xs
xsm
sm
md
lg

รัฐบาลเตรียมรับมือเศรษฐกิจยุคโลกาภิวัฒน์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โดย ถนอม พิพิธยากร

นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สั่งการผู้เกี่ยวข้อง ออกนโยบาย รวมถึงแก้กฎเกณฑ์ต่าง ๆ รองรับกระแสโลกาภิวัฒน์ (Globalization) เพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต ที่จะรวดเร็วขึ้น รวมถึงการที่จีน ซึ่งคาดอนาคตจะเป็นเศรษฐกิจใหญ่-ทรงพลังที่สุดในโลก แทนที่สหรัฐ ประกาศลอยตัวค่าเงินหยวนแบบมีการจัดการ

นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยืนยันรัฐบาลกำลังเตรียมการให้สังคม-เศรษฐกิจไทย รองรับกระแสโลกาภิวัฒน์ (Globalization) ที่กำลังเกิดขึ้นต่อเนื่องปัจจุบัน และคาดจะรุนแรงขึ้นอีกอนาคต ซึ่งจะเห็นการเคลื่อนย้ายเสรีของกระแสคน เงิน สังคมและบริการ ความรู้และข้อมูลข่าวสาร ต่อเนื่อง

รัฐบาลจึงต้องทำให้สังคม-เศรษฐกิจไทย รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นนี้ โดยการแก้ไขกฎ ระเบียบ กฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การมีนโยบายรองรับ การเตรียมพร้อมด้านบุคลากร เพื่อให้ประเทศไทยใช้ประโยชน์จากกระแสโลกาภิวัฒน์ ได้สูงสุด รวมถึงป้องกันอันตรายจากกระแสนี้ได้แต่เนิ่น ๆ และทันท่วงที

ซึ่งขณะนี้ ที่เห็นเป็นรูปธรรม โดยนายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย รองนายกรัฐมนตรี เสนอแก้กฎหมาย กฎระเบียบ จูงใจ และป้องกัน การไหลเข้าของแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าไทย ที่ผิดกฎหมาย ขณะที่ต้องรองรับกระแสไหลของของการลงทุนจากต่างประเทศ ที่ถูกกฎหมาย เพื่อให้ประเทศไทยได้รับประโยชน์เต็มที่

ขณะที่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยแต่ละช่วง ต้องการคนที่มีความสามารถแตกต่างกัน เช่น ดึงต่างชาติ เข้ามาสอนภาษาอังกฤษ ให้เด็กไทย ซึ่งภาษาอังกฤษ จำเป็นมากในสังคมโลกปัจจุบัน ขณะที่ภาษาจีนกำลังทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ

โดยเฉพาะหลังจากที่เศรษฐกิจจีน กำลังขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงการประกาศลอยตัวค่าเงินหยวน แบบมีการจัดการ (Managed Float) พฤหัสบดีที่แล้ว ซึ่งธนาคารกลางปักกิ่ง จะ “จัดการ” ไม่ให้ค่าเงินหยวนเคลื่อนไหวเกิน 0.3% แต่ละวัน เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ

นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ” มั่นใจหลังจีนประกาศปรับค่าเงินหยวน ลอยตัวแบบมีการจัดการ จะส่งผลดีภาคส่งออก และเศรษฐกิจไทยโดยรวม เพราะการแข็งค่าเงินบาทจะน้อยกว่าหยวน ขณะที่คาด ค่าหยวนจะแข็งขึ้นอีกจากปัจจุบัน รวมถึงเศรษฐกิจปักกิ่งจะแข็งแกร่ง-ใหญ่ที่สุดในโลก ในอนาคต จากปัจจุบันอยู่อันดับ 3 รองจากสหรัฐ และญี่ปุ่น จากพลังคนจีน ที่มีอยู่มาก

พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่าทีมเศรษฐกิจไทย นำโดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและรองนายกรัฐมนตรี ได้ประเมินผลปรับค่าเงินหยวนของจีน แบบมีการจัดการ (Managed Float) ที่ส่งผลให้หยวนแข็งขึ้นทันที 2% เทียบดอลลาร์สหรัฐ วันพฤหัสบดีที่แล้ว จะเป็นผลบวกเศรษฐกิจไทย

เขากล่าวว่าปัจจุบัน จีนค่าแรงและราคาสินค้าถูกมาก แต่เมื่อค่าเงินหยวนแข็งขึ้น สินค้าจีนจะแพงขึ้นตาม ทำให้การส่งออกของไทยน่าจะดีขึ้น

ส่วนค่าเงินบาท ก็แข็งค่าขึ้นตาม แต่แข็งน้อยกว่าของจีน ขึ้นประมาณ 1.27% วันพฤหัสบดี ซึ่งจะเป็นประโยชน์การส่งออกของไทย เท่าที่ประเมินภาพรวม ทั้งหมดจะเป็นผลบวกต่อประเทศไทย

ค่าเงินจีนคงที่มานาน เทียบดอลลาร์ ตั้งแต่ช่วงก่อนวิกฤติเศรษฐกิจเอเซีย-ไทย แต่จีนไม่ยอมปรับขึ้นค่าเงินหยวน ตามแรงบีบสหรัฐ เพราะกลัวกระทบกับประเทศ ที่ขณะนั้นกำลังแย่ พ.ต.ท.ทักษิณถือว่าจีนเสียสละพอสมควรช่วงนั้น แต่ถึงตอนนี้ เศรษฐกิจจีนแข็งกว่าตอนนั้นมาก

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การปรับลอยตัวค่าเงินหยวนแบบมีการจัดการรอบนี้ จีนจึงปรับค่าเงินหยวนเพียงประมาณ 2% เทียบดอลลาร์ เพราะถ้าปรับพรวดพราด จะมีปัญหาต่อจีนเอง เพราะความเป็นจริง เศรษฐกิจจีนแข็งขึ้นมากจากวันนั้นมาถึงวันนี้

ฉะนั้น 2% ถือเป็นการแข็งค่าซึ่งยังไม่มาก อนาคต มีโอกาสที่เงินหยวนจะแข็งค่าขึ้นอีก

รัฐบาลกำลังเดินหน้าผลักดันสังคม-เศรษฐกิจไทย ได้รับประโยชน์เต็มที่จากระแสโลกาภิวัฒน์ ที่จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย
กำลังโหลดความคิดเห็น