย โดยจะต้องพยายามลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นทุกประเภทให้ต่ำลง ขณะเดียวกันก็พยายามเพิ่มรายได้ ทั้งในส่วนของผู้โดยสารในชั้นธุรกิจและชั้นหนึ่ง ซึ่งเป็นชั้นที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าหลังจากเข้าไปดำเนินการร่วมกันจะช่วยให้การบินไทยขึ้นไปอยู่ในระดับ A- ได้ภายใน 3 เดือน

“การเข้าไปดำเนินการร่วมกันในครั้งนี้จะเป็นในลักษณะของคณะทำงานมากกว่าเข้าไปดำรงตำแหน่งแทนนายกนก โดยจะมีผมเป็นประธานของคณะกรรมการชุดนี้ และมีนายกนกร่วมเป็นกรรมการกับบุคคลอื่นๆ อีกไม่เกิน 10 คน เพื่อพิจารณาการดำเนินงานต่างๆ ร่วมกัน ซึ่งจะทำให้การทำงานของการบินไทยรวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องผ่านหลายขั้นตอนเหมือนที่ผ่านมา แต่ภาระหน้าที่ของนายกนกที่จะต้องทำมากยิ่งขึ้นคือในเรื่องของการตลาด เพื่อเพิ่มรายได้ของการบินไทยให้มากยิ่งขึ้น เพราะที่ผ่านมาในช่วงไตรมาส 1 การบินไทยอยู่ในระดับ A พอไตรมาส 2 ก็มาอยู่ในระดับ B คาดว่าในช่วงไตรมาส 3 จะอยู่ที่ระดับ C” นายสมใจนึกกล่าว

ทั้งนี้ในส่วนของรายได้ไตรมาส 3 ที่ลดลงนั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้ เพราะยังไม่ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ แต่ยืนยันว่ารายได้ที่ลดลงไม่มาก โดยส่วนใหญ่มาจากการจัดซื้อที่ล่าช้า เช่น เรื่องของน้ำมันที่สะสมมาจากไตรมาสอื่นแล้วนำมาคิดยอดเหมารวมในไตรมาสนี้ และเรื่องของเงินเดือนพนักงานที่คิดไปจนถึงเดือนตุลาคม จึงส่งผลให้ค่าใช้จ่ายมีมากกว่าปกติ แต่หลังจากไตรมาส 3 ผ่านไปแล้ว เชื่อว่าในไตรมาสต่อไปจะมีกำไรเพิ่มสูงขึ้นเป็นจำนวนมาก

ด้านนายกนกกล่าวว่า การดำเนินงานของการบินไทยที่ผ่านมาถือว่ามาถูกทางแล้ว ในวิกฤติที่ผ่านมาฝ่ายบริหารก็ได้หารือร่วมกันหลายครั้งเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น และเห็นว่ากลุ่มผู้โดยสารที่ผ่านมามีเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาก ขณะที่ผู้โดยสารชั้นประหยัดของการบินไทยก็มีมากกว่าสายการบินอื่น ส่วนการบุกตลาดก็สามารถดำเนินการได้อย่างทั่วถึง โดยในครึ่งปีแรกการบินไทยมีผลประกอบการประมาณ 10,400 ล้านบาท การลดลงของผลประกอบการในไตรมาส 3 เป็นเรื่องของภาวะนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซัน) ซึ่งเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ขณะเดียวกันก็มีเรื่องของสึนามิ เรื่องแผ่นดินไหวที่ส่งผลกระทบถึงประเทศไทย และเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับราคาขึ้นอย่างรวดเร็ว

นายพงศ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะกำกับดูแลการบินไทย กล่าวว่าการตัดสินใจอย่างเร่งด่วนของบอร์ดการบินไทยที่จะแก้ปัญหาบริษัทเป็นอำนาจการตัดสินใจของบอร์ดอย่างอิสระ ซึ่งฝ่ายการเมืองมีหน้าที่แค่กำกับนโยบาย ส่วนการทำงานให้เป็นแบบมาตรฐานสากลที่มีการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิมีความเชี่ยวชาญเข้าไปเป็นบอร์ดแล้ว ก็ได้ให้อำนาจการทำงานอย่างเต็มที่ โดยเชื่อว่าจะทำให้การบินไทยกลับมามีรายได้อย่างเดิมได้ จากการระดมสมองช่วยกันทำงาน ซึ่งถ้ายังไม่ดีขึ้นและยังต้องการให้แต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญเข้าไปช่วยแก้วิกฤติอีกก็สามารถทำได้

“ที่ผมตกใจก็มีบ้างที่ว่าสถานการณ์น้ำมันเป็นที่รับรู้อยู่แล้ว สายการบินทั่วโลกได้รับผลกระทบ แต่ที่การบินไทยรู้เรื่องเมื่อไหร่ ทำไมถึงเพิ่งมาตั้งรับ แต่ยืนยันว่ายังไม่มีการปลดใครทั้งนั้น การตัดสินใจของบอร์ด ผมก็ไม่ได้รู้มาก่อน” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว

กำลังโหลดความคิดเห็น