กรมการค้าภายในปรับแผนการปฏิบัติงานด้านการออกตรวจสอบตลาดทั้งตลาดสดและห้างสรรพสินค้าใหม่ จากเดิมจะส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจตลาดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 10 สาย เพิ่มเป็น 20 สายทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ ล่าสุดตรวจพบพ่อค้าหัวใสแพกข้าวถุงน้ำหนักไม่ครบ สั่งปรับทันที
นายทรงกลด อุบลสิงห์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบนโยบายโดยให้กรมการค้าภายในเข้มงวดออกตรวจตลาดราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคอย่างใกล้ชิดในช่วงราคาน้ำมันแพง เพื่อไม่ให้พ่อค้าแม่ค้ารวมถึงผู้ประกอบการขึ้นราคาสินค้าเกินความจำเป็น ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้ผู้บริโภคโดยกรมการค้าภายในได้มีการปรับแผนการปฏิบัติงานด้านการออกตรวจสอบตลาดทั้งตลาดสดและห้างสรรพสินค้าใหม่ จากเดิมจะส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจตลาดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 10 สาย เพิ่มเป็น 20 สาย ในการออกสำรวจตลาด โดยจะทำการตรวจสอบทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์
สำหรับการตรวจสอบราคาสินค้าโดยจะดูทั้งการปิดป้ายแสดงราคา และการจำหน่ายสินค้า รวมถึงปริมาณ เพื่อให้สินค้าที่จำหน่ายถูกต้องทั้งปริมาณและคุณภาพ อย่างไรก็ตาม นอกจากออกสำรวจตลาดทั้งในห้างสรรพสินค้าและตลาดสดแล้ว ในสัปดาห์หน้า กรมการค้าภายในจะออกตรวจตลาดประเภทกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องจักร เครื่องยนต์ เครื่องมือต่างๆ และรวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ในย่านตลาดคลองถม วรจักร ตลาดสะพานเหล็ก และอื่นๆ อีกด้วย เพราะเห็นว่า สินค้าเหล่านี้ ประชาชนให้ความสนใจในการจับจ่ายใช้สอย จึงเห็นว่าเป็นส่วนหนึ่งที่กรมการค้าภายในจะต้องออกตรวจตลาดด้วยเช่นกัน เพื่อตรวจเช็คราคาไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเกินความจำเป็น รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าว
นายทรงกรด กล่าวอีกว่า กรมการค้าภายในยังมีแผนที่จะออกตรวจโรงงานผลิตสินค้า ใน 12 จังหวัด เช่น โรงงานที่ตั้งในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ จังหวัดปทุมธานี ลพบุรี นครปฐม และอื่นๆ เพื่อเข้าไปดูการบรรจุหีบห่อของโรงงาน เพื่อให้ปริมาณสินค้าที่จะออกมาวางตลาดมีปริมาณถูกต้องตามที่กำหนดไว้ ซึ่งที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้ออกตรวจสอบโรงงานผลิตสินค้าไปบ้างแล้ว เช่น ได้เข้าไปดูข้าวสารบรรจุถุง โดยปกติข้าวสาร 1 ถุง จะมีน้ำหนัก 5 กิโลกรัม แต่มีการบรรจุจริงเพียง 4.9 กิโลกรัมเท่านั้น หายไป 1 ขีด โดยกรมการค้าภายในได้สั่งปรับกับผู้ประกอบการรายดังกล่าวเป็นเงิน 10,000 บาท และให้มีการแก้ไขเพราะเนื่องจากการบรรจุข้าวสารใช้ระบบคอมพิวเตอร์ จึงต้องมีการแก้ไขโปรแกรมให้ปริมาณข้าวสารบรรจุถุงเป็นไปตามที่มีการจำหน่ายไว้ รวมทั้งน้ำตาลทรายที่จำหน่ายก็ได้ตรวจบางยี่ห้อพบว่า ปริมาณบรรจุจริงต่ำกว่า 1 กิโลกรัมที่ระบุไว้ ก็ได้มีการสั่งการให้แก้ไขแล้ว อีกทั้งน้ำดื่มบรรจุขวดข้นปริมาณบรรจุต่ำกว่าที่ระบุไว้ ก็ได้สั่งการให้แก้ไขแล้วเช่นกัน
ส่วนการออกสำรวจตรวจสอบสถานีบริการน้ำมัน ก็มีแผนที่จะออกตรวจทุกๆ สัปดาห์ด้วยเช่นกัน สำหรับการออกตรวจสอบตลาดสดในย่านประชาชื่น ยอมรับว่า ผักสดต่างๆ มีราคาสูงขึ้นเช่น ผักชีราคาต้นทุน 45 บาทต่อกิโลกรัม แต่ราคาขาย 50 บาทต่อกิโลกรัม โดยขายขีดละ 5 บาท ต้นหอม ต้นทุน 40 บาทต่อกิโลกรัม แต่ขาย 45 บาทต่อกิโลกรัม แต่ขายขีดละ 5 บาท ส่วนผักคะน้า ต้นทุนซื้อ 25 บาทต่อกิโลกรัม แต่ขายจริง 30 บาทต่อกิโลกรัม โดยขายกรัมละ 5 บาท ซึ่งผักสดมีราคาสูงขึ้นตามฤดูกาล เห็นว่า ไม่ได้เป็นการขายแบบเอารัดเอาเปรียบ ส่วนเนื้อหมูยังยอมรับว่า มีราคาจำหน่ายสูงอยู่ โดยเนื้อหมูเป็นหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-62 บาท ทำให้หมูเขียงที่ขายตามตลาดสด อยู่ที่ 95-100 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนไข่ไก่ก็ยังมีราคาสูง ราคาขายส่งอยู่ที่ฟองละ 2.90 บาท โดยราคาขายจะอยู่ที่ฟองละ 3 บาทขึ้นไป
นายทรงกลด อุบลสิงห์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า จากการที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบนโยบายโดยให้กรมการค้าภายในเข้มงวดออกตรวจตลาดราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคอย่างใกล้ชิดในช่วงราคาน้ำมันแพง เพื่อไม่ให้พ่อค้าแม่ค้ารวมถึงผู้ประกอบการขึ้นราคาสินค้าเกินความจำเป็น ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้ผู้บริโภคโดยกรมการค้าภายในได้มีการปรับแผนการปฏิบัติงานด้านการออกตรวจสอบตลาดทั้งตลาดสดและห้างสรรพสินค้าใหม่ จากเดิมจะส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจออกตรวจตลาดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล 10 สาย เพิ่มเป็น 20 สาย ในการออกสำรวจตลาด โดยจะทำการตรวจสอบทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์
สำหรับการตรวจสอบราคาสินค้าโดยจะดูทั้งการปิดป้ายแสดงราคา และการจำหน่ายสินค้า รวมถึงปริมาณ เพื่อให้สินค้าที่จำหน่ายถูกต้องทั้งปริมาณและคุณภาพ อย่างไรก็ตาม นอกจากออกสำรวจตลาดทั้งในห้างสรรพสินค้าและตลาดสดแล้ว ในสัปดาห์หน้า กรมการค้าภายในจะออกตรวจตลาดประเภทกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเครื่องจักร เครื่องยนต์ เครื่องมือต่างๆ และรวมถึงอุปกรณ์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ในย่านตลาดคลองถม วรจักร ตลาดสะพานเหล็ก และอื่นๆ อีกด้วย เพราะเห็นว่า สินค้าเหล่านี้ ประชาชนให้ความสนใจในการจับจ่ายใช้สอย จึงเห็นว่าเป็นส่วนหนึ่งที่กรมการค้าภายในจะต้องออกตรวจตลาดด้วยเช่นกัน เพื่อตรวจเช็คราคาไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าเกินความจำเป็น รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าว
นายทรงกรด กล่าวอีกว่า กรมการค้าภายในยังมีแผนที่จะออกตรวจโรงงานผลิตสินค้า ใน 12 จังหวัด เช่น โรงงานที่ตั้งในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ จังหวัดปทุมธานี ลพบุรี นครปฐม และอื่นๆ เพื่อเข้าไปดูการบรรจุหีบห่อของโรงงาน เพื่อให้ปริมาณสินค้าที่จะออกมาวางตลาดมีปริมาณถูกต้องตามที่กำหนดไว้ ซึ่งที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้ออกตรวจสอบโรงงานผลิตสินค้าไปบ้างแล้ว เช่น ได้เข้าไปดูข้าวสารบรรจุถุง โดยปกติข้าวสาร 1 ถุง จะมีน้ำหนัก 5 กิโลกรัม แต่มีการบรรจุจริงเพียง 4.9 กิโลกรัมเท่านั้น หายไป 1 ขีด โดยกรมการค้าภายในได้สั่งปรับกับผู้ประกอบการรายดังกล่าวเป็นเงิน 10,000 บาท และให้มีการแก้ไขเพราะเนื่องจากการบรรจุข้าวสารใช้ระบบคอมพิวเตอร์ จึงต้องมีการแก้ไขโปรแกรมให้ปริมาณข้าวสารบรรจุถุงเป็นไปตามที่มีการจำหน่ายไว้ รวมทั้งน้ำตาลทรายที่จำหน่ายก็ได้ตรวจบางยี่ห้อพบว่า ปริมาณบรรจุจริงต่ำกว่า 1 กิโลกรัมที่ระบุไว้ ก็ได้มีการสั่งการให้แก้ไขแล้ว อีกทั้งน้ำดื่มบรรจุขวดข้นปริมาณบรรจุต่ำกว่าที่ระบุไว้ ก็ได้สั่งการให้แก้ไขแล้วเช่นกัน
ส่วนการออกสำรวจตรวจสอบสถานีบริการน้ำมัน ก็มีแผนที่จะออกตรวจทุกๆ สัปดาห์ด้วยเช่นกัน สำหรับการออกตรวจสอบตลาดสดในย่านประชาชื่น ยอมรับว่า ผักสดต่างๆ มีราคาสูงขึ้นเช่น ผักชีราคาต้นทุน 45 บาทต่อกิโลกรัม แต่ราคาขาย 50 บาทต่อกิโลกรัม โดยขายขีดละ 5 บาท ต้นหอม ต้นทุน 40 บาทต่อกิโลกรัม แต่ขาย 45 บาทต่อกิโลกรัม แต่ขายขีดละ 5 บาท ส่วนผักคะน้า ต้นทุนซื้อ 25 บาทต่อกิโลกรัม แต่ขายจริง 30 บาทต่อกิโลกรัม โดยขายกรัมละ 5 บาท ซึ่งผักสดมีราคาสูงขึ้นตามฤดูกาล เห็นว่า ไม่ได้เป็นการขายแบบเอารัดเอาเปรียบ ส่วนเนื้อหมูยังยอมรับว่า มีราคาจำหน่ายสูงอยู่ โดยเนื้อหมูเป็นหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 60-62 บาท ทำให้หมูเขียงที่ขายตามตลาดสด อยู่ที่ 95-100 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนไข่ไก่ก็ยังมีราคาสูง ราคาขายส่งอยู่ที่ฟองละ 2.90 บาท โดยราคาขายจะอยู่ที่ฟองละ 3 บาทขึ้นไป