บลูเอเลเฟ่นท์แจ้งเกิดสินค้าเพื่อบริโภคในตลาดต่างแดน ล่าสุดหวังแจ้งเกิดในตลาดไทย พร้อมเทงบ 20 ล้านบาทสร้างโรงงานผลิตสินค้าเพื่อการบริโภคแห่งใหม่ในไทย รองรับการขยายตัวของตลาดไทยและส่งออก คาดรายได้รวม 200 ล้านบาท เผยมีแผนเปิดร้านอาหารบลูเอเลเฟ่นท์ที่รัสเซียและโมร็อคโกเร็วๆนี้
นายแอร์เวย์ โอรีย์ ผู้จัดการฝ่ายส่งออก บริษัท บลูเอเลเฟ่นท์ กรุงเทพฯ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจจัดหาและส่งวัตถุดิบไปให้ร้านอาหารบลูเอเลเฟ่นท์ทั่วโลก เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ลงทุนเพิ่มกว่า 20 ล้านบาทในการสร้างโรงงานผลิตสินค้าบริโภค อาทิ เครื่องแกงและอาหารว่าง ภายใต้แบรนด์ “บลูเอเลเฟ่นท์” ที่แถวนวนคร คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงต้นปีหน้า การที่บริษัทฯลงทุนเปิดโรงงานในกรุงเทพฯนั้น เป็นเพราะต้องการขยายธุรกิจทั้งตลาดส่งออกและในตลาดไทยที่เพิ่งเริ่มเปิดตลาดและวางขายสินค้าเพื่อการบริโภค โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้บริโภคระดับไฮเอนด์ ซึ่งช่องทางการขายจะผ่านทางดิ เอ็มโพเรี่ยมและเตรียมเปิดขายที่สยามพารากอนเดือนพ.ย.นี้ ส่วนปีหน้าจะเริ่มวางจำหน่ายในคิง พาวเวอร์ ดิวตี้ ฟรี ที่สนามบิน
ก่อนหน้านั้นบริษัทฯได้ทำตลาดและวางขายสินค้าบริโภคบลูเอเลเฟ่นท์ในต่างประเทศมาแล้ว เช่น เบลเยี่ยม, อังกฤษ และฝรั่งเศส ซึ่งเริ่มเมื่อช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ส่วนเอเชียเพิ่งเริ่มวางตลาดในฮ่องกงและญี่ปุ่นเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ทั้งนี้เดิมทีบริษัทมีโรงงานผลิตสินค้าอยู่ที่เบลเยี่ยม และการผลิตสินค้าบางส่วนได้ว่าจ้างโรงงานในไทยผลิตสินค้าให้ รวมถึงต้องการควบคุมคุณภาพสินค้าบริโภคให้มีมาตรฐาน
ผลิตภัณฑ์ของบลูเอเลเฟ่นท์ แบ่งออกเป็นเป็น กลุ่มเครื่องปรุงอาหาร เช่น น้ำกะทิ, เครื่องแกง,ซอส และชุดผัดไทยสำเร็จรูป กลุ่มอาหารว่าง เช่น ผลไม้แห้งและถั่วรวมมิตรคั่วสมุนไพรไทย และอื่นๆ เช่น ช็อคโกแลตรูปช้าง ซึ่งราคาของสินค้าจะเฉลี่ยประมาณ 35-200 บาท
ส่วนร้านอาหารบลูเอเลเฟ่นท์ปัจจุบันมีสาขารวม 12 แห่งทั้งในยุโรปและตะวันออกกลาง โดยบริษัทฯมีแผนเปิดสาขาใหม่ที่มอสโค รัสเซียและโมร็อคโก ภายใต้งบลงทุน 30 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯยังมีรร.สอนทำอาหารบลูเอเลเฟ่นท์ คุ๊กกิ้งสคูล กรุงเทพฯอีกด้วย
สำหรับยอดรายได้ปีนี้คาดว่ามียอดขายรวม 200 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30% ของยอดขายรวมทั้งหมดของบลูเอเลเฟ่นท์ อินเตอร์เนชั่นแนล โดยแบ่งเป็นยอดขายในส่วนสินค้าเพื่อผู้บริโภคคิดเป็น 40% ส่วน 60% เป็นยอดส่งออกสินค้าไปยังร้านสาขาของบริษัท โรงแรม และอื่นๆ
