xs
xsm
sm
md
lg

เศรษฐกิจซบคนไทยหยุดเที่ยว เอกชนดิ้นทำแพกเกจระยะสั้น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คนไทยเจอพิษเศรษฐกิจรุมเร้าและวิกฤตก่อการร้ายระบาดทั่วโลก ส่งผลยอดนักท่องเที่ยวเดินทางไปต่างประเทศช่วง มิ.ย.-ต.ค.48 ลดกว่า 20 % บริษัททัวร์เร่งปรับตัวจัดแพกเกจทัวร์เดินทางระยะสั้น 3-5 วันพยุงสถานการณ์ ส่วนในประเทศ นายก สทน.วอน ททท.ช่วยซัปพอร์ตค่าน้ำมันรถบริการนำเที่ยว เหตุต้องการดึงคนไทยระดับกลางลงล่างเที่ยวภูเก็ต ระบุขอ 8 ล้านบาทตั้งเป้านำคนลงพื้นที่ไม่น้อยกว่า 4,000 คน

นายเถกิง สวัสดิพันธ์ เจ้าของบริษัทนำเที่ยว เถกิง ทัวร์ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการธุรกิจทัวร์ท่องเที่ยวเส้นทางต่างประเทศ (เอาต์บาวต์) เปิดเผยว่าจากสภาพเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ภาวะราคาน้ำมันแพง ทำให้ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจต่อสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ จึงหันมาประหยัดค่าใช้จ่าย ประกอบกับเป็นช่วงโลว์ซีซันของนักท่องเที่ยวคนไทยด้วย จึงส่งผลให้ธุรกิจนำเที่ยวเส้นทางต่างประเทศในช่วงนี้ซบเซา คาดว่ายอดนักท่องเที่ยวคนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศช่วงเดือน มิ.ย.-ต.ค.2548 จะลดลงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนไม่น้อยกว่า 20 %

ทั้งนี้ การปรับตัวของผู้ประกอบการ คือการโปรโมตแพกเกจทัวร์ในระยะทางสั้นๆ หรือแพกเกจทัวร์ที่เดินทางเพียง 3-5 วัน เพื่อราคาจะเป็นตัวจูงใจให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทาง ซึ่งในสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้แพกเกจทัวร์ที่เกิน 6 วันขึ้นไปจะมีลูกค้าลดน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเส้นทางอเมริกา อังกฤษ และยุโรป

ด้านธุรกิจนำเที่ยวไปต่างประเทศนับรอบปีตั้งแต่เดือน มิ.ย.-พ.ค.ของทุกปี โดยในปี 2547/2548 (มิ.ย.2547- พ.ค.2548) ธุรกิจนำเที่ยวไปต่างประเทศของไทยเติบโตราว 10% ประเทศยอดนิยมที่คนไทยสนใจเดินทางไปมากที่สุดคือประเทศจีน รองมาคือประเทศในกลุ่มยุโรป และอันดับสามคือประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในขณะนี้หากจะให้ประเมินการเติบโตของธุรกิจนำเที่ยวไปต่างประเทศในปี 2548/2549 คาดว่าคงไม่เติบโต หรือเติบโตก็คงไม่มาก ทั้งนี้เป็นเพราะมีปัจจัยเรื่องการก่อการร้ายในต่างประเทศ โดยเฉพาะการวางระเบิดที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ยิ่งมีผลกระทบกับการตัดสินใจท่องเที่ยว ดังนั้นตลาดที่ยังขายทัวร์ได้และยังน่าจะมีการเติบโตคงเป็นตลาดเส้นทางระยะใกล้ในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน ฮ่องกง และญี่ปุ่น

ขอ ททท.ช่วยค่าน้ำมันดึงคนไทยเที่ยวใต้
นางสาวมัสลิน สุขพัฒนานรางกุล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เปิดเผยว่า แคมเปญ “ลดยกเกาะ สนุกทั้งเมือง” ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจัดทำร่วมกับ 4 สายการบิน ได้แก่ การบินไทย บางกอกแอร์เวย์ แอร์เอเชีย และโอเรียนท์ไทย มีผลตอบรับที่ดีจากตลาดนักท่องเที่ยวคนไทย แต่ทั้งนี้มองว่าเมื่อรัฐบาลถือว่าช่วงนี้เป็นโอกาสทองของคนไทยที่จะได้เดินทางท่องเที่ยวเข้าไปจังหวัดภูเก็ตได้ในราคาถูกนั้น รัฐบาลควรเข้ามาสนับสนุนแพกเกจทัวร์ที่เดินทางโดยรถบริการนำเที่ยวด้วย เพื่อให้นักท่องเที่ยวในกลุ่มระดับกลางลงล่างได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ภูเก็ตด้วย

โดยเบื้องต้น สทน.ได้นำเสนอขอให้ ททท.ช่วยซัปพอร์ตค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าน้ำมันบางส่วน เพื่อบริษัททัวร์จะได้นำไปจัดแพกเกจทัวร์ราคาถูกกระตุ้นให้คนไทยอีกกลุ่มหนึ่งได้เดินทางท่องเที่ยว โดยวงเงินที่ขอไปคือ 8 ล้านบาท เพื่อมาใช้ในการช่วยบริษัทนำเที่ยวรองรับต้นทุนน้ำมัน โดยจะขายแพกเกจทัวร์ 3 วัน 2 คืน ไม่เกิน 2,890 บาทต่อคน คาดว่าจะสามารถนำคนลงพื้นที่ภูเก็ตได้ไม่น้อยกว่า 4,000 คน ในช่วงจากนี้ไปถึงสิ้นเดือนตุลาคน 2548 ซึ่งเส้นทางที่วางไว้ในการเดินทางจะผ่าน 3 จังหวัด คือ ตรัง กระบี่ และภูเก็ต พร้อมกับมีการหยุดแวะให้นักท่องเที่ยวลงไปจับจ่ายยังจุดต่างๆ ซึ่งจะก่อให้เกิดการกระจายรายได้เผื่อแผ่ไปจังหวัดอื่นนอกเหนือจากภูเก็ตด้วย

“ในราคา 2,890 บาทต่อคน จะเป็นฟูลแพกเกจ คือมีที่พักและอาหารทุกมื้อ พร้อมไกด์นำเที่ยวตลอดทริป ซึ่งต่างจากเส้นทางเครื่องบินที่เริ่มต้น 3,200 บาท แต่จะได้เพียงตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และอาหารเช้าเท่านั้น ซึ่งหากทางการให้งบสนันสนุน เชื่อว่าจะทำให้เป้าหมายที่ต้องการดึงคนไทยเที่ยวภูเก็ตในช่วง 4 เดือนนี้ 250,000 คนเป็นไปได้ เพราะถ้ารอแต่เส้นทางเครื่องบินคงจะลำบาก เพราะเที่ยวบินมีจำกัด อีกทั้งตลาดระดับกลางลงล่างถือเป็นตลาดใหญ่ที่เขาต้องการไปเที่ยวแต่เงินน้อย”
กำลังโหลดความคิดเห็น