ความแรงของหนังเรื่อง ต้มยำกุ้ง ของค่ายสหมงคลฟิล์มที่มีนายสมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐเป็นหัวเรือใหญ่ ที่ลงทุนสร้างไปกว่า 200 ล้านบาท นอกจากจะต้องจับตาเรื่อง ยอดรายได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้วที่คาดหวังว่าในไทยจะได้รายได้ไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาทแน่นอน ยังน่าติดตามในประเด็นของ มูฟวี่มาร์เกตติ้งของสินค้าและบริการที่เข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรด้วย ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของนางสาวอวิกา เตชะรัตนประเสริฐ ลูกสาวคนโตของนายสมศักดิ์
สำหรับสินค้า 4 แบรนด์ ของไทยที่ร่วมจับมือกับ ต้มยำกุ้ง ครั้งนี้คือ การบินไทย มาม่า แฮปปี้ดีพร้อมท์ เอ็ม150 โดยแต่ละรายคาดว่าจะต้องจ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์ต่างๆไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท ดังเช่นคำกล่าวของนางสาวธนินธน โชควัฒนา ผู้ดูแลสินค้ามาม่า กล่าวเอาไว้ว่า มาม่าได้จ่ายเงินไป 5 ล้านบาทเพื่อเข้าร่วมเป็นสปอนเซอร์หนัง ต้มยำกุ้ง และเป็นครั้งแรกที่ทำกับมูฟวี่มาร์เกตติ้งหนังไทยอย่างเต็มรูปแบบ
ทั้งนี้สินค้าแต่ละแบรนด์มีแผนการตลาดที่ต่างกันไป
โดยทางมาม่านั้น นายเพชร พะเนียงเวทย์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบรนด์มาม่า เปิดเผย “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่มาม่าใช้กลยุทธ์มูฟวี่มาร์เกตติ้งอย่างเต็มรูปแบบกับหนังเรื่อง ต้มยำกุ้ง ในครั้งนี้ ด้วยเหตุผลหลักคือ 1.ชื่อเรื่องของหนังที่ชื่อ ต้มยำกุ้ง ซึ่งสอดรับกับภาพลักษณ์ของมาม่าที่คนส่วนใหญ่นึกถึงมาม่าต้องนึกถึงรสต้มยำกุ้งเป็นอันดับแรก และเป็นหนังที่ฉายในต่างประเทศด้วยซึ่งจะทำให้แบรนด์มาม่าเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น และจะส่งผลดีในอนาคตต่อการทำตลาดต่างประเทศในระยะยาว
ทั้งนี้การเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับหนัง ต้มยำกุ้ง จะมีการทำตลาดครบงวจรทั้ง การโฆษณาประชาสัมพันธ์ในสื่อวิทยุ สิ่งพิมพ์ โปสเตอร์ เป็นต้น การนำผลิตภัณฑ์มาม่าเข้าไปถ่ายทำในหนังด้วยหรือ ไทอิน การพิมพ์ภาพของหนังเรื่องนี้ลงบนบรรจุภัณฑ์ของมาม่าคัพทั้งใหญ่และเล็กเฉพาะรสชาติต้มยำกุ้ง มี 3 เวอร์ชั่น จำนวน 2.5 ล้านถ้วย อย่างไรก็ตาม บริษัทฯไม่ได้มุ่งหวังเรื่องยอดขายเป็นหลัก แต่เพื่อการสร้างภาพลักษณ์และการตอกยำแบรนด์ในตลาด
สำหรับการทำตลาดต่างประเทศของมาม่านั้น มอบหมายให้บริษัท เพรซิเดนท์อินเตอร์ฟูดส์ เป็นผู้จัดจำหน่ายไปยังต่างประเทศให้กับเอเย่นต์ในแต่ละเมือง เช่น ในอเมริกามีประมาณ 7-8 ราย ในออสเตรเลียมี 2 ราย ตลาดส่งออกทุกวันนี้กระจายไปทั่วแต่ยังไม่มาก ยกเว้นในแอฟริกา อเมริกาใต้และส่วนใหญ่เจาะกลุ่มเป้าหหมายคนไทยหรือคนเอเชียที่อยู่ในประเทศนั้นๆและรสชาติที่ขายก็เป็นรสชาติของเอเชียอยู่แล้ว ส่วนคนต่างประเทศยังน้อยมากที่ซื้อมาม่า
ขณะที่ แฮปปี้ดีพร้อมท์นั้น ว่ากันว่าทุ่มงบกว่า 8 ล้านบาท ในการร่วมโปรโมตหนังเรื่องนี้ และใช้ลิขสิทธิ์ที่ได้มาทำการตลาดต่างๆเช่น การพิมพ์ลายหนังในบัตรเติมเงินคอลเลกชั่น ต้มยำกุ้ง ขนาดราคา 300 บาท มี 3 เวอร์ชั่น ประมาณ 2 ล้านใบ ซึ่งมากกว่าปรกติจากการซื้อลิขสิทธิ์อื่นๆที่ผ่านมา 5-6 แสนใบเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องในกลยุทธ์มูฟวี่มาร์เกตติ้งของแฮปปี้ดีพร้อมท์ โดยที่ทำไปแล้วคือ แจ๋ว หมานคร และที่ต่อจากนี้คือ วัยอลวน ไฉไล
ทางด้านเครื่องดื่มบำรุงกำลัง เอ็ม150 ซึ่งในอดีตเคยเป็นผู้สนับสนุนหนังแอ็คชั่นของ เฉินหลง มาโดยตลอดก็ไม่พลาดกับ ต้มยำกุ้ง ที่เป็นหนังแอ็คชั่นเหมือนักน เพราะเนื่องจากตรงกับบุคลิกของผลิตภัณฑ์ที่เน้นความเป็นฮีโร่ดังที่นำเสนอออกมาผ่านหนังโฆษณาตลอดเวลา
ส่วน การบินไทย นั้นก็เข้าสนับสนุนในเรื่องของการเดินทางไปต่างประเทศเช่น ออสเตรเลียในการถ่ายทำหนัง รวมไปถึงการเดินทางไปต่างประเทศเพื่อการโปรโมทหนังเรื่องนี้ รวมทั้งการฉายหนังเรื่องนี้บนเครื่องบินของการบินไทยในไฟลท์ที่บินไปยุโรป
***หนังล้อเลียนเริ่มมาแรง“ต้มยำกั้ง”จ่อคิวลงแผ่น***
ในช่วงที่หนังใหญ่อย่างเรื่อง “ต้มยำกุ้ง” ของเสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ แห่งค่ายสหมงคลฟิล์มกรุ๊ป จะเข้าโรงภาพยนตร์ฉายประเดิมวันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคมศกนี้
อีกมุมหนึ่งก็มีความเคลื่อนไหวของหนังอีกเรื่องที่ชื่อคล้ายกันว่า “ต้มยำกั้ง” ซึ่งจะเป็นหนังที่ลงทุนถ่ายทำออกมาในรูปแบบ หนังแผ่นหรือวีซีดี แต่น้อยคนนักที่จะได้รู้จักหนังเรื่องนี้ เหตุเพราะเป็นหนังเล็กทำตลาดแค่แผ่นวีซีดี ดีวีดี เท่านั้น ไม่ได้เป็นหนังใหญ่เข้าโรงหนังแต่อย่างใด
คนทั่วบ้านทั่วเมืองกำลังพูดถึง และรอคอยการเข้าฉายของ ต้มยำกุ้ง ว่าจะมีความสนุก ความมันส์ มากแค่ไหน เหมือนอย่างกระแสที่แรงในขณะนี้หรือไม่
ยิ่งกระแสแรงเท่าใด ก็ยิ่งอาจจะส่งผลให้หนังเรื่อง ต้มยำกั้ง ดีไปด้วยเช่นกัน ตามศูนย์เช่าวิดีโอ วีซีดี ทั่วไป
“ต้มยำกั้ง” เป็นหนังที่ลงทุนน้อย จากกลุ่มผู้ผลิตที่ทำในนามบุคคลส่วนตัว แต่ไม่ถือว่าเป็นหนังที่ละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด ถ้าหากว่าสหมงคลฟิล์มหรือคนทั่วไปจะไม่ซีเรียส แต่เป็นหนังที่สร้างขึ้นมาล้อเลียนออกมาในเชิงตลก สนุกสนาน
ถ้าจะว่าไปแล้ว ก็เหมือนกับรายการ “สภาโจ๊ก” ที่ออกอากาศทางช่องไอทีวี ทุกวันพุธ ช่วงก่อนเที่ยงคืน ซึ่งเป็นรายการที่เอาคนหน้าเหมือนกับนักการเมืองทั้งฟากรัฐบาลและฟากฝ่ายค้าน มาออกอากาศทำหน้าที่เหมือนกับเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสภาโจ๊ก แล้วนำเอาประเด็นการเมือง สังคมต่างๆที่เป็นที่กล่าวขวัญถึงในขณะนั้นมาทำเป็นเรื่องราวนำเสนอออกมาในเชิงตลก ขบขัน ซึ่งเน้นเฮฮา บันเทิงเป็นหลัก และได้รับความนิยมอย่างมาก ถึงขนาดทำออกมาเป็นวีซีดีขายด้วย
เพราะหนังคล้ายบางเรื่องที่ผลิตออกมานั้น บางครั้งก็นำเอาดารา ที่เล่นในเรื่องหลักอยู่แล้วเอามาเล่นในเรื่องที่ล้อเลียนด้วย หรือบางครั้งก็หานักแสดงที่หน้าเหมือนหนังต้นฉบับที่ล้อเลียนถึงมาแสดงด้วย
หนังเรื่อง “ต้มยำกั้ง” อาจจะเป็นเพียงแค่หนังเรื่องหนึ่ง ของกลยุทธ์หนังคล้ายนี้ ที่เริ่มระบาดในเวลานี้ในวงแคบๆตามศูนย์เช่าวิดีโอทั่วไป
ก่อนหน้านี้ก็มีหนังคล้ายที่ออกอาละวาดควบคู่กับหนังใหญ่ดังๆหลายเรื่องแล้วเช่น “ 7 ประจันบวม” ล้อเลียนหนังเรื่อง “ 7 ประจันบาน”, หนังเรื่อง “หลวงพี่เทิ่ง” ล้อเลียนหนังเรื่อง “หลวงพี่เท่ง”, หนังเรื่อง “พยัคฆ์ร้ายขายหน้า” ล้อเลียนหนังเรื่อง “พยัคฆ์ร้ายส่ายหน้า”, ซึ่งทั้งหมดนี้ออกวางตลาดไปแล้ว และล่าสุดคือ เรื่อง “ต้มยำกั้ง” ที่มาล้อเลียนเรื่อง “ต้มยำกุ้ง” ซึ่งหนังทั้งหมดนี้มีค่ายซีวีดีเป็นผู้ทำตลาดในส่วนของตลาดเช่า โดยผ่านเครือข่ายศูนย์เช่าวิดีโอทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับผลตอบรับที่ดีพอสมควร