"บีไนซ์" ได้ฤกษ์แตกไลน์ ปั้นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นท้าชนแลคตาซิด ชิมลางเปิดตัว 2 สูตรเจาะกลุ่มผู้หญิงรุ่นใหม่ พร้อมแจกสินค้าตัวอย่าง 1 แสนชิ้นกระตุ้นการทดลองใช้ ส่วนครีมอาบน้ำยกเครื่องรีลอนช์ใหม่ พร้อมเพิ่ม 2 สูตรเสริมทัพ ลั่น 1 ปีขึ้นอันดับสองเทียบโชกุบุสซึฯ สำเร็จ
นายเสรี จิระสุวรรณกิจ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์บีไนซ์ บริษัท ไบโอ คอนซูเมอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่าบริษัทได้แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ "บีไนซ์" จากครีมอาบน้ำมาสู่ไลน์สินค้าในกลุ่มสบู่เหลวทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เนื่องจากแนวโน้มตลาดสบู่เหลวทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นมูลค่า 300-400 ล้านบาท เป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง เพราะกระแสสุขภาพมาแรง ส่งผลให้ผู้หญิงหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น
อีกทั้งยังเป็นตลาดที่มีคู่แข่งไม่มากนัก เช่น บริษัท ซาโนฟี่-ซินเตลาโบ (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้แบรนด์แลคตาซิด ค่ายจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ภายใต้แบรนด์แคร์ฟรี และสินค้าจากกลุ่มธุรกิจขายตรงของมิสทินและเอวอนเพียงเท่านั้น
"ดีเอ็นเอของบีไนซ์คือเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อผิวกระชับ ดังนั้นถ้าจะแตกไลน์สินค้าบริษัทก็มองว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่ใกล้เคียงกับครีมอาบน้ำ และในอนาคตยังได้เตรียมแตกไลน์สินค้าในกลุ่มทำความสะอาดอื่นๆ ต่อเนื่อง ส่วนการแตกไลน์สบู่ก้อนบีไนซ์นั้น บริษัทยังไม่มีแผน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตน้อย"
สำหรับสบู่เหลวทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น "บีไนซ์" เปิดตัวด้วยกัน 2 สูตร ได้แก่ เอ็กซ์ตร้า เซนซิทีฟ และดิโอเฟรช ฟอร์ เซนซิทีฟ สกิน เจาะกลุ่มผู้หญิงรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ ในเบื้องต้นบริษัทได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร ทั้งสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ รวมทั้งการแจกสินค้าตัวอย่าง 1 แสนชิ้นตามสถานศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นการทดลองใช้และสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
ส่วนกลุ่มครีมอาบน้ำนั้น ล่าสุดบริษัทได้รีลอนช์ใหม่ ปรับทั้งสูตรและบรรจุภัณฑ์ใหม่ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มสูตรจาก 5 สูตรเป็น 7 สูตร โดยได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร ทั้งสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ และการแจกสินค้าตัวอย่าง ทั้งนี้บริษัทได้วางเป้าหมายไว้ว่าในปีหน้านี้บีไนซ์จะขึ้นมาเป็นอันดับสองของตลาดครองส่วนแบ่งเพิ่มจาก 10-12% เป็น 15% ใกล้เคียงกับโชกุบุสซึ โมโนกาตาริ ของไลอ้อนซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 15-16% จากมูลค่าตลาดรวมครีมอาบน้ำเพื่อความงาม 1,500 ล้านบาท
นายเสรี จิระสุวรรณกิจ ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์บีไนซ์ บริษัท ไบโอ คอนซูเมอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่าบริษัทได้แตกไลน์ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ "บีไนซ์" จากครีมอาบน้ำมาสู่ไลน์สินค้าในกลุ่มสบู่เหลวทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เนื่องจากแนวโน้มตลาดสบู่เหลวทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นมูลค่า 300-400 ล้านบาท เป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูง เพราะกระแสสุขภาพมาแรง ส่งผลให้ผู้หญิงหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น
อีกทั้งยังเป็นตลาดที่มีคู่แข่งไม่มากนัก เช่น บริษัท ซาโนฟี่-ซินเตลาโบ (ประเทศไทย) จำกัด ภายใต้แบรนด์แลคตาซิด ค่ายจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ภายใต้แบรนด์แคร์ฟรี และสินค้าจากกลุ่มธุรกิจขายตรงของมิสทินและเอวอนเพียงเท่านั้น
"ดีเอ็นเอของบีไนซ์คือเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อผิวกระชับ ดังนั้นถ้าจะแตกไลน์สินค้าบริษัทก็มองว่าน่าจะเป็นกลุ่มที่ใกล้เคียงกับครีมอาบน้ำ และในอนาคตยังได้เตรียมแตกไลน์สินค้าในกลุ่มทำความสะอาดอื่นๆ ต่อเนื่อง ส่วนการแตกไลน์สบู่ก้อนบีไนซ์นั้น บริษัทยังไม่มีแผน เนื่องจากเป็นตลาดที่มีอัตราการเติบโตน้อย"
สำหรับสบู่เหลวทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น "บีไนซ์" เปิดตัวด้วยกัน 2 สูตร ได้แก่ เอ็กซ์ตร้า เซนซิทีฟ และดิโอเฟรช ฟอร์ เซนซิทีฟ สกิน เจาะกลุ่มผู้หญิงรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ ในเบื้องต้นบริษัทได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร ทั้งสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ สื่อสิ่งพิมพ์ รวมทั้งการแจกสินค้าตัวอย่าง 1 แสนชิ้นตามสถานศึกษาต่างๆ ทั่วประเทศ ทั้งนี้เพื่อกระตุ้นการทดลองใช้และสร้างการรับรู้ในวงกว้าง
ส่วนกลุ่มครีมอาบน้ำนั้น ล่าสุดบริษัทได้รีลอนช์ใหม่ ปรับทั้งสูตรและบรรจุภัณฑ์ใหม่ นอกจากนี้ยังได้เพิ่มสูตรจาก 5 สูตรเป็น 7 สูตร โดยได้เตรียมจัดกิจกรรมการตลาดอย่างครบวงจร ทั้งสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ทางโทรทัศน์ และการแจกสินค้าตัวอย่าง ทั้งนี้บริษัทได้วางเป้าหมายไว้ว่าในปีหน้านี้บีไนซ์จะขึ้นมาเป็นอันดับสองของตลาดครองส่วนแบ่งเพิ่มจาก 10-12% เป็น 15% ใกล้เคียงกับโชกุบุสซึ โมโนกาตาริ ของไลอ้อนซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 15-16% จากมูลค่าตลาดรวมครีมอาบน้ำเพื่อความงาม 1,500 ล้านบาท